ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. เปิดจำนวนเรื่องกล่าวหาทุจริตในภาคเหนือ รวม 850 เรื่อง “เชียงใหม่-นครสวรรค์” มากที่สุด เตรียมสรุปข้อเท็จจริงปมอดีตอธิบดีรุกป่าในเชียงราย

ป.ป.ช. เปิดจำนวนเรื่องกล่าวหาทุจริตในภาคเหนือ รวม 850 เรื่อง “เชียงใหม่-นครสวรรค์” มากที่สุด เตรียมสรุปข้อเท็จจริงปมอดีตอธิบดีรุกป่าในเชียงราย

5 สิงหาคม 2015


(จากซ้ายไปขวา) นายวิชา มหาคุณ และ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ร่วมกันแถลงสรุปจำนวนคดีในภาคเหนือที่อยู่ระหว่างดำเนินการของ ป.ป.ช.
(จากซ้ายไปขวา) นายวิชา มหาคุณ และ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ร่วมกันแถลงสรุปจำนวนคดีในภาคเหนือที่อยู่ระหว่างดำเนินการของ ป.ป.ช.

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 ที่โรงแรมดุสิตธานี ไอส์แลนด์ จ.เชียงราย นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงความเคลื่อนไหวของคดีทุจริตที่มีการกล่าวหาร้องเรียนในพื้นที่ จ.เชียงรายและปริมาณคดีในภาคเหนือ รวม 17 จังหวัด โดยพบว่า มีจำนวนเรื่องกล่าวหา 1,165 เรื่อง รวมแล้วเสร็จในระดับจังหวัด 315 เรื่อง คิดเป็น 27.04% ซึ่งถือว่ายังน้อยเกินไป เนื่องจากมีเป้าหมายในการแสวงหาข้อเท็จจริงให้เร็วยิ่งขึ้น โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน มีการรับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ระดับปฏิบัติการจากเนติบัณฑิตเข้ามาเพิ่ม จำนวน 300 คนเศษ

นายวิชากล่าวว่า เรื่องกล่าวหาร้องเรียนในภาคเหนือที่มากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ คดีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง คดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีเรียกรับสินบนหรือผลประโยชน์ โดยจังหวัดที่มีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนคงเหลือมากที่สุดมี 2 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ และ จ.นครสวรรค์

เรื่องกล่าวหาร้องเรียนคงเหลือในภาคเหนือ 850 เรื่อง เมื่อแยกรายจังหวัดแล้วมีดังนี้

1. เชียงใหม่ คงเหลือ 123 เรื่อง 2. แพร่ คงเหลือ 16 เรื่อง 3. ลำปาง คงเหลือ 71 เรื่อง 4. เชียงราย คงเหลือ 66 เรื่อง5. พะเยา คงเหลือ 64 เรื่อง 6. ลำพูน คงเหลือ 40 เรื่อง 7. น่าน คงเหลือ 36 เรื่อง 8. แม่ฮ่องสอน คงเหลือ 10 เรื่อง 9. พิษณุโลก คงเหลือ 54 เรื่อง 10. สุโขทัย คงเหลือ 11 เรื่อง 11. นครสวรรค์ คงเหลือ 130 เรื่อง 12. กำแพงเพชร คงเหลือ 51 เรื่อง 13. ตาก คงเหลือ 33 เรื่อง 14. พิจิตร คงเหลือ 50 เรื่อง 15. เพชรบูรณ์ คงเหลือ 58 เรื่อง 16. อุตรดิตถ์ คงเหลือ 24 เรื่อง และ 17. อุทัยธานี คงเหลือ 15 เรื่อง

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะนี้ยังมีบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ค้างตรวจสอบกว่า 1.1 หมื่นบัญชี คิดเป็น 180 บัญชีต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. 1 คน ส่วนใหญ่เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สาเหตุหลักคือไม่มีความรู้ ดังนั้น ป.ป.ช. จึงต้องเข้าไปทำความเข้าใจว่าเมื่อเข้าสู่ตำแหน่งที่มีอำนาจรัฐแล้วจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เพราะหากไม่ยื่นจะต้องไปสู้กันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสถานเดียว

สำหรับใน จ.เชียงราย มีเรื่องกล่าวหาที่น่าสนใจ ดังนี้

– เรื่องกล่าวหาอดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ดำเนินการโครงการรับจำนำลำไยอบแห้ง ปี 2545 ในท้องที่ จ.เชียงราย โดยมิชอบ

– เรื่องกล่าวหาอดีตนายอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย และพวก ทุจริตเกี่ยวกับการรับรองการเกิดในประเทศไทยเป็นเท็จ และอนุมัติให้ลงรายการสัญชาติไทยโดยมิชอบ

– เรื่องกล่าวหาพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย และพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการดำเนินคดีอาญายาเสพติดของ สภ.แม่สาย

– เรื่องกล่าวหาพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย รอง สวป. สภ.แม่สาย และ ผบ.หมู่ สภ.แม่สาย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเรียกรับสินบน หน่วงเหนี่ยวกักขัง ยักยอกเงินค่าปรับ ในความผิดเกี่ยวกับการช่วยเหลือให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

– เรื่องกล่าวหาสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และพวก 1. ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมร่วมดำเนินการใดๆ ในการเสนอราคาหรือไม่เข้าร่วมในการเสนอราคา โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญด้วยประการใดๆ ให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น และ 2. เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

– เรื่องกล่าวหา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย และพวก เบิกจ่ายเงินโครงการฝึกอบรมสัมมนาและทัศนศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานเทศบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ไม่ตรงกับความจริง มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต

เป็นต้น

ดูเพิ่มเติม (เรื่องกล่าวหาร้องเรียนใน จ.เชียงรายที่น่าสนใจทั้งหมด)

นายอนันต์ เพชรใหม่ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.เชียงราย กล่าวว่า คดีสำคัญอื่นในพื้นที่ จ.เชียงราย ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง มีอาทิ คดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลใน 12 โรงเรียน ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการไต่สวนข้อเท็จจริง และมีกรรมการ ป.ป.ช. บางคนมาลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และคดีข้าราชการระดับสูงระดับอดีตอธิบดีกรมบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ คาบเกี่ยวพื้นที่ อ.เมือง และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น คาดว่าจะสรุปสำนวนได้ในเร็วๆ นี้ ก่อนส่งให้ ป.ป.ช. ส่วนกลางดำเนินการต่อไป ซึ่งหากเห็นว่ามีมูลก็สามารถตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้