ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 15-21 ส.ค. 2563
มติ ศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน ยัน ไม่เกี่ยวชุมนุมการเมือง
“กฎหมายและระบบต่าง ๆ ที่เราจะต้องพัฒนาขึ้นเพื่อจัดการ (ควบคุมระบาด) ยังใช้ไม่ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะการจัดทำระบบติดตามตัวและการกักตัว ต้องมีการบูรณาการกันทั้งประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องให้มีการขยายระยะเวลา (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)”
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
โฆษก ศบค.
ที่มา: บีบีซีไทย
วันที่ 21 ส.ค. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบให้เสนอ ครม. พิจารณาขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั่วราชอาณาจักรเพิ่มอีก 1 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2563
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่่อข่าวว่า ที่ต้องมีการต่อเวลานั้น เพราะต้องมีการควบคุมและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทำให้ทุกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่นขึ้น โดยยืนยันไม่เกี่ยวกับ สถานการณ์การชุมนุม ต่อต้านรัฐบาลขณะนี้
กรณีที่มีข่าวตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในหญิงไทย 2 ราย ทั้งที่ทั้งสองผ่านการกักตัวในสถานที่กักตัวของรัฐมาแล้ว นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค และ รศ. นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงว่า ในรายแรกนั้นเป็นเพียงซากเชื้อ ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนอีกรายนั่นยังต้องรอผลการตรวจอีกครั้งหนึ่ง
อ่านเพิ่มเติม
บีบีซีไทย — โควิด-19: ศบค. เตรียมเสนอ ครม. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึงสิ้นเดือน ก.ย.
วอยซ์ทีวี — ‘ประวิตร’ ยืนยันต้องต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อีก 1 เดือน ไม่เกี่ยวการชุมนุม ด้าน ‘นพ.อุดม คชินทร’ ขออดทนอีก 1 เดือน
Hfocus — สธ.แถลงร่วม รพ.รามาฯ ตรวจรายแรกพบซากไวรัส ไม่แพร่เชื้อ อีกรายขอตรวจซ้ำ!
กสม. แถลง ชุมนุมได้ แต่ห้ามก้าวร้าว จาบจ้วง – ข้อเสนอเรื่องสถาบันฯ คือ “ปฏิรูป” ไม่ใช่ “ล้มล้าง”
วันที่ 20 ส.ค. 2563 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เผยแพร่แถลงการณ์ กสม. เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายในการชุมนุมยึดหลักสิทธิมนุษยชนและใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา จำนวน 8 ข้อ โดยสรุปใจความได้ว่า
- การชุมโดยสงบและปราศจากอาวุธนั้นทำได้ แต่ต้องไม่เป็นการพูด แสดงท่าทาง หรือกระทำโดยวิธีการอื่น ที่ก้าวร้าว ดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือจาบจ้วง หรือการใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้อื่น
- เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมีสิทธิแสดงความคิดเห็น ความคิดเห็นนั้นต้องได้รับการพิจาณณาอย่างจริงจัง และเด็กต้องเคารพสิทธิและชื่อเสียงของผู้อื่น
- ข้อเรียกร้องของการชุมนุมต้องชัดเจน เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ผูกขาดความถูกต้องฝ่ายเดียว
- ผู้ชุมนุมต้องมีมาตรการป้องกันโควิด-19
- เจ้าหน้าที่รัฐต้องใช้ “หลักการสำคัญสำหรับการบริหารจัดการการชุมนุมอย่างเหมาะสม 10 ประการ”
- หากมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ รัฐต้องจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัย เพื่อเป็นหลักประกันว่าเด็กและเยาวชนจะไม่ถูกกระทำรุนแรงใดๆ
- ขอให้ทุกฝ่ายเคารพกัน เปิดใจรับฟังกัน ไม่ยั่วยุ–ใช้ความรุนแรงกัน
- ขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักสิทธิมนุษยชนและใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา รับฟังปัญหาและพิจารณาทางออกร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ทางด้านอดีต กสม. 6 ราย (วสันต์ พานิช, สุนี ไชยรส, นัยนา สุภาพึ่ง, นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ, เตือนใจ ดีเทศน์ และอังคณา นีละไพจิตร) ก็ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน โดยมีจำนวน 5 ข้อ สรุปได้ดังนี้
- รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องยุติการคุกคามผู้ชุมนุมทุกรูปแบบ ทั้งการเฝ้าติดตามและการคุกคามด้วยกฎหมาย
- รัฐบาลควรใช้หลักรัฐศาสตร์แก้ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดมากกว่ามองว่าใครผิด–ถูกใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
- ข้อเสนอเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของผู้ชุมนุมเป็นไปเพื่อการปฏิรูป ไม่ใช่ละเมิดหรือล้มล้าง
- รัฐบาลควรแก้รัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา
- รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการควรดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพของเด็ก ต้องรับประกันว่าจะไม่มีการลงโทษเด็กด้วยความรุนแรงทุกรูปแบบ และถ้ามีปัญหาทางกฎหมายต้องช่วยเหลืออย่างเหมาะสม
อ่านเพิ่มเติม
ประชาไท — กสม.ออกแถลงการณ์ยืนยันเสรีภาพในการแสดงออก แต่ต้องไม่ก้าวร้าว ดูหมิ่นเหยียดหยาม จาบจ้วง
เฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit — 21 สิงหาคม 2563 : #แถลงการณ์ #ขอให้เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น #ยุติการคุกคาม #และการดำเนินคดีอาญาต่อนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชน
คลังโต้ กู้เพิ่ม 2.14 แสนล้าน “ไม่ได้ถังแตก”
จากกรณีที่ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบล่าสุด (18 ส.ค. 2563) เห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้เงินเกินปีงบประมาณ 2563 อี 2.14 แสนล้านบาท เป็นคนละส่วนกับที่เคยกู้ชดเชยขาดดุลงบประมาณ 2563 จำนวน 4.69 แสนล้านบาท เพราะจำนวนนั้นกู้เต็มไปแล้ว จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงการคลัง “ถังแตก”
ล่าสุด กระทรวงการคลังชี้แจงว่า สถานะเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.ค. 2563 อยู่ที่ระดับ 282,141 ล้านบาท และคาดว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เงินคงคลังจะอยู่ในระดับที่เพียงพอที่จะรองรับการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ และดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไป
ส่วนการกูเพิ่ม 2.14 แสนล้านบาทนั้น เป็นไปเพื่อเตรียมการรองรับการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และเพื่อให้การดำเนินมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม
ไทยพีบีเอส — “คลัง” โต้ข่าวรัฐบาลถังแตก พิษ COVID-19 กู้เพิ่ม 2.14 แสนล้าน
“น้องเมย” เสียชีวิต 3 ปีไม่มีคำตอบ ซ้ำโดนหมายเรียกเกณฑ์หาร
ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “เมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตในวันที่ 17 ต.ค. 2560 ณ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนวันนี้ผ่านมาเกือบ 3 ปีแต่คดียังไม่มีความคืบหน้า แถมล่าสุด ครอบครัวของภคพงศ์กลับได้รับจดหมายจากที่ทำการสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี แจ้งว่าภคพงศ์หนีทหาร ให้มาชี้แจงเหตุผลที่ไม่มาแสดงตนขอรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ปี 2563 พร้อมทั้งระบุว่าหากไม่ปฏิบัติตตามจะมีโทษอาญา
กรณีการเสียชีวิตของภคพงศ์นั้น ทางกองทัพแถลงว่าเป็นเพราะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยไม่พบหลักฐานว่ามีใครสั่งลงโทษหรือทำร้ายภคพงศ์แต่อย่างใด แต่ทางครอบครัวไม่เชื่อ และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของภคพงศ์ ซึ่งจนถึงทุกวันนี้คดียังไม่จบ
อ่านเพิ่มเติม
ผู้จัดการออนไลน์ — ขำไม่ออก! “น้องเมย” ดับปริศนานาน 3 ปีไร้คำตอบจากกองทัพ วันนี้ยังเจอหมายเรียกเกณฑ์ทหาร
ไทยพับลิก้า — ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: สรุปเหตุการณ์ ‘น้องเมย’ นร.เตรียมทหาร ตาย และ “บังกลาเทศ-เมียนมา ‘จับมือ’ ส่งโรฮิงญากลับบ้าน”
ไทยพับลิก้า — กองทัพไทย สรุปผลสอบ “น้องเมย” เสียชีวิต หัวใจล้มเหลว ไม่พบหลักฐาน สั่งลงโทษ – ทำร้าย
บีบีซีไทย — 1 ปีของครอบครัวตัญกาญจน์ กับ 4 คดีคืนความยุติธรรมให้น้องเมย
ฝ่ายค้านรัสเซียป่วยหนักเฉียบพลันคาดถูกวางยาพิษ
อเล็กเซ นาวาลนี แกนนำฝ่ายค้านรัสเซีย ผู้ต่อต้านการทุจริตและคู่ปรับคนสำคัญที่มักวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ล้มป่วยเฉียบพลันขณะโดยสารเครื่องบิน ทำให้นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินเพื่อส่งตัวนาวาลนีไปรักษาพยาบาล และพบว่ามีอาการได้รับสารพิษ
โฆษกหญิงของนาวาลนีระบุว่ามีความสงสัยว่านาวาลนีอาจได้รับสารพิษบางอย่างจากน้ำชา ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขาดื่มในเช้าวันนั้น
อย่างไรก็ดี แพทย์ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นการวางยาพิษ และยังได้ตั้งข้อสันนิษฐานเรื่องการได้รับพิษตามธรรมชาติเอาไว้ด้วย
อ่านเพิ่มเติม
บีบีซีไทย — ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียคู่ปรับปูติน ป่วยสาหัสเข้าห้องไอซียู คาดถูกวางยาพิษ
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
