อุตสาหกรรมพลังงานนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสมัยใหม่ ท่ามกลางความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความต้องการการพัฒนาที่คำนึงถึงคนรุ่นหลัง แรงกดดันดังกล่าวเรียกร้องการเปลี่ยนผ่านจากการผลิตพลังงานแบบรวมศูนย์ มาเป็นพลังงานสะอาดแบบกระจายศูนย์ พร้อมกับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำในสังคม และธรรมภิบาลที่บกพร่องไปพร้อมกัน
เมื่อวันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2559 บริษัท ป่าสาละ จำกัด จัดงานเสวนา “มองอนาคตพลังงานไทย เราควรถกกันเรื่องอะไร ?” โดยมี ดร. ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดร. เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนางสาวชื่นชม สง่าราศี กรีเซ่น นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ที่จะมาจุดประกายให้การถกเถียงเรื่องพลังงานในอนาคตที่ “กว้าง” และ “ลึก” มากขึ้น
ดร. ปิยะสวัสดิ์ เปิดเวทีการเสวนาด้วยประเด็นเรื่องบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย โดยมองว่าการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน และการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของภาคพลังงานไทย เกิดจากความคิดริเริ่มของผู้ประกอบการภาคเอกชน
“ผมต้องการให้กลับไปสู่แนวทางการแข่งขันที่ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นและลดบทบาทของภาครัฐ ในอนาคตควรมีการเปิดให้การซื้อขายไฟฟ้าเสรีมากขึ้น ส่วนหน้าที่ของภาครัฐคือการกำหนดนโยบาย ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรอิสระ เพื่อให้ทุกคนแข่งขันบนกฎกติกาเดียวกัน พร้อมกับการกำหนดค่าไฟฟ้าที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพลังงานหมุนเวียนโดยอัตโนมัติ” ดร. ปิยะสวัสดิ์ กล่าว
ส่วนความเห็นของ ดร. เดชรัต ก็สอดคล้องกับ ดร. ปิยะสวัสดิ์ ที่มองว่าในอนาคตเราต้องถกเถียงเรื่องโครงสร้างกันมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นที่ยึดโยงกัน คือ ‘เทคโนโลยี’ ทั้งที่พัฒนาจากต่างประเทศและเกิดขึ้นภายในประเทศ ‘คุณค่า’ คือมุมมองต่อประเด็นเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ‘อำนาจ’ ว่าใครจะเป็นผู้ตัดสินใจกำหนดนโยบายในอนาคต ทั้ง 3 เรื่องต้องได้รับความสนใจจาก ‘ผู้ประกอบการ’ ทั้งภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
“พลังของผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่เราพูดคุยกันน้อยเกินไป แต่ผู้ประกอบการอาจไม่ได้จำกัดอยู่ที่บริษัทขนาดใหญ่ แต่รวมถึงชุมชน หรือผู้ประกอบการรายย่อย ถ้าเราพูดถึงเทคโนโลยีที่พลิกโครงสร้างทางธุรกิจ (disruptive technology) เช่นรถยนต์ไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับโครงสร้างทั้งสิ้น ตรงนี้ล่ะที่เป็นหัวใจสำคัญที่เราจะคุยกันว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะเกิดขึ้นเร็วหรือช้า และใครจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์” ดร. เดชรัตกล่าว
สำหรับนางสาวชื่นชม ประเด็นที่ควรถกเถียงก็คือโครงสร้างพลังงานไทยเช่นเดียวกัน โดยได้หยิบยกปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนของรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทมหาชนผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงการใช้เกณฑ์ผลตอบแทนจากเงินลงทุน (Return on Invested Capital) เป็นเกณฑ์หลักในการกำหนดค่าไฟฟ้า ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) มีแรงจูงใจในการลงทุนในโครงการมูลค่าสูง และมีกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองที่เกินความจำเป็น
นอกจากการพูดคุยเพื่อตอบคำถามว่าเราควรถกเถียงประเด็นด้านพลังงานใดในอนาคต นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล กรรมการผู้จัดการด้านการพัฒนาความรู้ บริษัท ป่าสาละ จำกัด ได้แนะนำหนังสือ “มายาคติพลังงาน” โดยผู้เขียน 3 ท่านคือ นางสาวสฤณี อาชวานันทกุล นายณัฐเมธี สัยเวช และนางสาวสุณีย์ ม่วงเจริญ สนับสนุนทุนจัดพิมพ์โดยมูลนิธิฟรีดริค เอแบร์ท (Friedrich Ebert Stiftung – FES) หนังสือเล่มดังกล่าวรวบรวมคำถาม-คำตอบในรูปแบบที่เข้าใจง่ายจำนวน 30 ข้อ เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงในประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ เช่น ไฟฟ้าจากถ่านหินถูกจริงหรือไม่ เราจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศจริงหรือไม่ และพลังงานหมุนเวียนไม่มีทางทดแทนพลังงานหลักได้จริงหรือไม่ ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจ ผ่านลายเส้นสบายของนักวาดการ์ตูนชื่อดังอย่างแชมป์ ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
สำหรับผู้สนใจหนังสือ “มายาคติพลังงาน” สามารถติดต่อขอรับหนังสือหรือดาวน์โหลดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.salforest.com หรือสอบถามข้อมูลที่อีเมล์ [email protected]