ณัฐวุฒิ เผ่าทวี
www.powdthavee.co.uk
เอาล่ะ ผมว่าเราเครียดเรื่องชีวิตเเละเรื่องการเมืองมานานพอเเล้วนะครับ วันนี้ผมขอถือโอกาสเขียนเรื่องอะไรที่เบาๆ บ้างนะครับ
คุณผู้อ่านทราบไหมครับว่า เรื่องตลกเรื่องไหนเป็นเรื่องที่ขำที่สุดในโลก เเละคนในเเต่ละประเทศนั้นเขามีอารมณ์ขันที่เเตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน เเล้วปัจจัยอะไรที่ทำให้เราสามารถขำกับมันได้
จิตวิทยาของอารมณ์ขัน
ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก เคยกล่าวเอาไว้ว่า คนเราส่วนใหญ่มักจะพบเรื่องตลกที่มีหัวข้อเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามหรือ taboo ในสังคม เช่น เรื่องความตาย การมีเพศสัมพันธ์ หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีอำนาจหรือเป็นบุคคลสำคัญในสังคม ตลกที่สุด นั่นก็เป็นเพราะว่าเรื่องตลกที่เกี่ยวกับ taboo นั้นสามารถช่วยให้คนที่รับฟังปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจเเต่ไม่สามารถพูดในชีวิตประจำวันได้ ยกตัวอย่างเช่น เรื่องตลกหรือ joke อันนี้
ผู้หญิงคนหนึ่งบอกกับเพื่อนของเธอว่า “เป็นเวลาสิบเเปดปีที่ฉันเเละสามีของฉันเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก…จนกระทั่งเราสองคนมาคบกัน”
ทฤษฎีอีกทฤษฎีหนึ่งก็คือทฤษฎีของความเหนือกว่า หรือ superiority theory ทฤษฎีนี้บอกกับเราว่าคนเรามักจะเห็นเรื่องที่ทำให้เรามีความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นทั่วไปเป็นเรื่องที่ตลก นั่นก็เป็นเพราะว่าคนเรามักจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นถ้าเขามีความรู้สึกว่ามีคนอื่นที่เเย่กว่าเขา (ฟังดูเเย่เหมือนกันนะครับ) ยกตัวอย่างเช่นเรื่องตลกหรือ joke อันนี้
ผู้หญิงคนหนี่งอุ้มเป็ดเข้าไปในร้านกาเเฟ เธอวางเป็ดของเธอไว้บนเก้าอี้ข้างๆ เธอ หลังจากนั้นไม่นานเด็กเสิร์ฟก็เดินมาพูดเป็นเสียงดังว่า “โห ไม่เคยเห็นหมูตัวไหนหน้าตาน่าเกลียดเท่านี้ในชีวิตเลย” เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “นั่นมันเป็ด ไม่ใช่หมู” เด็กเสิร์ฟจึงตอบกลับไปว่า “เมื่อกี้ผมพูดกับเป็ด ไม่ได้พูดกับคุณ”
ทฤษฎีอีกทฤษฎีหนึ่งก็คือทฤษฎีที่เกี่ยวกับการไม่ลงรอยกัน หรือ incongruity theory นั่นก็คือสิ่งที่เราคิดว่ามันควรจะเป็นเเต่กลับจบเเบบที่ไม่เป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้นั่นเอง
เรื่องตลกที่ขำที่สุดในโลก
ในปีค.ศ. 2001 ริชาร์ด ไวซ์เเมน (Richard Wiseman) นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Hertfordshire ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการวิจัยทดลองว่าเรื่องตลกเรื่องไหนจากกว่าสี่หมื่นเรื่องเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกเห็นว่าเป็นเรื่องตลกที่สุด ข้อสมมติฐานของเขาก็คือว่า เรื่องตลกที่ขำที่สุดในโลกน่าจะมีองค์ประกอบของทฤษฎีทั้งสามปนอยู่ในเรื่องเดียวกัน เเละจากการโหวตกว่า 1.5 ล้านโหวตเขาก็พบว่าเรื่องที่ตลกที่สุดในโลกก็คือเรื่องนี้
ผู้ชายสองคนซึ่งเป็นเพื่อนกันออกเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อไปล่าสัตว์ด้วยกัน หลังจากเดินเข้าป่าด้วยกันไม่นานคนหนึ่งก็หมดสติล้มตัวลงไปนอนกับพื้น เพื่อนอีกคนซึ่งตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากก็หยิบโทรศัทพ์ออกมาเพื่อโทรหา emergency services พอโทรติดเขาก็ตะโกนลงไปตามสายโทรศัพท์ว่า “ช่วยผมด้วยครับ ช่วยผมด้วย เพื่อนผมหมดสติล้มลงไป รู้สึกว่าเขาจะหยุดหายใจเเล้วด้วย ผมว่าเขาต้องตายไปเเล้วเเน่ๆ เลย ผมต้องทำยังไงดีครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นโอเปอเรเตอร์ก็ตอบกลับไปว่า “คุณต้องใจเย็นๆ นะคะ ตั้งสติให้ดี โอเค ก่อนอื่นเลยนะคะ คุณต้องเเน่ใจเสียก่อนว่าเพื่อนของคุณตายจริง” พอโอเปอเรเตอร์พูดจบ ผู้ชายคนนั้นก็หายเงียบไป หลังจากนั้นไม่นานโอเปอเรเตอร์ก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่นขึ้นมา สองวินาทีต่อมาผู้ชายคนเดิมก็กลับมาพูดโทรศัพท์กับเธอว่า “โอเค เรียบร้อยเเล้วครับ เเล้วยังไงต่อครับ”
เเล้วเรื่องตลกที่มาเป็นอันดับที่สองก็คือเรื่องนี้
เชอร์ล็อก โฮมส์ กับดอกเตอร์วอตสัน ไปตั้งเเคมป์ด้วยกัน หลังจากทานข้าวเย็นเเละดื่มไวน์ไปขวดหนึ่งทั้งสองก็เข้านอน หลังจากทั้งสองนอนหลับไปได้ประมาณสองชั่วโมง เชอร์ล็อก โฮมส์ ก็ตื่นขึ้นพร้อมกับปลุกดอกเตอร์วอตสันที่นอนอยู่ข้างๆ ว่า “วอตสัน ถ้าคุณมองขึ้นไป คุณมองเห็นอะไร”
“ผมเห็นดาวส่องประกายเป็นล้านๆ ดวง โฮมส์” วอตสันเเบบงัวเงียๆ
“เเล้วมันบ่งบอกอะไรกับคุณบ้าง” โฮมส์ถาม
วอตสันใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบออกไปว่า
“ถ้าดูในเชิงดาราศาสตร์เเล้วล่ะก็ ดาวพวกนี้บอกกับผมว่านอกโลกของเรานั้นยังมีกาเเล็กซี่อยู่อีกมากมายเเละอาจมีดาวที่มีลักษณะคล้ายกันกับโลกของเราอยู่อีกเป็นล้านๆ ถ้าดูในเชิงโหราศาสตร์เเล้วล่ะก็ ดาวพวกนี้บอกกับผมว่าดาวเสาร์กำลังเข้าอยู่ในระยะของราศีสิงห์ ถ้าดูในเชิงวิทยาศาสตร์ของการบอกเวลาเเล้วล่ะก็ ดาวพวกนี้บอกกับผมว่าขณะนี้เป็นเวลาประมาณตีสามกับอีกสิบห้านาที ถ้าดูในเชิงอุตุนิยมวิทยาเเล้วล่ะก็ ดาวพวกนี้บอกกับผมว่าพรุ่งนี้อากาศจะดี ถ้าดูในเชิงเทววิทยาเเล้วล่ะก็ ดาวพวกนี้บอกกับผมว่าพระเจ้ามีพลังที่มากจนเหนือคำบรรยาย เเละคุณล่ะโฮมส์ ดาวพวกนี้บอกอะไรกับคุณ”
โฮมส์เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า “วอตสัน ทำไมคุณโง่อย่างนี้! คุณไม่เห็นหรือไงว่ามีคนขโมยเต็นท์ของเราไป!”
เรื่องตลกที่สุดในเเต่ละประเทศ
ผมเชื่อว่าคงจะไม่มีคุณผู้อ่านทุกท่านที่ขำไปกับเรื่องตลกสองเรื่องข้างบนนี้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เเปลกเลย นั่นก็เป็นเพราะว่างานวิจัยของริชาร์ด ไวซ์เเมน ยังพบอีกว่า อารมณ์ขันของคนเเต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกันเสมอไป ผมจึงยกตัวอย่างเรื่องตลกที่ขำที่สุด (ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว) ไว้ข้างล่างนี้นะครับ
1) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เพื่อนผู้ชายสองคนไปตีกอล์ฟกันที่สนามกอล์ฟเเถวๆ บ้านของเขาทั้งสอง ในขณะที่เพื่อนคนหนึ่งกำลังจะตีชิปเข้าไปในกรีน เขาคนนั้นก็เหลือบไปเห็นขบวนงานศพเดินกันมาบนถนนข้างๆ ของสนามกอล์ฟ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็หยุดตีทันทีพร้อมๆ กับถอดหมวกยืนไว้อาลัยให้กับขบวนงานศพจนขบวนศพได้ผ่านเขาเเละเพื่อนของเขาไป เพื่อนของเขาเห็นดังนั้นก็เอ่ยปากชมผู้ชายคนนั้นว่า “นั่นเป็นการกระทำที่ซาบซึ้งที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเคยเห็นมา คุณเป็นคนดีจริงๆ ” ผู้ชายคนนั้นก็ตอบกลับไปว่า “ครับ มันเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยมากที่ผมสามารถทำให้กับเธอได้หลังจากที่เราเเต่งงานกันมากว่าสามสิบสองปีก่อนเธอตาย”
2) ประเทศเเคนาดา
เมื่อตอนองค์การนาซา (NASA) ทำการเตรียมตัวที่จะส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปบนอวกาศเป็นครั้งเเรก พวกเขาพบว่าปากกาลูกลื่นธรรมดาไม่สามารถใช้งานในสุญญากาศได้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องลงทุนกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์เเละเวลาอีกกว่าสิบปีในการคิดค้นปากกาที่สามารถใช้เขียนในสุญญากาศได้ ส่วนประเทศรัสเซียส่งมนุษย์อวกาศขึ้นไปบนอวกาศพร้อมกับดินสอเเท่งเดียว
3) ประเทศสกอตเเลนด์
ผมอยากที่จะตายอย่างสงบในขณะที่ผมกำลังหลับอยู่เหมือนกับคุณปู่ของผม ไม่ตะโกนเเหกปากโวยวายเหมือนกับผู้โดยสารของคุณปู่
เเละ 4) ประเทศไอร์เเลนด์เหนือ
คุณหมอบอกกับคนไข้ของเขาว่า “ผมมีข่าวไม่ดีเเละข่าวที่ไม่ดีกว่ามาบอก”
“เฮ้ยหมอ จริงดิ อย่าพูดให้ผมกลัวสิครับ ข่าวไม่ดีคืออะไร” ถามคนไข้
“คุณจะมีชีวิตอยู่อีกเเค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น” คุณหมอตอบ
“เฮ้ยจะบ้าไปเเล้วเหรอหมอ” คนไข้ร้อง “มันจะมีข่าวไหนที่เเย่ไปกว่านี้อีกหรือ”
คุณหมอจึงตอบไปว่า “ผมพยายามจะโทรบอกคุณตั้งเเต่เมื่อวานเเล้วเเต่โทรไม่ติด”
เเล้วคุณผู้อ่านว่า เรื่องตลกเรื่องไหนที่น่าจะขำที่สุดสำหรับคนไทยอย่างเรากันครับ 🙂 ถ้าเเชร์กับผมได้ ณ ที่นี้ก็ยิ่งเป็นการดีเลยนะครับ
อ่านเพิ่มเติมWiseman, R. The Laugh Lab
