ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ (archive) > EXIM BANK จับมือ China EXIM ส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-จีน และขยายธุรกิจไปประเทศที่สาม

EXIM BANK จับมือ China EXIM ส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-จีน และขยายธุรกิจไปประเทศที่สาม

22 พฤษภาคม 2017


ข่าวประชาสัมพันธ์

English Version

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นายพิริยะ เข็มพล (กลาง) เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่งนายหลิว เหลียนเก๋อ (ขวา) รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM)

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายหลิว เหลียนเก๋อ รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM) ร่วมกันลงนามในกรอบความร่วมมือสนับสนุนทางการเงินระหว่างกัน โดย EXIM BANK จะสนับสนุนทางการเงินให้แก่ China EXIM เป็นวงเงินจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ China EXIM สนับสนุนทางการเงินให้แก่ EXIM BANK 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งนำไปใช้สนับสนุนผู้ส่งออกและนักลงทุนไทย-จีนในรูปของเงินกู้ หนังสือค้ำประกัน เงินทุน สินเชื่อเพื่อการค้า สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศ เป็นต้น เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งการเข้าไปทำการค้าการลงทุนของนักธุรกิจไทยและจีนในประเทศที่สาม โดยมีนายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ China EXIM กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเร็วๆ นี้

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นโครงการภายใต้นโยบาย One Belt, One Road หรือที่เรียกว่า นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของรัฐบาลจีน หรือเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอันเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางสายไหม และสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศในภูมิภาคดังกล่าว รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย รองจากสหรัฐอเมริกา ในปี 2559 ไทยส่งออกไปจีนเป็นมูลค่ากว่า 23,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 0.3% (ปี 2558 มูลค่าการส่งออกของไทยไปจีนอยู่ที่ 23,742 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากจีนยังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพในระยะยาว สินค้าส่งออกไปจีนอันดับต้นๆ ของไทยในปี 2559 ได้แก่ เม็ดพลาสติก (10.24%) ยางพารา (8.79%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (7.50%) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (6.83%) และเคมีภัณฑ์ (5.94%)

“ความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการของไทยไปจีน ส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในจีน และส่งเสริมให้นักลงทุนจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น รวมทั้งโอกาสขยายความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจไทยและจีนเพื่อเข้าไปทำการค้าการลงทุนในประเทศอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศและภูมิภาคเอเชียโดยรวม” นายพิศิษฐ์กล่าว