ดีแทคเปิดกลยุทธ์ “เบอร์มงคล” รับพฤติกรรมคนไทยเชื่อเรื่องดวง พบผลสำรวจคนไทย 74% เชื่อเลขมงคล จับมือ “หมอช้าง” นักโหราศาสตร์ ปลุกตลาดเบอร์มงคล เผยศาสตร์ค้นหาเลขมงคลเฉพาะคน ผลรวมเบอร์โทรศัพท์-วันเกิด-เลขสี่ตัวท้ายเบอร์โทรศัพท์
นายฮาวริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการค้นหาเรื่องความเชื่อและเรื่องมงคลมากกว่า 400 กว่าล้านครั้ง และเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ภายใน ระยะเวลา 1 ปี สอดคล้องกับผลสำรวจของดีแทคพบว่า คนไทยมีความเชื่อเรื่องเบอร์มงคล 74% และคิดว่าต้องมีเบอร์มงคลใช้ถึง 88% โดยพบว่าเหตุผลต่างๆ คือ 85% เปลี่ยนเสริมความมั่นใจในด้านความรัก การงาน การเงิน, 35% พบปัญหาในชีวิต เชื่อว่ามีเบอร์มงคลแล้วชีวิตจะดีขึ้น, 12% เปลี่ยนเพราะคนอื่นหรือเพื่อนทักให้เปลี่ยน, 8% เปลี่ยนเพราะเหตุผลอื่นๆ และ 7% หมอดูทักให้เปลี่ยน
อย่างไรก็ตามดีแทคอ้างว่า ดีแทคเป็นบริษัทแรกที่เข้ามาทำตลาดกับ “เบอร์มงคล” จากพฤติกรรมของคนไทย ทำให้ปัจจุบันดีแทคมีสัดส่วนผู้ใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์มงคลมากกว่า 20% เป็นกลุ่มเบอร์สวยประมาณ 30% และอื่นๆ เป็นประเภทเบอร์ทั่วไป
นายฮาวริกล่าวอีกว่า เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ดีแทคได้เปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับการตรวจสุขภาพเบอร์ ทั้งบนเว็บไซต์และศูนย์บริการดีแทคทั่วประเทศ พร้อมทั้งขายเลขเบอร์มงคลในราคาเริ่มต้น 499 บาท โดยร่วมคัดสรรเบอร์มงคลโดย “อ.ช้าง ทศพร ศรีตุลา” และจากผลงานที่ผ่านมาทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ นับตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2563 นอกจากนั้นความสนใจของผู้บริโภคยังเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เห็นได้จากยอดค้นหา “เบอร์มงคลดีแทค”
นายฮาวริกล่าวอีกว่า ความสำเร็จของการทำตลาดเบอร์มงคลมาจาก 3 กลยุทธ์หลัก คือ (1) การพัฒนาแพลตฟอร์มเช็กสุขภาพเบอร์ในรูปแบบดิจิทัล (2) การสร้างสรรค์เบอร์มงคลที่ใช้โหราศาสตร์ชื่อดังอย่างหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา โดยคำนวณจากวันเกิด เลขผลรวม และคู่เลขมงคล และ (3) การวางแผนการสื่อสารครบทุกสื่อ ตั้งแต่สื่อทีวีรวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย
ด้านนายทศพร ศรีตุลา หรือหมอช้าง นักโหราศาสตร์ชื่อดัง อธิบายถึงปรากฏการณ์ของเบอร์มงคลว่าทั่วโ,กมีความเชื่อเรื่องตัวเลขมานานนับร้อยปี ซึ่งผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ เช่นคนจีนจะชอบเลข 8 เพราะพ้องเสียงกับความมั่งคั่งร่ำรวย คนญี่ปุ่นชอบเลข 7 ฮ่องกงชอบเลข 6 ที่พ้องเสียงกับคำว่าโชคดีในภาษากวางตุ้ง หรือกรณีของคนไทยจะชอบเลข 9 เพระาพ้องเสียงกับคำว่าก้าวหน้า
ศาสตร์ในการทำนายเบอร์มงคลของหมอช้าง แบ่งเป็น 3 แบบรวมเข้าด้วยกัน ได้แก่
(1) ศาสตร์ผลรวม โดยคำนวณจากผลรวมของตัวเลขทั้ง 10 หลักในเบอร์โทรศัพท์ เช่น ผลรวม 51 56 45 59 เป็นผลรวมที่เป็นมงคล
(2) ศาสตร์การคำนวณจากวันเกิด
(3) ศาสตร์คู่เลขมงคล คือตำแหน่ง 4 ตัวท้ายในเบอร์โทรศัพท์
ที่สำคัญคือทฤษฎี “คู่เลข” โดยการดูตัวเลขในแต่ละตำแหน่งของเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งตำแหน่งที่มีความสำคัญกับตัวเรามากที่สุดใน 7 ตัวหลักของเบอร์โทรศัพท์คือเลขหลักหน่วย ตามมาด้วยหลักสิบ หลักร้อย ลดหลั่นกันไป แต่ในความเป็นจริงจะพิจารณาจากเลข 4 ตัวท้าย แต่ถ้าดูทั้งหมด 7 ตัวก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
หมอช้างกล่าวอีกว่า “มันมีเรื่องเลขมงคล อย่าง 8 อยู่คู่กับ 3 จะดีมาก 3-8 เลขที่ผมบอกวันนี้มันยังไม่ฮิต 38 ถ้าเป็นสายฮ่องกงหรือจีน ทะเบียนรถที่แพงที่สุดคือ 38 เพราะในจีน เลข 3 หมายถึงการก่อกำเนิด เริ่มต้น 8 หมายถึงอินฟินิตี้ 38 หมายถึงเล่นหุ้น คนทำออนไลน์ ยูทูปเบอร์ เพราะเลข 8 หมายถึงเงา ส่วน 28 เหมาะกับคนที่หมุนเงินเยอะ แต่ถ้าค้าขายจะเป็น 68 คือเรื่องของโชคลาภความมั่งคั่ง ส่วนเลขสามตัวจะกลายเป็น 168 หมายถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ตัวเลข 8 เลขเดียวเป็นตัวบอกว่าอะไรมาอยู่คู่กันแล้วดี”
โดยเบอร์มงคลสำหรับศาสตร์ของหมอช้าง เเบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เบอร์มงคลทั่วไปกับเบอร์มงคลเฉพาะคุณ แต่ท่ามกลางกระแสนิยมของเบอร์มงคลในตลาด ปัญหาหนึ่งที่มักพบเจอในตลาดเบอร์มงคลคือ ยังไม่มีมาตรฐานในการตรวจสอบว่าหมายเลขดังกล่าวมีความมงคลมากน้อยเท่าไร ดังนั้นดีแทคและหมอช้างจึงได้ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมตรวจสอบเบอร์มงคลขึ้น โดยผสานทฤษฎีทั้ง 3 ของเบอร์มงคลมาใช้อ้างอิงในการตรวจสอบหรือ Number Health Check โดยจะปรากฏผลว่าหมายเลขที่ใช้คือในปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ใด ซึ่งมีตั้งแต่เกรด D ถึง A+
“คนไม่ได้ดูราคาก่อน เขาดูความหมายกับเขา บางคนเลือกเบอร์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นมาหน่อย ถ้าเขาไปซื้อเบอร์ข้างนอกหมื่นสองหมื่นเขาไม่าได้อะไรเลย แต่ถ้ามาซื้อกับดีแทคมีสิทธิพิเศษมาเป็นขบวนใหญ่” หมอช้างกล่าว
ทั้งนี้ “เบอร์มงคลเฉพาะคุณ” ของดีแทคจะถูกคัดเลือกจากเบอร์ในระบบกว่า 100,000 เบอร์ เหลือแค่เพียง 10 เบอร์ หรือ 100 เบอร์
นอกจากนี้หมอช้างทิ้งท้ายว่า “ทุกครั้งที่ดวงดาวเปลี่ยน บ้านเมืองของเรากำลังจะเปลี่ยนแปลง แต่ชุดใหญ่คือเดือนหน้า คือวันที่ 9 เปลี่ยนเข้าวันที่ 10 กันยายน ดาวที่เปลี่ยนคือพระราหู แต่ดาวพระราหูไม่ใช่ดาวที่มีจริง แต่มันเป็นจุดตัดของโลก พระอาทิตย์ และพระจันทร์ ผลของพระราหู”
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
