ThaiPublica > เกาะกระแส > คดีที่หายไป- 5 ปีคดี “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ ภรรยาเขียนจดหมาย “ยังรอคอยความยุติธรรมให้กับครอบครัวของฉัน”

คดีที่หายไป- 5 ปีคดี “บิลลี่” พอละจี รักจงเจริญ ภรรยาเขียนจดหมาย “ยังรอคอยความยุติธรรมให้กับครอบครัวของฉัน”

19 เมษายน 2019


“พิณนภา พฤกษาพรรณ” หรือ “มึนอ” กับลูกๆ มึนอเป็นภรรยาของบิลลี่ “พอละจี รักจงเจริญ” แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยมานาน 5 ปีแล้ว, ที่มาภาพ: แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

17 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 5 ปี การหายตัวไปของ “พอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” นักกิจกรรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และจากนั้นก็ไม่มีผู้พบเห็นเขาอีกเลย

ก่อนที่จะหายตัวไป บิลลี่เป็นนักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนชาวกะเหรี่ยง เขากำลังร่วมมือกับชาวบ้านคนอื่นและนักเคลื่อนไหวในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อเตรียมฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าวางเพลิงเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวบ้านระหว่างปี 2553 และ 2554

หลังจากบิลลี่หายตัวไป “พิณนภา พฤกษาพรรณ” หรือ “มึนอ” ภรรยาของบิลลี่ ร่วมกับเครือข่ายองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้มีการไต่สวนการหายตัวไปของบิลลี่ แต่ต่อมาศาลยกคำร้อง โดยระบุว่าหลักฐานไม่เพียงพอ

จากนั้น มึนอได้ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้เป็นคดีพิเศษ จนกระทั่งปี 2561 ดีเอสไอได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ และเริ่มสอบสวนเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2561

แคทเธอรีน เกอร์สัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า ในวาระครบรอบการหายตัวไปของบิลลี่ เน้นให้เห็นถึงภัยคุกคามร้ายแรงที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญ ทั้งยังเผยให้เห็นความล้มเหลวของรัฐในการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย

วันนี้ควรเป็นวันที่เตือนให้รัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาลใหม่ ตระหนักถึงพันธกรณีของตนในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน โดยหากจำเป็น รัฐต้องให้ความคุ้มครองเป็นการเฉพาะและมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้ต้องเผชิญกับการตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ เพียงเพราะพวกเขาต้องการให้ประเทศนี้เท่าเทียมและเป็นธรรมขึ้นเท่านั้นเอง

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องทางการไทยให้การประกันว่า จะดำเนินการสอบสวนคดีบิลลี่อย่างเป็นอิสระ ไม่ลำเอียง และรอบด้าน โดยต้องนำไปสู่การเยียวยาครอบครัวและผู้ได้รับผลกระทบทุกคนอย่างเต็มที่ รวมทั้งให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษด้วย”

“รัฐบาลใหม่ยังควรกำหนดให้การผ่านร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …. เป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณา หลังมีการแก้ไขเนื้อหาให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย รัฐบาลใหม่ยังต้องปฏิบัติตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่จะให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการสูญหายของบุคคลโดยการบังคับและโดยไม่สมัครใจ ซึ่งได้มีการลงนามไปแล้ว”

“ท้ายนี้ รัฐบาลต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายซึ่งยังคงอนุญาตให้มีการควบคุมตัวบุคคลในสถานที่ควบคุมตัวอย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการควบคุมตัวโดยไม่มีการแจ้งข้อหา หรือนำตัวมาไต่สวนในศาล” แคทเธอรีนกล่าวทิ้งท้าย

ด้าน “มึนอ-พิณนภา” เขียนจดหมายในวาระครบรอบ 5 ปีการหายตัวไปของสามี ระบุว่า ในวาระครบรอบ 5 ปีการหายตัวไปของบิลลี่ ทุกๆ ปีในช่วงสงกรานต์ เป็นวันที่ทุกๆ คนอยู่กับครอบครัว สนุกสนานมีความสุขกับครอบครัวกัน มีส่วนน้อยที่ติดงานและไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว รวมถึงครอบครัวของฉัน

สามีของฉัน ถูกทำให้หายไปในช่วงสงกรานต์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 โดยมีคนพบเห็นอยู่กับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นผู้สุดท้าย พร้อมกับรถเครื่องส่วนตัวสีเหลืองดำ พ.ร.บ.ขงพ.988 กับกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เกิดเหตุที่ด่านมะเร็ว ปากทางเข้าหมู่บ้านโป่งลึก บางกลอย ข้อหานำน้ำผึ้งป่าออกจากป่า

เพราะฉะนั้นช่วงสงกรานต์ของทุกๆปี ในขณะที่หลายๆ คนมีความสุขสนุกสนานกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ครอบครัวของฉันมีความรู้สึกทั้งเศร้าบ้าง เฉยๆ บ้าง สนุกกับเขาบ้างเพียงเล็กน้อยแค่นั้นเอง และยิ่งครบรอบห้าปีนี้ ยังมีพ่อที่คอยช่วยเหลือฉันจนวินาทีสุดท้าย สูญเสียไปอีกท่าน ฉันคงต้องทนอีกนานที่ชีวิตนี้ต้องมีครบทุกรูปแบบ เศร้า เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด ร้อน แต่ยังมีความหวัง ทั้งยังรอคอยความยุติธรรมให้กับครอบครัวของฉัน

ทั้งฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ขอเพียงเราทุกคน แม้ว่าจะเป็นชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ หรือจะมียศมีตำแหน่งอะไร หันหน้าเข้ามาคุยเจรจากัน อย่าดีแต่คอยจ้องจับผิดชาวบ้าน และให้รัฐบาลพิจารณากฎหมายบุคคลสูญหายให้ผ่านไวๆ ใช้อย่างเคร่งครัด รวมถึงคุ้มครองบุคคลที่เรียกร้องสิทธิชุมชน ครอบคลุมให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทยและทั่วโลก

ที่มาภาพ: แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

อ่านเพิ่มเติม

  • DSI พบหลักฐานสำคัญ เชื่อมโยงคดีการหายตัว “พอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ” แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก – บางกลอย