ThaiPublica > คอลัมน์ > Bill Cosby ไม่ได้ “เสียคนเมื่อแก่”

Bill Cosby ไม่ได้ “เสียคนเมื่อแก่”

28 กรกฎาคม 2015


วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

สามคดีของการเสียชีวิตในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นคดีเจ้าพ่อถูกสังหารและยังจับคนลงมือไม่ได้ เพราะดูจะมีเจ้าภาพที่มีความเป็นไปได้หลายรายมาก คดีอุบัติเหตุรถยนต์ที่น่าสงสัยเพราะโยงสู่การโอนหุ้นให้พริตตี้-แคดดี้ท้อง ตลอดจนการฆ่าตัวตายของผู้ใหญ่มียศศักดิ์สูงอายุ ทำให้คิดว่าโลกเรามีอะไรที่ข้างหน้าข้างหลังไม่ตรงกันอยู่มากพอควร และเมื่อได้อ่านข่าวดาราตลกอเมริกัน Bill Cosby ข่มขืนหลายครั้งโดยใช้ยานอนหลับช่วยแล้วยิ่งเห็นประเด็นนี้มากขึ้น

ชื่อ Bill Cosby ทำให้นึกถึงนักร้องเก่าแก่ชื่อคล้ายกันคือ Bing Crosby (ผู้ร้องเพลง White Christmas อันแสนคลาสสิก) เชื่อว่าพ่อแม่ Bill Cosby น่าจะจงใจตั้งชื่อลูกคนนี้เลียนแบบนักร้องชื่อดัง

ที่มาภาพ : http://www.fototime.com/B95F739976D76B8/orig.jpg
ที่มาภาพ : http://www.fototime.com/B95F739976D76B8/orig.jpg

ผู้ใหญ่หลายคนคงจำ Bill Cosby ได้ เขาเป็น Afro-American หน้าตาดี มีภาพพจน์ของความเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยศีลธรรม ปัญญา รักเด็ก ตลก ขบขัน เขาดังมากจากภาพยนตร์โทรทัศน์ในยุคทศวรรษ 60 เรื่อง I Spy และในยุคทศวรรษ 70-80-90 ก็มีภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ เช่น The Electric Company / Fat Albert and the Cosby Kids / The Cosby Show ฯลฯ

Cosby ดังมากจนเป็นผู้โฆษณาสินค้า Jell-o / Coca-Cola / Kodak / Texas Instruments ฯลฯ เขาเป็นฮีโร่ของเด็กจำนวนมากจากรายการโทรทัศน์เด็ก ผู้ใหญ่พ่อแม่ชอบเขาในความสุภาพ อารมณ์ขัน ความมีเหตุมีผล ความมีจริยธรรม ฯลฯ อย่างไรก็ดีตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีข่าวเกี่ยวกับเขาไปในทางลบมากมาย หญิงจำนวนมากออกมากล่าวหาว่าถูกเขาข่มขืนโดยใช้ยานอนหลับเป็นเครื่องมือ

Cosby ปัจจุบันอายุ 78 ปี ถือได้ว่าเป็นนักแสดงที่มีการศึกษาดีที่สุดคนหนึ่ง เขาเรียนจบปริญญาเอกด้านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง University of Massachusetts, Amherst ในปี 1976 ผู้คนสงสัยว่ามันเป็นไปได้อย่างไรที่คนมีชื่อเสียงดี ภาพพจน์ดี การศึกษาดี อย่างเขาจะกระทำสิ่งเหล่านี้กับผู้หญิงถึงกว่า 40 คน ระหว่างปี 1965-2008

จุดเริ่มต้นของเขาคือการเป็นนักแสดงด้วยการเป็น “โชว์เดี่ยว” ยืนพูดเรื่องขำขันในคลับต่าง ๆ ทั่วประเทศ จนเริ่มดังเมื่อได้รับเชิญให้ออกรายการ The Tonight Show ของ Johnny Carson ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากยาวนานหลายทศวรรษใน ค.ศ. 1963 จากนั้นก็เล่นภาพยนตร์หลายเรื่องเป็นตัวเอกในรายการและภาพยนตร์โทรทัศน์จำนวนมาก

จุดพลิกผันของการเปิดเผยสิ่งชั่วร้ายที่เขาได้ทำไว้เกิดขึ้นในปี 2014 นักแสดงตลกชื่อ Hannibal Buress วิจารณ์ Cosby บนเวทีในเรื่องการชอบสั่งสอนเด็กผิวดำว่าควรแต่งตัว และชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร และแถมอีกว่า “โธ่เอ๋ย ไอ้พวกชอบข่มขืนผู้หญิง” ปรากฏว่าคำพูดนี้กระจายไปทั่วอเมริกาด้วย social media ผลที่เกิดขึ้นก็คือสื่อต่าง ๆ พากันติดตามข้อกล่าวหานี้ซึ่งได้ยินกันมานานแล้ว ยิ่งสาวไปลึกก็ยิ่งมัดตัวเขายิ่งขึ้น สื่อไปพบหลักฐานคำให้การในคดีกล่าวหาว่า Cosby ข่มขืนของ Andrea Constand’s ในปี 2005 คดีนี้ได้ยอมความชดใช้เงินทองกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่พบก็คือคำให้การของ Cosby ในคดีนี้ซึ่งยอมรับกับศาลว่าเขาใช้ยานอนหลับ Quaaludes (ซึ่งตอนนั้นหาซื้อกันได้ตามร้านขายยาอย่างถูกกฎหมาย) กับผู้หญิงที่เขาอยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย และยอมรับว่าใช้กับหญิงหลายคน ในตอนแรกศาลสั่งให้เก็บคำให้การนี้เป็นความลับ แต่ต่อมายอมปล่อยคำให้การนี้ออกมา

ในกลางเดือนกรกฎาคม 2015 หนังสือพิมพ์ New York Times ได้นำคำให้การทั้งหมด มาตีพิมพ์เพราะถือว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ ผู้คนทั่วโลกอ่านกันแล้วแทบช็อคเพราะมันให้ภาพที่ตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของ Cosby ที่มีมาเกือบตลอดชีวิต เขาใช้ยานอนหลับชนิดนี้กับสาวจำนวนมาก ต่างกรรมต่างวาระกันตลอดเวลากว่า 20 ปีจนเป็นนิสัย (นิสัยที่มีอยู่ลึก ๆ เขาเรียกว่าสันดาน)

อย่างไรก็ดี หญิงสาวเกือบทั้งหมดไม่สามารถฟ้องร้องได้เพราะคดีหมดอายุความไปแล้ว มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ฟ้องร้องเอาเรื่อง กระนั้นก็ดีมีหญิงสาวหลายคนออกมากล่าวหา ด่าว่าเขาอย่างเสียหาย โดยกล่าวตรงกันเรื่องวิธีการของเขาในการใช้ยานอนหลับ

Bill Cosby ในวัย 78 ปี โดนสังคมเล่นงานหนักตั้งแต่ประธานาธิบดีโอบามาที่ตอบคำถามว่าจะมีการถอดถอนรางวัล Medal of Freedom ซึ่ง Cosby ได้รับเมื่อตอนปี 2002 หรือไม่ เขาตอบว่าไม่มีกลไกที่จะถอดและไม่เคยถอดมาก่อน ไม่อยากแสดงความเห็นเฉพาะรายแต่ว่าถ้าคน ๆ หนึ่งใช้ยากับหญิงโดยเขาไม่รู้ตัว และมีเพศสัมพันธ์ด้วย อย่างนี้เรียกว่าข่มขืน สังคมอารยะไม่ควรทนกับการกระทำเช่นนี้

ที่มาภาพ : http://i.guim.co.uk/img/media/6b2c56dcef409b2eac64c75b83a8338c5257f6ce/0_302_5080_3049/master/5080.jpg?w=620&q=85&auto=format&sharp=10&s=3e75f558e42dec1de6f370c35c07610e
ที่มาภาพ : http://i.guim.co.uk/img/media/6b2c56dcef409b2eac64c75b83a8338c5257f6ce/0_302_5080_3049/master/5080.jpg?w=620&q=85&auto=format&sharp=10&s=3e75f558e42dec1de6f370c35c07610e

Cosby สูญเสียงานโดยถูกตัดหมดไม่ว่าจะเป็นสัญญาในเรื่องใด พูดสั้น ๆ ได้ว่าถูกสังคมรังเกียจในหลากหลายรูปแบบ มีหลายคำถามที่เกิดขึ้น เช่น ภรรยาของเขาคนเดียวที่แต่งงานกันมากว่า 50 ปีกับลูก 5 คนรู้สึกอย่างไร? และที่สำคัญเขากระทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร?

คนไทยมีคำพูดว่า “ผู้ใหญ่หลายคนมักเสียคนเมื่อแก่” ซึ่งจากการสังเกตดูก็พอมีหลักฐานยืนยัน แต่คนที่ “เสียคน” ตั้งแต่หนุ่มจนแก่นั้นน่าแปลกใจ คนเราตอนหนุ่มอาจทำอะไรที่ไม่ดีไปบ้าง หากปรับใจปรับตัวเปลี่ยนชีวิตก็พอรับได้ แต่คนที่ไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองเลยโดยเฉพาะในเรื่องที่เลวทรามนั้นเป็นเรื่องของการกระทำที่คงเส้นคงวาอย่างน่ารังเกียจยิ่ง

“เสียคนเมื่อแก่” ในบางกรณีนั้นความจริงก็คือมัน “เสีย” มานานแล้ว แต่แอบซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ แต่หางเพิ่งมาโผล่ให้คนเห็นตอนแก่ดังเช่นกรณีของ Cosby

คนจำนวนมากในโลกผิดหวัง และเสียใจที่หลงใหลภาพลักษณ์ “คนดี” ของ Bill Cosby มานานนับสิบ ๆ ปี บ้างก็ดีใจที่เห็นตัวจริงของเขาก่อนที่เขาจะตาย บ้างก็อยากฟังคำอธิบายของเขาเพราะเชื่อว่าทุกสิ่งมีคำอธิบาย (“ไม่ได้แก้ตัว แต่มีคำอธิบาย”) และบ้างก็ดีใจที่เรื่องนี้เตือนใจให้ระวังการรับภาพลักษณ์ สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไปหากเป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เราเห็น

สิ่งที่ต้องระวังที่สุดก็คือเรื่องการเห็นของมนุษย์ มนุษย์เชื่อตาตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด แต่ทว่าคนส่วนใหญ่เห็นอย่างที่ตนเองอยากเห็น หรือเห็นอย่างที่ตัวเองเชื่อว่าควรจะเห็นโดยมิได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงนั้นจริง ๆ

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรกคอลัมน์ “อาหารสมอง” นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 28 ก.ค. 2558