ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสการเมือง > ไอลอว์เปิดรายงานจับตาหนึ่งปี สนช. ใช้งบเฉียด 300 ล้าน พิจารณากฎหมาย 130 ฉบับ ผ่านแล้ว 108 ไม่ผ่าน 0

ไอลอว์เปิดรายงานจับตาหนึ่งปี สนช. ใช้งบเฉียด 300 ล้าน พิจารณากฎหมาย 130 ฉบับ ผ่านแล้ว 108 ไม่ผ่าน 0

12 สิงหาคม 2015


โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือไอลอว์ เปิดเผยรายงานจับตาการทำงาน 1 ปีของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พบใช้งบประมาณเกือบ 300 ล้านบาท พิจารณากฎหมาย 130 ฉบับ ผ่าน 108 ฉบับ ไม่ผ่าน 0 ขณะที่มีการแต่งตั้ง 28 ตำแหน่ง ถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมือง 4 ตำแหน่ง การพิจารณากฎหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วมีเสียงค้านน้อย ขณะที่การถอดถอนนักการเมืองพบว่าความเห็นในสภายังมีหลากหลาย

วันที่ 12 สิงหาคม 2558 โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) องค์กรพัฒนาเอกชนที่ติดตามการทำงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อันเป็นสภาที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เปิดเผยรายงานสรุปผลการทำงานของสนช. โดยไอลอว์ติดตามเก็บข้อมูลการพิจารณากฎหมายและการแต่งตั้ง ถอดถอนบุคคลสำคัญ มาตั้งแต่เข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 จนถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2558 เป็นเวลาครบ 1 ปีพอดี

ผ่านกฎหมายแล้ว 108 ฉบับ ไม่ผ่าน 0 เฉลี่ยออกกฎหมายเดือนละ 9 ฉบับ

การทำหน้าที่ในการพิจารณากฎหมายที่ผ่านมา สนช. พิจารณากฎหมายไปทั้งสิ้น 130 ฉบับ ผ่านความเห็นชอบเรียบกร้อยแล้ว 108 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. อีก 22 ฉบับ และหากแบ่งการร่างกฎหมาย 130 ฉบับตามผู้เสนอ จะเห็นว่าคณะรัฐมนตรีเสนอมากที่สุดคือ 105 ฉบับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 21 ฉบับ สมาชิก สนช. เป็นผู้เสนอ 3 ฉบับ และประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ (ป.ป.ช.) 1 ฉบับ

ขณะที่กฎหมายที่ผ่านการพิจารณาแล้วจำนวน 108 ฉบับ ถูกเสนอโดย 23 หน่วยงาน กระทรวงการคลังเสนอมากที่สุดอย่างน้อย 18 ฉบับ รองลงมาคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างน้อย 9 ฉบับ กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงคมนาคมเสนอกฎหมายไปอย่างน้อย 7 ฉบับ

เมื่อพิจารณาระยะเวลาในการออกฎหมายของ สนช. พบว่าตลอด 12 เดือนที่ผ่าน สนช.ออกกฎหมาย 108 ฉบับ เฉลี่ยแล้ว สนช. ออกกฎหมายเดือนละ 9 ฉบับ โดยที่ไม่เคยมีกฎหมายฉบับใดที่เมื่อสนช.รับหลักการในวาระที่ 1 แล้วต่อมาถูกโหวตให้ตกไปเลยแม้แต่ฉบับเดียว อาจกล่าวได้ว่ากฎหมายที่เข้าสนช. ทุกฉบับไม่เคยมีฉบับใดไม่ผ่าน ร่างกฎหมายที่พิจารณานานที่สุด คือ ร่างพ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินฯ ใช้เวลาไป 202 วัน หรือเกือบ 7 เดือน ส่วนร่างกฎหมายที่พิจารณา 3 วาระรวดภายใน 1 วัน มีจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 63), ร่างพ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน และร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม (องค์ประกอบคณะกรรมการข้าราชการยุติธรรม)

กฎหมายที่ผ่านการพิจารณาแล้วมีมากกว่า 10 ฉบับที่ยังมีข้อถกเถียงกันในสังคม เช่น พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก, พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ, พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เรื่องการอุทธรณ์ฎีกา, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือกฎหมายอุ้มบุญ เป็นต้น ส่วนร่างกฎหมายที่ประชาชนเคยเข้าชื่อกันเสนอ 10,000 ชื่อ สนช.หยิบมาพิจารณาประกาศใช้ไปแล้ว 4 ฉบับ ขณะที่ยังมีข้อคาใจจากกลุ่มที่เสนอกฎหมายอยู่ทุกฉบับ

ใช้งบเกือบ 300 ล้าน เฉลี่ยกฎหมายแต่ละฉบับใช้เงินประมาณ “สองล้านห้าแสน”

ด้านงบประมาณที่ใช้ในการทำงานของ สนช. ตั้งแต่สิงหาคม 2557 – กรกฎาคม 2558 คิดคำนวณจากเงินเดือนประจำของประธาน รองประธานและสมาชิกสนช. รวมเป็นเงิน 274,887,140 บาท เมื่อนำมารวมกับค่าเบี้ยประชุมกรรมาธิการที่ถูกแต่งตั้งให้พิจารณากฎหมายอีก 16,702,500 บาท จะได้ค่าประมาณของเงินงบประมาณแผ่นดินที่ถูกใช้ไปแล้ว เท่ากับ 291,589,640 บาท ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมเบี้ยประชุมของอนุกรรมาธิการ ค่าพาหนะ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างจังหวัด ฯลฯ

เมื่อนำเงินเดือนของสมาชิก สนช. ที่ประเมินไว้ข้างต้น (274,887,140 บาท) มาหารด้วยจำนวนกฎหมายที่ สนช. ให้ความเห็นชอบในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (108 ฉบับ) จะได้ว่ากฎหมาย 1 ฉบับ ใช้เงินเฉลี่ย 2,545,251 บาท

1yr-nla-f2

หนึ่งปี สนช.แต่งตั้ง 28 ตำแหน่ง ไม่เห็นชอบ 1 คน ถอดถอน 4 ตำแหน่ง

ตลอดหนึ่งปี สนช.พิจารณาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งตามบทบัญญัติของกฎหมายไปแล้วอย่างน้อย 28 คน ใน 10 หน่วยงาน ได้แก่ กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ต.) กรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ศป.) กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ (กอ.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) อัยการสูงสุด และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติฯ

นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในจำนวน 28 คนที่ได้รับความเห็นชอบ อย่างน้อย 6 คน เป็นสมาชิกสนช. สปช. หรือผู้ช่วย สนช. อาทิ ร้อยตำรวจตรี พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร รองอัยการสูงสุด และสมาชิก สนช. เป็นอัยการสูงสุด, สมพล เกียรติไพบูลย์ สมาชิก สนช. เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), ศาสตราจารย์อุดม รัฐอมฤต อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นกรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.ศป.) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิก สนช.ของ ศ.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฯลฯ

ทั้งนี้จากการพิจารณาบุคคลให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ มีเพียง 1 ครั้ง ที่ สนช.ลงมติไม่เห็นชอบคือ กรณีไม่เห็นชอบให้ ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน สำหรับ ม.ล.ฤทธิเทพ เป็นอดีตผู้พิพากษาเสียงข้างน้อย ในคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ด้านการถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองในรอบหนึ่งที่ผ่านมา มีจำนวน 4 คน คือยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอีก 3 คน ซึ่งถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่มีกลุ่มอดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 38 คน และประธานสภาอีก 2 คน ไม่ถูกถอดถอน ในคดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ประเด็นที่มา ส.ว. ยังเหลือคดีของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อีก 248 คน ประเด็นการการแก้ไขที่มา ส.ว. ที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

ป้ายคำ :