ข่าวประชาสัมพันธ์
นายมานิตย์ วรรณวานิช ประธานสายเครือข่ายการขายและบริการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ใหม่ปรับตัวดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่เคยขยายตัวสูงมากในปี 2555 จากข้อมูลล่าสุดใน 2 เดือนแรกของปี (มกราคม-กุมภาพันธ์) พบว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมอยู่ที่ 142,011 คัน ขยายตัว 13% ต่อปี โดยมีปัจจัยบวกสำคัญมาจากการเปลี่ยนรถยนต์หลังจากอายุการถือครองในโครงการรถยนต์คันแรกครบกำหนด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภคกลุ่มรายได้ระดับปานกลาง-สูง ตลอดจนการทยอยจัดจำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่หลากหลายยี่ห้อและประเภทรถ
ในช่วงที่ผานมาธนาคารได้ขยายฐานลูกค้า พร้อมให้บริการสินเชื่อรถยนต์ในทุกๆ เซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เชิงพาณิชย์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถกระบะ-เก๋งทุกขนาด รวมถึงอีโคคาร์ และรถบิ๊กไบค์ ตลอดจนเล็งเห็นโอกาสของอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) และรถไร้คนขับ (Autonomous Vehicle : AV) ที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าภายใน 5 ปีต่อจากนี้ จะเห็นรถยนต์พลังงานทางเลือกออกมาให้บริการอย่างหลากหลาย
จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่าภารกิจสำคัญต่อจากนี้คือการทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างแข็งแกร่ง ธนาคารเกียรตินาคินในฐานะผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จึงได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมรถยนต์ และต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้กับลูกค้าเป้าหมายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า นำเสนอสินเชื่อรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเปิดตัวแคมเปญดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้น 1.99% ต่อปี ในงาน Bangkok International Motor Show 2018 ในวันที่ 28 มีนาคม -8 เมษายน 2561 นี้ ซึ่งทาง ไรเซน เอนเนอร์จี นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 2 รุ่นเด่น ร่วมแคมเปญดังกล่าว ได้แก่ Tesla Model S ผู้นำรถไฟฟ้าจากอเมริกาขนาด และบีวายดี e6 ซึ่งเป็นที่นิยมมากทั้งใน ฮ่องกง สิงค์โปร์ อเมริกา เบลเยี่ยม
ด้านฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ธนาคารเกียรตินาคิน ประเมินว่าแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ในระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปี 2560 โดยคาดว่าสินเชื่อเพื่อซื้อ/เช่าซื้อรถยนต์ของระบบธนาคารพาณิชย์ (ไม่นับรวมสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้รถยนต์ค้ำประกัน เช่น CarQuickCash) ณ สิ้นปี 2561 คาดว่าจะขยายตัว7-8% ต่อปี ใกล้เคียงกับสิ้นปี 2560 ที่ขยายตัวประมาณ 7 %
นอกจากนี้สอดรับกับยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศที่อาจเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 920,000-930,000 คัน หรือขยายตัว 6 % ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
- การเปลี่ยนรถยนต์หลังจากอายุการถือครองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกที่มีอย่างต่อเนื่อง
- ภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
- การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าในเขตเมืองซึ่งอาจสนับสนุนการซื้อรถยนต์ในกลุ่มเชิงพาณิชย์มีมากขึ้น
- กิจกรรมการเลือกตั้งในช่วงท้ายปี ในขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์และธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปี 2561 ยังคงเผชิญกับอุปสรรคซึ่งอาจทำให้ขยายตัวไม่ได้มากดังคาด
โดยปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ได้แก่ 1) ราคาสินค้าเกษตรบางกลุ่มอาจปรับตัวลดลง โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดจัดจำหน่ายรถกระบะตอนเดียว (Single Cab) และ 2) กำลังซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้น้อย-ปานกลางว่าจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจได้หรือไม่
“ธนาคารมีส่วนแบ่งการตลาดทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม ในปี 2561 นี้ ตั้งเป้าการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่ราว 44,000 ล้านบาท รวมถึงการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดยได้นำ Official LINE Account มาเป็นช่องทางให้บริการที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยลูกค้าที่สมัครเป็นเพื่อนกับ KK กู้เงินออนไลน์ (@kkloan) จะสามารถรับรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับสินเชื่อผ่าน Line (สินเชื่อรถยนต์ บ้าน สินเชื่อบุคคล) ทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญให้บริการตอบทุกเรื่องที่ลูกค้าสนใจแบบไม่มีวันหยุด” นายมานิตย์ กล่าว
ณ ปี 2560 ธนาคารมียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่ที่ 103,926 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 8% สอดคล้องกับภาวะตลาด โดยให้ความสำคัญในการดูแลคุณภาพหนี้ และมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อเฉพาะกับกลุ่มที่สามารถแข่งขันได้ดีและมีศักยภาพในการเติบโตสูง อาทิ รถแท็กซี่ รถบ้าน รวมถึงสินเชื่อรถกู้เงินด่วน เป็นหลัก และมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ต่อรถยนต์ใช้แล้วเท่ากับ 44:56 สัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ต่อสินเชื่อรวมของธนาคารที่ 53.9%
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
