ThaiPublica > คอลัมน์ > มาเฟียที่มีรายได้มากที่สุดในโลก

มาเฟียที่มีรายได้มากที่สุดในโลก

27 เมษายน 2016


Hesse004

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กรณี Panama Papers กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก เอกสารชุดนี้ปรากฏรายชื่อผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก และเปิดเผยให้เห็นโลกอีกด้านหนึ่งที่เราอาจไม่คุ้นเคยนัก

แต่ลำหรับแก๊งมาเฟียแล้ว การยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน โยกเงินเพื่อเลี่ยงไม่ให้ถูกตรวจสอบได้นั้น ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การฟอกเงิน” จากเงินสกปรกให้กลับมาขาวสะอาดอีกครั้ง

ล่าสุด มีบทความชิ้นหนึ่งที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง Panama Papers กับ “กลุ่มองค์กรอาชญากรรม” ได้อย่างน่าสนใจ บทความนี้มีชื่อว่าPanama papers and the mafia: how a corrupt empire can be builtผู้เขียนบทความ คือ Connie Aguis แห่ง Australian Broadcasting Corporation (ABC)

Aguis ชี้ให้เห็นว่า การก่อร่างสร้างอาณาจักรมาเฟียในยุโรป โดยเฉพาะมาเฟียอิตาเลียนและมาเฟียรัสเซียนั้น เริ่มต้นหลังจากหมดยุคสงครามเย็น สหภาพโซเวียตล่มสลาย

มาเฟียอิตาเลียน เช่น แก๊ง Ndranghata และ Cosa Nostra ต่างมุ่งหน้าขยายอิทธิพลตนเองจากยุโรปตอนใต้ไปสู่ยุโรปตะวันออก โดยอาศัยวิธีฟอกเงินอย่างแนบเนียน กล่าวคือ พวกเขานำเงินสกปรกที่ได้จากการก่ออาชญกรรมผิดกฎหมายไปลงทุนกว้านซื้อผับ บาร์ ภัตตาคารอาหารอิตาเลียน ลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ โดยเอาธุรกิจเหล่านี้ “บังหน้า” กิจกรรมผิดกฎหมายที่ซุกไว้เบื้องหลัง

หลังจากฟอกเงินเสร็จแล้ว วิถีมาเฟีย คือ การทำให้แก๊งเติบโตโดยขยายอาณาจักรตนเองออกไปให้ได้มากที่สุด เริ่มจาก ให้ความคุ้มครองกับธุรกิจรายเล็กๆ ในท้องถิ่นเพื่อสร้างบารมี ผูกมิตรกับตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ สานสัมพันธ์กับนักการเมืองท้องถิ่นเพื่อให้ได้งานก่อสร้าง ซื้อใจชุมชนด้วยการทำบุญบริจาคเพื่อให้ชาวบ้านมาเป็นฐานเสียงให้ ขณะเดียวกัน มาเฟียยุคใหม่มีวิธีบริหารจัดการการเงินอย่างมืออาชีพ มีการยักย้ายผ่องถ่ายทรัพย์สินไปต่างประเทศ หรือจ้างทนายชั้นเซียนคอยแก้ปัญหายามคับขัน

เพียงยี่สิบปี อาณาจักรมาเฟียเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขากลายเป็น “มาเฟียข้ามชาติ” โดยสมบูรณ์ และสามารถต่อสายสัมพันธ์ไปในระดับที่สูงขึ้นถึงกลุ่มการเมืองระดับชาติได้

นอกจากบทความของ Aguis แล้ว ยังมีบทวิเคราะห์จากนิตยสาร Fortune ที่จัดอันดับรายได้ของแก๊งมาเฟียต่างๆ จากทั่วโลก โดยประมาณการจากบริษัทวิจัยที่สำรวจธุรกิจใต้ดิน บทวิเคราะห์ชิ้นนี้ชื่อ The biggest organized crime groups in the world เขียนโดย Christ Matthews

Matthews รวบรวมรายชื่อแก๊งมาเฟียชื่อดังและจัดอันดับ “ความรวย” จากรายได้ที่แก๊งเหล่านี้หาได้ ผลการศึกษาเป็นอย่างไรนั้น โปรดดูตารางข้างล่าง

จากตาราง รายได้ของทั้ง 5 แก๊งอยู่ระดับหลักพันล้านดอลลาร์ (มากกว่า 35,000 ล้านบาท) รายได้มหาศาลยั่วยวนใจให้มาเฟียแก๊งอื่นๆ อยากวัดรอยเท้า ขอแบ่งส่วนแบ่งตลาดเหล่านี้บ้าง

แก๊งที่มีรายได้สูงสุด คือ Solntsevskaya Bratva (คำว่า Bratva หรือ братство ในภาษารัสเซีย แปลว่า พี่น้อง หรือ Brotherhood) แก๊งนี้มีฐานที่มั่นอยู่ใน Moscow ถือกำเนิดในช่วงทศวรรษที่ 80 ที่ Solntsevo ตำบลเล็กๆ ใน Moscow
Solntsevskaya Bratva หรือบางครั้งเรียกว่า Solntsevo Brotherhood มีรายได้สูงสุดจากการทำธุรกิจใต้ดิน พวกเขาหารายได้ได้มากถึง 8.5 พันล้านดอลลาร์…ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ประมาณ 9,000 คน(ตัวเลขนี้อ้างอิงจากวิกิพีเดีย อย่างไรก็ดีแหล่งข้อมูลบางแหล่งอ้างว่าแก๊งนี้มีสมาชิกทั้งหมดร่วม 300,000)คนสมาชิกในแก๊งกระจายอยู่ตามเมืองสำคัญๆ เช่น ฮังการี เชค ยูเครน นอกจากนี้ แก๊ง Solntsevskaya ยังแผ่อิทธิพลไปในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้

กิจกรรมหลักที่รับดำเนินการ คือ ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะเฮโรอีน เช่นเดียวกับองค์กรอาชญากรรมอื่นๆ พวกเขามีพันธมิตรเป็นมาเฟียเหมือนกัน แต่ละแก๊งต่างช่วยเหลือดูแลปกป้องผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยพันธมิตรหลักของ Solntsevskaya คือ แก๊งค้ายาเสพติดในโคลัมเบีย (Columbian Cartel) มาเฟียในเซอร์เบียและยูเครน

ในหนังสือเรื่อง An Economic History of Organized Crime ของ Dennis M.P. McCarthy ได้กล่าวถึงประวัติมาเฟียแก๊งนี้ไว้น่าสนใจว่า Solntsevskaya มีจุดเริ่มต้นจากตำบลเล็กๆ ใน Moscow โดย Sergei Mikhailov หรือ Mikhas เป็นผู้ก่อตั้งแก๊ง

แก๊งโนเนมชื่อยาวนี้เริ่มจากการรวบรวมสมัครพรรคพวกคนตกงานและนักเลงหัวไม้มาทำหน้าที่เป็นการ์ด โดยพวกเขาเป็นคนเก็บค่าคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้โชว์รูมรถยนต์ บาร์ โรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต

ช่วงที่สหภาพโซเวียตกำลังล่มสลาย ภาวะโกลาหล บ้านเมืองไร้ขื่อแปกลายเป็นช่องทางให้ Solntsevskaya เติบโตขึ้นเรื่อยๆ …จากการเป็นนักเลงเก็บค่าคุ้มครอง พวกเขาขยายไปสู่ธุรกิจผลิตแอมเฟตตามีน (ยาม้า) ยาอี ในช่วงทศวรรษที่ 90 จากนั้นกลายเป็นตัวกลางกระจายเฮโรอีนที่ผลิตจากอัฟกานิสถาน

ที่มาภาพ : https://abpworld.files.wordpress.com/2015/09/solntsevskaya-bratva.jpg

ปลายทศวรรษที่ 90 Solntsevskaya Bratva เริ่มเข้าสู่ธุรกิจการเงินธนาคาร นักวิเคราะห์มองว่า การเข้าสู่ธุรกิจนี้มีส่วนต่อการฟอกเงินอย่างเป็นระบบและติดปีกให้มาเฟียแก๊งนี้กลายเป็นมาเฟียข้ามชาติที่น่ากลัวมากขึ้น

Sergei Mikhailov ในฐานะพี่ใหญ่ หัวหน้าแก๊ง ในอดีตเคยเป็นนักมวยปล้ำ ต่อมาเปลี่ยนอาชีพเป็นบ๋อยในร้านอาหาร ก่อนจะโชคไม่ดีที่ต้องติดคุก และหลังพ้นโทษ เขารวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งแก๊งจนทรงอิทธิพลมากที่สุดในรัสเซีย

McCarthy วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้มาเฟียแก๊ง Solntsevskaya ประสบความสำเร็จในโลกอาชญากรรม คือ การจัดระบบแบ่งผลประโยชน์ชัดเจนและเป็นธรรมกับสมาชิกแก๊ง กล่าวคือ โครงสร้างของแก๊งจะมี Top leader หรือ ผู้นำแก๊งอยู่ 4 คน (รวม Mikhailov ด้วย) โดยอำนาจบริหารแก๊งจะถูกผ่องถ่ายกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ เป็นแก๊งย่อยๆ ซึ่งหัวหน้าแก๊งย่อยสามารถบริหารทุกอย่างได้เป็นอิสระ มีกองกำลังเป็นของตนเอง หาได้เท่าไหร่ก็แบ่งสมาชิกในแก๊งย่อยนั้น ไม่จำเป็นต้องส่งหัวหน้าใหญ่

กรณีแต่ละแก๊งย่อยเกิดขัดแย้ง “เหยียบเท้า” กัน หรือแบ่งผลประโยชน์กันไม่ลงตัว Top Leader ทั้ง 4 จะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยและยอมเฉือนกำไรตนเองมาแบ่งให้น้องกลุ่มเล็กๆ เพื่อยุติปัญหา

การจัดสรรผลประโยชน์ที่เป็นธรรมและสมดุลนี้เองที่ทำให้คำว่า Bratva หรือ พี่น้อง (Brotherhood) มีความหมายมากกว่าการเป็นมาเฟียธรรมดา เพราะทุกคนที่อยู่ในแก๊งย่อยๆ เปรียบเสมือนพี่น้องที่ต้องสามัคคีกัน

ขณะเดียวกัน การกระจายอำนาจปกครองออกไป ช่วยกันหารายได้ และคอยปกป้องกันและกัน จะทำให้แก๊ง Solntsevskaya อยู่รอดปลอดภัยได้

…อย่าลืมว่า วัฏจักรมาเฟียต้องต่อสู้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศ สู้กับตำรวจสากล (Interpol) คอยหลบนักข่าว และต่อกรกับแก๊งอื่นๆ ที่เข้ามาแย่งผลประโยชน์ในธุรกิจผิดกฎหมายได้ทุกเวลา

ทุกวันนี้ Solntsevskaya Bratva กลายเป็นแก๊งที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก พวกเขาขึ้นชื่อว่า “อันตราย” ที่สุดแก๊งหนึ่ง และมีสายสัมพันธ์ชนิด Super Connection ในทุกวงการ