ข่าวประชาสัมพันธ์
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยถึงไอคอมสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคตว่า ไอคอนสยามได้ถูกสร้างขึ้นจากปณิธานที่จะเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทยที่มีอยู่ในชาติ นำเสนอในรูปแบบของความวิจิตรล้ำสมัย หลอมรวมเป็นที่สุดของเอกลักษณ์และวิถีไทยอันสง่างาม พร้อมกับคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดของโลกมารวบรวมไว้ ณ ที่แห่งเดียวกัน เป็นเมืองแห่งความรุ่งโรจน์ที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของไทยกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลกเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอความเป็นไทยสู่เวทีโลก โดยไอคอนสยามได้พลิกโฉมการพัฒนาโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่ ด้วยคอนเซปต์ “การสร้างประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย” หรือ Creating Shared Value และ “การร่วมกันรังสรรค์” หรือ Co-Creation ซึ่งเราได้ทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วอย่างเป็นรูปธรรม เต็มรูปแบบ และในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใดในโลก
“ไอคอนสยามคือจุดหมายปลายทางใหม่ของโลก หรือ Global Destination ที่เกิดจากการรวมพลังความคิดสร้างสรรค์ระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ จาก หัวใจคนไทยหลายภาคส่วนผู้มีความรู้ความสามารถจากชุมชนทั่วประเทศ ภาคธุรกิจ และภาคราชการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญแขนงต่างๆ จากหลายประเทศที่รักเมืองไทย รวมแล้วเป็นทีมผู้ร่วมสร้างสรรค์กว่า 1,000 คน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีความปรารถนาที่จะช่วยกันสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้เป็นตัวแทนจินตนาการแห่งยุค เสริมสร้างให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย และช่วยกันสืบทอดความงดงามของความเป็นไทยสู่ชนรุ่นหลัง อีกทั้งให้คนทั่วโลกที่มาเยี่ยมชมรู้สึกหลงรักและประทับใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น”
ด้านนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า แนวคิดสำคัญของไอคอนสยาม ทั้งเรื่องสิ่งที่ดีที่สุดของไทยบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก และเรื่อง Co-Creation ถูกนำมาเป็นโจทย์ตั้งต้นการสร้างสรรค์ “มหาปรากฏการณ์งานเปิดเมืองไอคอนสยาม วันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ด้วย จึงเกิดเป็นการผนึกกำลังครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งการจับมือกันของอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์สุดยอดของประเทศไทย ได้แก่ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน), ซีเอ็มโอ กรุ๊ป, บริษัท แม็กซ์ อิมเมจ จำกัด, บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด, บริษัท คือ จำกัด, บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับ อินเทล บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลก เป็นการตอกย้ำเรื่องสิ่งที่ดีที่สุดของไทยบรรจบกับสิ่งที่ดีที่สุดของโลก นอกจากนั้นยังมีการรวมพลังของศิลปินต่างชาติชื่อก้องโลก ศิลปินระดับชาติจากหลากหลายสาขา นักแสดงมืออาชีพ และนักแสดงอาสาจากทั่ว ประเทศ ตอกย้ำคอนเซปต์ Co-Creation ซึ่งนับผู้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์งานเปิดเมืองไอคอนสยามมีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ร่วมสร้างผลงานมาสเตอร์พีซและการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ ภาย ใต้ธีม “Legendary Party ฉลองการเปิดตำนานบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่และตื่นตาตื่นใจ ซึ่งกิจกรรมการ แสดงต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมายนับไม่ถ้วน ครอบคลุมพื้นที่ทุกชั้นของไอคอนสยาม
เตรียมเปิดตัวด้วยชุดการแสดงจากนานาชาติ ประสานศิลปะไทย
ในงานเปิดตัวในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ไอคอนสยามจะเริ่มต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยการแสดงผสมผสานมหรสพชั้นสูง แสดงความงดงามแห่งศิลปะไทยในแนวทางผสมผสาน ร่วมกับการเชิดหนังใหญ่ประยุกต์ ซึ่งเป็นมหรสพชั้นสูงอย่างหนึ่งของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยนำเอาผลงานศิลปะของศาสตราจารย์กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2540 สาขาทัศนศิลป์ ศิลปินดีเด่นในด้านจิตรกรรมและสื่อผสมร่วมสมัยของไทย ซึ่งได้รับการยกย่องทั้งในและต่างประเทศ มาเชิดแสดงด้วยผู้เชิดหนังระดับอาจารย์จากวัดขนอน ร่วมกับการแสดงหุ่นละครเล็กซึ่งเป็นการแสดงศิลปะการเชิดโดยผู้ชำนาญการเนรมิตให้หุ่นกระบอก ตัวพระตัวนางในวรรณคดีได้มาโลดแล่นราวกับมีชีวิต ร่วมต้อนรับแขกผู้มาร่วมงานอย่างน่ารักและเป็นกันเอง นอกจากนั้นยังมีการแสดงระดับโลกหมู่มวลผีเสื้อและดอกไม้ในรูปแบบนักแสดงขายาว หรือ Stilt Walker (สติลต์ วอล์กเกอร์) จาก Empress Stilt Dance (เอ็มเพรสส์ สติลต์ แดนซ์) คณะโชว์ชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย มาร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่
การแสดงที่เป็นไฮไลท์ ณ บริเวณ River Park ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คือการแสดงชุด “Eternal Prosperity – โรจนนิรันดร” การแสดงผสมผสานศิลปวัฒนธรรมเข้ากับความล้ำยุค เพื่อสะท้อน ความรุ่งเรืองในอดีตที่สืบสานและส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน ความก้าวล้ำ และความเจิดจรัสของอนาคต ที่ซึ่งความรุ่งเรืองจะแผ่กระจายไปทั่ว โดยการเนรมิตพื้นที่ริมเจ้าพระยาให้กลายเป็นเวทีการแสดงขนาดใหญ่ อลังการด้วยประติมากรรมอันวิจิตร ผลงานการออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ติดตั้งเหนือพื้นที่การแสดงขนาดใหญ่กว่า 1,000 ตารางเมตร รองรับการแสดงผสมผสาน นาฏศิลป์ไทยประเพณี นาฏศิลป์ไทยร่วมสมัย นาฏศิลป์สากล และการแสดงกายกรรมผาดโผน ซึ่งได้รับความร่วมมือออกแบบการแสดงโดยสถาบันชั้นนำระดับประเทศหลายแห่ง ประกอบการแสดงดนตรีจากวง Thailand Philharmonic Orchestra โดยการนำของ รศ. ดร.สุกรี เจริญสุข บรรเลงบทเพลงซึ่งประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับไอคอนสยาม ชื่อเพลงว่า ICON of DREAMS จากการ ประพันธ์ทำนอง โดย ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ ร่วมกับ คุณสราวุธ เลิศปัญญานุช คำร้องโดย คุณดลชัย บุณยะรัตเวช และได้รับเกียรติจากอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บรรเลงลำนำขลุ่ยไทยร่วมด้วย
การแสดงชุด “Eternal Prosperity – โรจนนิรันดร” ยังประกอบไปด้วยความตื่นตาตื่นใจครั้งแรกใน ประเทศไทยของพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” เรือสำเภาโบราณขนาดมหึมากลับมา ล่องบนแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ในมิติใหม่ผสานเทคโนโลยีล้ำยุค ที่สุดแห่งความยิ่งใหญ่จากความ ร่วมมือกับ Intel บริษัทผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก สร้างสรรค์ภาพสุดอลังการบนฟากฟ้าด้วยขบวนโดรนจำนวนกว่า 1,500 ลำ ถือเป็นการแสดงโดรนแปลอักษรครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่า Winter Olympic ที่ประเทศเกาหลีเมื่อปีที่ผ่านมา แปรขบวนและส่องแสงปรากฏเป็นภาพที่แสดงถึงเอกลักษณ์แห่งสยามประเทศ ร่วมด้วยการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงชื่อก้องโลก เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดมากมาย และยังเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ทำการแสดงร่วมกับนักแสดงสมัครเล่นจากทั่วประเทศไทยกว่า 500 คน ปิดท้ายด้วยการแสดงระบำ สายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการแสดงชุดนี้ จะทำการแสดงในเวลา ประมาณ 20.00-22.00 น. ซึ่งจะผสมผสานไปกับการแสดง Lighting Show ตระการตาบนสองอาคารที่พักอาศัยสุดหรูหรา “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” และ “เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ” สาดส่องแสงเจิดจรัส เพื่อบอกเล่าความภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่ทรงคุณค่าและสง่างาม
ต่อจากนั้นจะเป็นการแสดงร่ายรำผสมผสานกายกรรมผาดโผนที่ตื่นเต้นเร้าใจและสวยงามอลังการ โดยออกแบบเป็นเรื่องราวที่สะท้อนศิลปะอันงดงามของงานประดิษฐ์และการร้อยมาลัยของไทย เพื่อแสดงออกถึงความยินดีในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนไอคอนสยามด้วยหัวใจ ณ บริเวณ โถงกลาง ชั้น M ของไอคอนสยาม ตระการตาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยความงดงามของเวทีการแสดงขนาดยักษ์ สูงกว่า 17 เมตร ประดับเวทีด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง และมาลัยอุบะดอกไม้ขนาดใหญ่ ประกอบการแสดงร่ายรำที่ออกแบบเป็นพิเศษร่วมด้วยการแสดงผาดโผนและต่อตัวกลางอากาศ โดยคณะนักแสดงกายกรรมจากประเทศจีน และการแสดงดนตรีของวงเอกรงค์ ซึ่งควบคุมวงโดยอาจารย์จิรพรรณ อังศวานนท์ นักดนตรีและนักประพันธ์เพลงผู้มีชื่อเสียง ร่วมกับเหล่านักดนตรีมากฝีมือจากนานาประเทศ และขับขานบทเพลงโดยศิลปินสาวระดับ DIVA ของไทย คุณกบ เสาวนิตย์ นวพันธ์
การแสดงชุด “โสภาอาภรณ์พรรณ สร้างสรรค์ร่วมสมัย” ณ บริเวณชั้น 1 จัดแสดงผลงานจากการรวมตัวครั้งสำคัญของ 4 ดีไซเนอร์ชั้นนำของไทย ได้แก่ คุณจิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล คุณวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข คุณธีระ ฉันทสวัสดิ์ และคุณพลัฏฐ์ ศรีลลิตสร้อย มาร่วมสรรค์สร้างผ้าไหมแต้มหมี่ของไทยอย่างวิจิตรบรรจง กำเนิดเป็น Thai Fabric Art Installation ในชื่อ Concentration ซึ่งถ่ายทอดผ่านนวัตกรรมร่วมสมัยที่ผสานวิธีการมัดหมี่แบบโบราณ จึงมีความทันสมัยแบบสากลและเปี่ยมด้วยความสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ที่ชัดเจนเฉกเช่นไอคอนสยาม
นอกจากการแสดงของศิลปินไทยแล้ว ไอคอนสยามยังมีการแสดงการแสดงที่ดีที่สุดระดับโลก จาก 5 ประเทศ ซึ่งหาดูได้ยาก เริ่มตั้งแต่การแสดงศิลปะการตกแต่งอาหารบนอาภรณ์ชั้นสูงครั้งแรกในประเทศไทย โดยการรังสรรค์เมนูจาก Tom Wolfe (ทอม วูล์ฟ) เซเลบริตี้เชฟชื่อดังระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ผนึกกำลังร่วมกับสรพล ชวพัฒนากุล ดีไซเนอร์ไทยเจ้าของแบรนด์ SORAPOL ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในวงการแฟชั่นระดับนานาชาติ สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบ Haute Couture Collection ที่จะสร้างความงดงามตระการตา และเต็มอิ่มกับอาหารเลิศรสไปพร้อมๆ กัน ณ ชั้น 1 ของบริเวณไอคอนลักซ์
การแสดงมายากลชุดพิเศษโดยนักมายากลระดับโลก ครั้งแรกในประเทศไทย ผสมผสานกับการแสดงบัลเลต์ชั้นสูงจากเหล่านักบัลเลต์ระดับโลก ที่น่าตื่นตาตื่นใจในเรื่องราวที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อไอคอนสยาม ณ ชั้น 1 บริเวณไอคอนลักซ์ นำโดย Charlie Mag (ชาร์ลี แม็ก) นักมายากลรุ่นใหม่ชาวสเปนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการแสดงมายากลนกพิราบซึ่งได้ชื่อว่ายากที่สุดในโลกของมายากล และยังเป็นเจ้าของรางวัลสูงสุดของนักมายากลระดับสากลมากมาย ผนึกกำลังกับ Vinz อีกหนึ่งนักมายากลชื่อดังของโลกชาวฝรั่งเศสที่เคยแสดงกลให้ Luxury Brands มาแล้วทั่วโลกจะจัดการแสดงมายากลชุดพิเศษ และสุดท้ายจะเป็นที่สุดแห่งความงามของศิลปะการแสดงบัลเลต์ชั้นสูงจากเหล่านักบัลเลต์ระดับโลกจากรัสเซีย Marinsky Theatre (มารินสกี้ เธียเตอร์) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของศิลปะรัสเซีย กำกับการแสดงโดย Erika Lemay และ PHYSICAL POETRY (เอริก้า เลอเม / ฟิซิคัล โพเอทรี) จากประเทศแคนาดา
เปิดเมืองไอคอนสยามบนพื้นที่กว่า 55 ไร่
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือจากบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด, บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ด้วยมูลค่ากว่า 54,000 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน เนื้อที่กว่า 55 ไร่ และพื้นที่ใช้สอย 750,000 ตารางเมตร โดยในรายละเอียดโครงการประกอบด้วย 3 ส่วน
1) อาณาจักรศูนย์การค้า ด้วยพื้นที่ 525,000 ตารางเมตร 2 อาคาร ไอคอนสยาม ที่เป็นศูนย์การค้าหลัก และไอคอนลักซ์ สำหรับสินค้าหรูหรา
2) ที่พักอาศัย ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 2 อาคารคือ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม ความสูง 70 ชั้น และเดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียลเต็ล ความสูง 52 ชั้น
และ 3) 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งไอคอนสยาม ที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทย ได้แก่
- Community Space ขนาดใหญ่ริมน้ำ เพื่อการใช้สอยทุกวันของชุมชนการต่อยอดจากโลเคชั่นที่ได้เปรียบในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงาม มาสู่การสร้างพื้นที่ Community Space ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตารางเมตร ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อเปิดให้สาธารณชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ทุกวัน ทั้งพักผ่อนหย่อนใจและสัมผัสกับความงดงามของบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นการเอื้อประโยชน์กับผู้คนในชุมชนโดยรอบ และผู้คนจากที่ต่างๆ ที่รักและชื่นชอบบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยา
- ICONIC Multimedia Water Features – ระบำสายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็น Iconic Attraction ระดับโลก ที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และประเทศไทย สร้างความแข็งแกร่งของกรุงเทพฯ เทียบชั้นมหานครอื่นๆ ทั่วโลก เช่น London Eye ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ Botanic Garden ที่ Marina Bay Sand ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น โดย Iconic Attraction ที่ไอคอนสยามนี้จะเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดคนจากทั่วโลกและจากทั่วประเทศไทยให้มาเยี่ยมชม และจะช่วยจุดประกายการท่องเที่ยวให้กับทั้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเป็นปรากฏการณ์
- สุขสยาม – Co-Creation Space ครั้งแรกในประเทศไทยกับการผนึกกำลังสร้างสรรค์จากชุมชนท้องถิ่น 77 จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมสร้าง Platform ธุรกิจและพื้นที่เชิงวัฒนธรรม นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดตัวอย่างหนึ่งของแนวคิดสำคัญของไอคอนสยาม เรื่อง “การร่วมกันรังสรรค์” หรือ Co-Creation และ “การสานประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย” หรือ Creating Shared Value ซึ่งเป็นคอนเซปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่มุ่งเน้นการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ด้วยการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งของผู้ประกอบการรายย่อยจากชุมชนระดับท้องถิ่นจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ วิสาหกิจท้องถิ่น ศิลปินตัวจริงจากทุกภาค องค์กรภาครัฐ มาช่วยกันสร้างเมืองที่นำเสนอสินค้ายอดนิยมและวัฒนธรรมที่เป็นความภาคภูมิใจของทุกจังหวัด สร้างงานสร้างรายได้และนำเสนอคุณค่าของสิ่งขึ้นชื่อของประเทศไทยได้อย่างเข้าถึงใจคน เมืองสุขสยามจะเป็น Platform ต่อยอดการพัฒนาสินค้าของแต่ละชุมชนให้ดียิ่งขึ้น และจะเป็นเวทีในการเรียนรู้กลไกการค้าปลีกและค้าส่ง สู่ต่างประเทศ การตลาดรูปแบบใหม่ อย่างครบวงจร (Omni Channel) ถือเป็น Commercial Ecosystem ที่มีการบริหารจัดการสินค้าโดยมีผู้เกี่ยวข้องทั่วประเทศและผู้ได้รับประโยชน์ในวงกว้าง ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐในการนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น
- ทรูไอคอนฮอลล์ – ศูนย์ประชุมนวัตกรรมล้ำยุค ที่จะส่งต่อธุรกิจเป็นวงกว้างให้แก่ผู้ประกอบการทั้งแม่น้ำ และส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE ของประเทศไทย การสร้างศูนย์ประชุมมาตรฐานสากลพร้อมนวัตกรรมล้ำยุคแห่งแรกในประเทศไทย ที่สามารถรองรับการจัดงานประชุมระดับชาติ และจัดแสดงโชว์ที่มีชื่อเสียง และงาน MICE ระดับโลกได้ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติ สนับสนุนอุตสาหกรรม MICE ของประเทศได้ อีกทั้งยังส่งต่อธุรกิจ กระจายผลประโยชน์ไปถึงกลุ่มธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด โรงแรมจะมีคนมาเข้าพักมากขึ้น ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือจะมีลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งบริษัททัวร์ท่องเที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน โดยจะเปิดในเดือนกรกฎาคม 2562
- รถไฟฟ้าสายสีทอง – ส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่เชื่อมต่อการคมนาคม รถ-ราง-เรือ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและศักยภาพเศรษฐกิจในวงกว้าง นับเป็นครั้งแรกของ ประเทศไทยที่เอกชนผู้พัฒนาโครงการใหญ่ สนับสนุนการสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะเพื่อช่วยลดปัญหาการจราจร ซึ่งที่จริงแล้วเป็นวิถีปฏิบัติของการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเทศ นอกจากนี้ ไอคอนสยามยังสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ถึง 4 ท่าในโครงการเพื่อเชื่อมโยงการสัญจรทางรถ ราง เรือ เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ อำนวยความสะดวกให้กับผู้คนจำนวนมาก เพิ่มทางเลือกในการเดินทางซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยอยู่แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ดียิ่งขึ้น
- ริเวอร์ มิวเซียม แบงค็อก พิพิธภัณฑ์ระดับโลก ” – Cultural Space in Commercial Project พื้นที่องค์ความรู้ให้สาธารณชนเรียนรู้และเข้าถึงศิลปะระดับโลกจากประเทศต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวัน การสร้างพื้นที่พิพิธภัณฑ์มาตรฐานสากลครั้งแรกในเมืองไทยที่สามารถรองรับการจัดแสดงงานศิลปะล้ำค่าจากทั่วโลกที่จะหมุนเวียนมาจัดแสดงได้ จะเป็นพื้นที่ Cultural Space ที่ทำให้ผู้คนเข้าถึงและเรียนรู้งานศิลปะจากทั่วโลกได้ง่ายขึ้น เป็นพื้นที่เชิงศิลปะวัฒนธรรมที่สร้างคุณค่าให้แก่สังคม โดยจะเปิดในเดือนกรกฎาคม 2562
- ปรากฏการณ์รวมโลกในรอยไทย – รวมผลงานอันยอดเยี่ยมของศิลปินทุกแขนงกว่า 100 คน ตั้งแต่ศิลปินท้องถิ่นจากทุกภาคของไทย ไปจนถึงศิลปินแห่งชาติ รวมทั้งศิลปินระดับโลกจากหลายประเทศ มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกเพื่อไอคอนสยามโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อนใน Commercial Project ในประเทศไทย นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จของวงการศิลปะไทยสู่เวทีโลก อาทิ
- เสาจิตรกรรมจากสี่ภาคของไทย โดยศิลปินตัวจริงผู้มีความรู้ความสามารถจาก 4 ภาค คุณทรงเดช ทิพย์ทอง คุณมีชัย สุวรรณสาร คุณอนุชา อุ่นช่วง คุณเป็นไท สว่างศรี ออกแบบลวดลายที่แตกต่างกันไปในแต่ละภาคอย่างวิจิตรบรรจง แสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น
- ธงราวสุขสยาม ผลงานของคุณกฤษ สถาพรนานนท์ ที่ Co-Create วัฒนธรรม 4 ภาค ออกมาเป็นธงราวที่ทำจากผ้าพื้นถิ่นจากสี่ภาคของไทย เช่น ผ้าย้อมคราม ผ้าชาวเขา ผ้าไหม ผ้าบาติก ผ้าฝ้าย สร้างบรรยากาศสนุกสนานและหลากหลายผ่านลายเส้นบนผืนผ้า
- รูปปั้นผีตาโขน โดยคุณจิระ จิรประวัติ ณ อยุธยา ศิลปินและนักออกแบบชื่อดัง ที่ออกแบบมาให้สะท้อนเอกลักษณ์ของศิลปะภาคอีสานที่สนุกสนาน สร้างสรรค์ จัดจ้านทางอารมณ์ สีสัน และลวดลาย
- การจัดแสดงกระด้งรังไหม ผลงานโดยคุณเพลินจันทร์ วิญญรัตน์ นักออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของประเทศ และคุณเรืองยศ หนานพิวงศ์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม พ.ศ. 2554 ด้านงานจักสานที่นำเสนองานศิลปะที่เล่าเรื่องราวการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของคนอีสาน โดยมีการประยุกต์วัสดุและสีสันจัดจ้านของวัฒนธรรมอีสาน
- ร่มบ่อสร้าง โดยคุณภิรดา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้ง Trimode และเป็นนักออกแบบรุ่นใหม่มากฝีมือที่น่าจับตามอง ร่วมกับกลุ่มหัตถกรรมร่มบ่อสร้าง จากเชียงใหม่ นำเสนอชิ้นงานร่มบ่อสร้างที่คงกลิ่นอายดั้งเดิมของวัฒนธรรมภาคเหนือ และนำมาจัดองค์ประกอบใหม่แบบที่มองเห็นได้จาก 360 องศา ซึ่งพลิกมิติในการชมผลงาน และได้มุมมองที่แตกต่างออกไป
- ประทีปต้นผึ้ง โดยคุณกฤตพงศ์ แจ่มจันทร์ เจ้าของรางวัลถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ การประกวดแจกันประดิษฐ์จากดอกไม้สด ซึ่งประทีปนั้นถือเป็นเครื่องสักการะตามประเพณีแสดงถึงความเคารพอย่างสูงสุดของชาวล้านนา
- เสาประดับกรงนก โดยคุณศุภชัย แกล้วทนงค์ นักออกแบบที่สร้างสรรค์ผลงาน ระดับรางวัลจากภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ของภาคใต้ นำเสนอวิถีชีวิตของคนใต้ที่มักจะรวมตัวกันแข่งนกกรงหัวจุกในยามเช้า
- หนังตะลุง โดยคุณวาที ทรัพย์สิน ทายาทครู หนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน ศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2549 ซึ่งนำเสนอตัวตะลุงที่มีเอกลักษณ์มาแต่ดั้งเดิมออกมาในรูปแบบแปลกใหม่ที่มีการตีความอย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้ทำโครงการ CSR อย่างต่อเนื่องมาโดย ตลอด เช่น โครงการ “รักษ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ร่วมกันพัฒนาและจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” ซึ่งร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา และประชาชนผู้อยู่อาศัยริมคลอง 7 คลองในฝั่งธนบุรี ช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์คลองให้สะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในพื้นที่ โครงการก่อสร้าง “ศูนย์ชุมชนย่านกะดีจีน-คลองสาน” ซึ่งทำงานร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) และชาวบ้านในชุมชน พัฒนาให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์และเป็นประตูสู่ย่านกะดีจีน-คลองสาน สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เป็นต้น โดยโครงการทั้งหมดเป็นแสดงให้เห็นถึงวิถีการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ทำโครงการเพื่อชุมชนและสังคมได้ ตั้งแต่ยังไม่เปิดโครงการ ตอกย้ำแนวคิดในการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ ที่การมีส่วนร่วมและการสนับสนุนชุมชนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการ
