ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > “องค์การค้า สกสค.” ใช้วิธีพิเศษจ้างเอกชน 4 รายพิมพ์ตำราเรียน 200 ล้าน – ตั้ง หจก. “ส.ศึกษาภัณฑ์ราชสีมา” ขายหนังสือมูลค่า 1,000 ล้าน

“องค์การค้า สกสค.” ใช้วิธีพิเศษจ้างเอกชน 4 รายพิมพ์ตำราเรียน 200 ล้าน – ตั้ง หจก. “ส.ศึกษาภัณฑ์ราชสีมา” ขายหนังสือมูลค่า 1,000 ล้าน

8 กุมภาพันธ์ 2016


10 เดือน นับจากวันที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558 แต่งตั้ง-โยกย้าย ซี 11 กระทรวงศึกษาธิการ 5 หน่วยงาน พร้อมกับสั่งการให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายเงินภาครัฐ (คตร.) เข้าตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างของคุรุสภา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และ องค์การค้าของ สกสค. ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2558

ปัญหาองค์การค้าของ สกสค. ที่สะสมมานาน ถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขาดทุนสะสม 5,000 ล้านบาท แท่นพิมพ์ทรุดโทรม ล้าสมัย ทำให้การผลิตตำราเรียนไม่ทันเปิดเทอม ต้องใช้วิธีพิเศษว่าจ้างเอกชนมาช่วยพิมพ์ รวมทั้งการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายมาช่วยขาย จนกลายเป็นประเด็นร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้น เช่น สมัยนายสมมาตร์ มีศิลป์ อดีตผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ทั้ง คสช. และกระทรวงศึกษาธิการก็มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีองค์การค้าฯ ใช้วิธิพิเศษเช่าแท่นพิมพ์ตำราเรียนของบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) สูงกว่าราคากลาง 3 เท่าตัว หรือกรณีการแต่งตั้งบริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายตำราเรียนมูลค่า 1,400 ล้านบาท รวมทั้งกรณีตำราเรียนสูญหายไปจากคลัง เป็นต้น สุดท้ายนำไปสู่การปลดนายสมมาตร์ มีศิลป์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ โดยที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ลงมติเลิกจ้างนายสมมาตร์ มีศิลป์ เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่ผ่านการประเมิน ส่วนผลการสอบข้อเท็จจริง กรณีการเช่าแท่นพิมพ์, แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย และกรณีตำราเรียนสูญหายจากคลัง ทั้ง คตร. และกระทรวงศึกษาธิการสรุปผลสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวอย่างไร กระทรวงศึกษาธิการไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

นายสุเทพ  ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค. ที่มาภาพ : http://www.obec.go.th/
นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.
ที่มาภาพ: http://www.obec.go.th/

หลังจากที่นายสมมาตร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ วันที่ 21 เมษายน 2558 พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้ง นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.

วันที่ 17 ธันวาคม 2558 พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. ลงนามแก้ไขข้อบังคับของ สกสค. ฉบับที่ 3/2558 ปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในองค์การค้าของ สกสค. ตามมติของที่ประชุมบอร์ด สกสค. ครั้งที่ 13/2558 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 โดยเพิ่มตำแหน่งรองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. 2 ตำแหน่ง ซึ่งมาจากการทำสัญญาว่าจ้าง 1 ตำแหน่ง และคัดเลือกจากพนักงานเจ้าหน้าที่ (องค์การค้าของ สกสค.) อีก 1 ตำแหน่ง

วันที่ 21 ธันวาคม 2558 นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ลงนามคำสั่งองค์การค้าของ สกสค. ที่ 889/2558 แต่งตั้งนายวิมล จำนงบุตร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการองค์การค้าฯ (สัญญาจ้าง) พร้อมกับแต่งตั้งนายอดุลย์ บุสสา ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค.

และในวันเดียวกันนั้น นายสุเทพได้ลงนามคำสั่งองค์การค้าของ สกสค. ที่ 891/2558 แบ่งงานให้รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ดูแลรับผิดชอบ โดยมอบหมายให้นายวิมลกำกับดูแลหน่วยงานภายในองค์การค้า 3 สำนัก ได้แก่ สำนักบริหารการเงินและบัญชี สำนักบริหารการตลาดและการขาย และสำนักบริหารการผลิตและการพิมพ์ ส่วนนายอดุลย์ กำกับดูแลสำนักบริหารกลางและสำนักบริหารสินทรัพย์

แหล่งข่าวระดับสูงจากองค์การค้าของ สกสค. ให้ความเห็นว่า “การปรับโครงสร้างการบริหารภายในองค์การค้าฯ ครั้งนี้ ทางสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาและพนักงานหลายคนยังไม่มั่นใจว่าโครงสร้างใหม่จะช่วยแก้ปัญหาขององค์การค้าฯ ได้ เนื่องจากนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ไม่ได้ทำงานเต็มเวลา ส่วนนายวิมลเป็นอดีตข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการที่เพิ่งจะเกษียณเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ไม่มีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจการค้ามาก่อนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลงาน 3 สำนัก ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักขององค์การค้าฯ และที่สำคัญ หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ เพราะมีสถานะเป็นลูกจ้างขององค์การค้าฯ การแก้ไขระเบียบข้อบังคับ แต่งตั้งรองผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ครั้งนี้ ถือเป็นการแก้ไขให้กับคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะหรือไม่ นี่เป็นข้อสังเกตของพนักงานองค์การค้าฯ”

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการแต่งตั้งและมอบหมายงานให้รองผู้อำนวยการของ สกสค. วันที่ 12 มกราคม 2559 นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ลงนามคำสั่งองค์การค้าของ สกสค. ที่ 1/2559 แต่งตั้งนายอดุลย์ บุสสา รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เป็นประธานคณะกรรมการยกร่าง TOR จ้างโรงพิมพ์ภายนอกพิมพ์หนังสือเรียนจำนวน 12 ล้านเล่ม รวมทั้งกำหนดราคากลางแต่ละรายการ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ครั้งที่ 10/2558 วันที่ 28 ธันวาคม 2558

ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักบริหารการตลาดและการขาย ตัดสินใจพิมพ์หนังสือเรียน 8 กลุ่มสาระ จำนวน 40 ล้านเล่ม เพื่อจำหน่ายในปีการศึกษา 2559 องค์การค้าของ สกสค. จึงกำหนดเป้าหมายในส่วนของการจัดพิมพ์หนังสือเรียน 40 ล้านเล่ม ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อจัดส่งหนังสือให้ถึงโรงเรียนก่อนเปิดเทอม

ขณะที่สำนักบริหารการผลิตและการพิมพ์รายงานผลตรวจสอบกำลังการผลิตจากแท่นพิมพ์ขององค์การค้าฯ และแท่นพิมพ์ในส่วนที่องค์การค้าฯ เช่าจากบริษัทศิริวัฒนาฯ (สัญญาเช่าแท่นพิมพ์สิ้นสุดวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559) พบว่า แท่นพิมพ์มีกำลังการผลิตส่วนเกิน 12 ล้านเล่ม ซึ่งองค์การค้าฯ ไม่สามารถจัดพิมพ์หนังสือเรียนให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา จึงจำเป็นต้องจ้างโรงพิมพ์ภายนอกมารับงานพิมพ์หนังสือลอตนี้

จ้างโรงพิมพ์ภายนอก

วันที่ 15 มกราคม 2559 นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ลงนามในคำสั่งองค์การค้าที่ 4/2559 แต่งตั้งนายวิมล จำนงบุตร รองผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการจ้างโรงพิมพ์ภายนอก พิมพ์หนังสือเรียนปีการศึกษา 2559 โดยวิธีพิเศษ 61 รายการ คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 11,680,000 เล่ม

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบรายละเอียดของคำสั่งองค์การค้าที่ 4/2559 ที่ระบุว่า “เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ซึ่งได้รับการอนุมัติหลักการรายการจ้างพิมพ์และรายละเอียดการจ้างพิมพ์จากโรงพิมพ์ภายนอกเรียบร้อยแล้ว” ข้อความท่อนนี้น่าจะหมายถึง ก่อนที่จะออกคำสั่งองค์การค้าของ สกสค. ฉบับที่ 4/2559 แต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ มีโรงพิมพ์ภายนอกได้รับรู้ข้อมูลล่วงหน้า ดังนี้ 1. จำนวนหนังสือที่จะจ้างพิมพ์ จำนวน 61 รายการ รวม 11,680,000 เล่ม 2. รายละเอียดของหนังสือที่จะจ้างพิมพ์ และ 3. ราคาที่จะจ้าง รวมเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน

“หลังสัญญาเช่าแท่นพิมพ์กับบริษัท ศิริวัฒนา อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) สิ้นสุดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ล่าสุดมีโรงพิมพ์เอกชนที่เข้ามารับงานพิมพ์ตำราเรียน 11.68 ล้านเล่มจากองค์การค้าของ สกสค. ทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท อำนวยเวบพริ้นติ้ง, บริษัท ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ จำกัด, บริษัท วันชาติ แพ็คกิ้งแอนด์สกรีน จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด อุดมศึกษา ส่วนตัวแทนจำหน่ายหนังสือเรียนมูลค่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.ศึกษาภัณฑ์นครราชสีมา ที่จะเข้ามาแทนบริษัท ล็อกซเล่ย์ ไวร์เลส จำกัด (มหาชน)” แหล่งข่าวกล่าว

ป้ายคำ :