ThaiPublica > เกาะกระแส > สตง. สรุปผลสอบราชภักดิ์ “ไม่มีทุจริต” ถึง ศอตช. ชี้เงิน 20 ล้านให้เซียนพระ ไม่ใช่ “หัวคิว” – รมว.ยุติธรรมยังติดใจสอบเพิ่ม

สตง. สรุปผลสอบราชภักดิ์ “ไม่มีทุจริต” ถึง ศอตช. ชี้เงิน 20 ล้านให้เซียนพระ ไม่ใช่ “หัวคิว” – รมว.ยุติธรรมยังติดใจสอบเพิ่ม

24 กุมภาพันธ์ 2016


พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่มาภาพ : http://www.posttoday.com/politic/417627
พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่มาภาพ : http://www.posttoday.com/politic/417627

จากกรณีที่ พล.อ. อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมาเปิดเผยผลการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ในพื้นที่โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่าไม่พบการทุจริตใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 แหล่งข่าวจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มี พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน ได้เปิดเผยกับ “สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า” ว่า โครงการนี้ ศอตช. ได้มอบหมายให้ สตง. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบ ซึ่งถึงขณะนี้ทั้ง 2 หน่วยงานได้ตรวจสอบเสร็จสิ้น และรายงานผลให้ พล.อ. ไพบูลย์ รับทราบแล้ว โดยจะมีการเปิดแถลงข่าวชี้แจงผลการตรวจสอบและเหตุผลต่อสื่อมวลชนในเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวระบุว่า สำหรับผลการตรวจสอบของ สตง. เป็นไปตามที่ พล.อ. อุดมเดช ระบุ คือ ไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต เนื่องจากการใช้เงินบริจาคเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการรับบริจาค คือนำไปใช้ในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ และการจัดซื้อจัดจ้างก็มีการนำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาบังคับใช้ “โดยอนุโลม” โดยสาเหตุที่ต้องอนุโลมเนื่องจากโครงการนี้มีระยะเวลาจำกัด ทำให้การจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวข้องต้องใช้ “วิธีพิเศษ” เป็นหลัก เพื่อให้ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วตามกำหนด แต่ขั้นตอนต่างๆ มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการอย่างถูกต้อง

กรณีที่มีข้อสงสัยว่ารูปหล่ออดีตพระมหากษัตริย์แห่งสยามอาจมีราคาแพงเกินจริง แหล่งข่าวระบุว่า ประเด็นนี้ สตง. รายงานมาว่า เดิมรูปหล่อแต่ละองค์มีราคาตั้งไว้เฉลี่ยถึงองค์ละ 70 ล้านบาท แต่กองทัพบกก็สามารถต่อรองลงมาจนได้ราคาเฉลี่ยองค์ละ 40-45 ล้านบาทเท่านั้น นอกจากนี้ รูปหล่อหลายพระองค์มีรายละเอียดทางศิลปกรรมที่ซับซ้อนกว่ารูปหล่อทั่วไปๆ โดยเฉพาะรูปหล่อของรัชกาลที่ 5 ราคาดังกล่าวจึงไม่ได้แพงเกินจริงแต่อย่างใด(ดูเพิ่มเติมสำรวจโครงการสร้างพระเนื้อโลหะขนาดใหญ่)

“สำหรับข้อสงสัยเรื่องการหักหัวคิว 20 ล้านบาทโดยเซียนพระ อ. ทาง สตง. ได้ชี้แจงว่า ตามปกติแล้วการหักหัวคิวคือการนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่ครั้งนี้ เซียนพระ อ. ได้บริจาคคืนให้กับกองทัพบก นอกจากนี้ โรงหล่อต่างๆ ก็ชี้แจงตรงกันว่าเป็นค่าที่ปรึกษา เพราะเซียนพระ อ. เข้ามาช่วยดำเนินการจริงๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาในการหล่อพระรูป เนื่องจากการหล่อพระรูปบางองค์มีปัญหามาก จนหลายโรงหล่อต้องลงขันช่วยกันทำ พฤติกรรมของเซียนพระ อ. จึงไม่ใช่แค่นายหน้าที่หางานมาให้แล้วหักหัวคิวอย่างที่หลายคนเข้าใจ” แหล่งข่าวระบุ

อุทยานราชภักดิ์
สตง. สรุปผลสอบการหล่อพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ ในอุทยานราชภักดิ์ ราคาไม่แพงเกินจริง และไม่มีการเรียกรับหัวคิว

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน พล.อ. ไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ว่า จะขอให้ สตง. ไปตรวจสอบเพิ่มเติม 3-4 ประเด็น เพื่อให้สังคมสิ้นสงสัย ก่อนจะมีการเปิดแถลงข่าวชี้แจงผลการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์อย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 จะมีการประชุม ศอตช. ที่มี พล.อ. ไพบูลย์ เป็นประธาน