ThaiPublica > เกาะกระแส > มติ ป.ป.ช. ส่ง 4 คดี เงินทอนวัดลอต 3 ให้ ผบ.ตร. ดำเนินคดีอาญา “อดีตพระชั้นผู้ใหญ่-ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง”

มติ ป.ป.ช. ส่ง 4 คดี เงินทอนวัดลอต 3 ให้ ผบ.ตร. ดำเนินคดีอาญา “อดีตพระชั้นผู้ใหญ่-ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง”

30 พฤษภาคม 2018


เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ใน”คดีเงินทอนวัด”

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวว่า ตามที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ส่งสำนวนการสอบสวนกรณีกล่าวหานายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก ว่าทุจริตเงินงบประมาณของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จำนวน 4 คดี มาให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 มีรายละเอียดดังนี้

1. กรณีทุจริตงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนอบรมคุณธรรม จริยธรรม สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชน และข้าราชการ เพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2559 จำนวน 37,200,000 บาท ให้แก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และกรณีทุจริตเงินงบประมาณโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา ประจำปีงบประมาณ 2559 จำนวน 32,500,000 บาท ให้แก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีนายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

2. กรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาที่ได้อนุมติและจัดสรรให้แก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 10,000,000 บาท โดยมีนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งพระเมธีสุทธิกร และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

3. กรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่ได้อนุมติและจัดสรรให้แก่วัดสัมพันธวงศาราม ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,000,000 บาท โดยมีนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

4. กรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ที่ได้อนุมัติและจัดสรรให้แก่วัดสามพระยา ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,000,000 บาท โดยมีนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก เป็นผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนวนการสอบสวนที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการสอบสวนกลาง ส่งมาเป็นกรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่เนื่องจากกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาบางรายในความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งมีมูลฐานจากคดีความผิดฐานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาบางรายไว้แล้ว เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงมีมติส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกกล่าวหาพิจารณาดำเนินการทางวินัยแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ตามนัยมาตรา 89/2 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ต่อไป

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง ถอดถอนสมณศักดิ์ ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ด้วยปรากฏว่ามีกรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาว่า กระทำการทุจริตและถูกดำเนินคดีอาญา ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต

อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ตามความในมาตรา 5 ตรี แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอนสมณศักดิ์จำนวน 7 รูป ดังนี้

    1. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขโข) วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร

    2. พระพรหมเมธี (จำนงค์ เอี่ยมอินทรา) วัดสัมพันธวงศาราม

    3. พระพรหมดิลก (เอื้อน กลิ่นสาลี) วัดสามพระยา

    4. พระราชอุปเสณาภรณ์ (สมณศักดิ์เดิมคือ พระเมธีสุทธิกร) (สังคม สังฆะพัฒน์) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

    5. พระราชกิจจาภรณ์ (สมณศักดิ์เดิมคือ พระวิจิตรธรรมาภรณ์) (เทอด วงศ์ชะอุ่ม) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

    6. พระอรรถกิจโสภณ (สมทรง อรรถกฤษณ์) วัดสามพระยา

    7. พระศรีคุณาภรณ์ (บุญทวี คำมา) วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ยกเว้นลำดับที่ 3, 5, 6 และ 7 ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกจับกุมและสละสมณเพศ ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เป็นปีที่ 3 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี