ThaiPublica > เกาะกระแส > TMB Analytics จับเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ “ใช้โซเชี่ยลมีเดีย 75% – อาหารอร่อย” คาดยังแรงไปอีกสิบปี

TMB Analytics จับเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ “ใช้โซเชี่ยลมีเดีย 75% – อาหารอร่อย” คาดยังแรงไปอีกสิบปี

10 มิถุนายน 2016


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics คาดนักท่องเที่ยวจีนทศวรรษหน้าแรงฉุดไม่อยู่ แนะภาครัฐและภาคเอกชนเรียนรู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่ เพื่อหาโอกาสนำเงินก้อนโตเข้าประเทศ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2558 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาถึง 29.9 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.45 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 11% ของจีดีพี เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่านักท่องเที่ยวจีน เป็นกลุ่มที่เข้ามาในไทยมากที่สุด และยังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง โดยสี่เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.2559) มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้วจำนวน 3.45 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 27.3% และมีสัดส่วนคิดเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาไทย ในขณะที่มูลค่าเม็ดเงินที่นำเข้ามาก็มีทิศทางเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในปี 2558 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อหัวเฉลี่ยอยู่ที่ 4.7 หมื่นบาทเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 เท่าตัวเมื่อเทียบกับห้าปีก่อน

มองไปในทศวรรษหน้านักท่องเที่ยวจีนจะยังเติบโตอีกมาก ทาง Goldman Sachs คาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า (2568) จะมีชาวจีนออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 120 ล้านคน เป็น 220 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยหนุ่มสาวที่กำลังจะจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย โดยจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป และสามารถใช้อินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ได้

info-Graphic_analytic_800x800_3June_ok

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจฯ คาดว่าใน 10 ปีข้างหน้าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นกว่า 25 ล้านคน จากปัจจุบัน 8 ล้านคน เนื่องจากไทยเป็นที่รู้จักของชาวจีนมากขึ้นและการเดินทางไม่ไกลนัก จากแนวโน้มนี้อาจกล่าวได้ว่า นักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่จะมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านปริมาณและกำลังซื้อที่สูงขึ้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ไทยควรที่จะเตรียมพร้อมแสวงหาโอกาสนี้ ทั้งนี้มีรายงานวิจัยตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่น่าสนใจเรื่อง Market Research Report on Chinese Outbound Tourist (City) Consumption ซึ่งสามารถนำผลการสำรวจดังกล่าวมาศึกษาเรียนรู้นักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น ได้แก่

“คนจีน 75% นิยมใช้โซเซียลเน็ตเวิร์ค 44% ใช้เว็บไซต์ในประเทศค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจะเห็นว่าการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจัดทำเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวไทยด้วยภาษาจีน เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวจีนได้รับรู้ และเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น”

“คนจีน 70% ชื่นชอบท่องเที่ยวแหล่งธรรมชาติ 50% ชื่นชอบอาหารอร่อย”

“คนจีน 38% กังวลด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน”

ทั้งนี้จะพบว่าแหล่งท่องเที่ยวไทยมีความพร้อมที่จะตอบสนองได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ยังคงอยู่อย่างยั่งยืน ไทยจะต้องปลูกฝังทัศนคติของประชาชนให้หวงแหนสิ่งแวดล้อม และจะต้องกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงจะต้องรักษาคุณภาพการบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐาน และหากมีการปรับราคาสินค้าก็ควรทำในระดับที่สมเหตุสมผล

ดังนั้นไทยจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องให้บริการด้านความปลอดภัยอย่างทั่วถึง ในส่วนของเอกชนและประชาชนจะต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยขึ้น จะต้องรีบแจ้งโดยทันที

กล่าวโดยสรุปในทศวรรษหน้านักท่องเที่ยวจีนยุคใหม่จะออกมาท่องเที่ยวยังต่างประเทศมากขึ้น คนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาและมีกำลังซื้อสูง ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชนควรที่จะหาโอกาสจากเทรนด์นี้ ด้วยการนำพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนมาหารือร่วมกันเพื่อออกแบบนโยบายจูงใจให้มาเที่ยวไทย โดยสิ่งใดที่ประเทศไทยมีจุดเด่นอยู่แล้วก็ให้รักษาไว้ แต่สิ่งใดที่ยังอ่อนด้อยอยู่ก็ปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อจะนำไปสู่เม็ดเงินก้อนโตที่จะเข้ามาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย