ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาล ปค.สูงสุดกลับคำพิพากษาศาล ปค.ชั้นต้น ยกฟ้อง คดี “บ.ไร่ส้ม” เรียกเงิน “อสมท” 253 ล้านบาท ปมโฆษณาเกินเวลา

ศาล ปค.สูงสุดกลับคำพิพากษาศาล ปค.ชั้นต้น ยกฟ้อง คดี “บ.ไร่ส้ม” เรียกเงิน “อสมท” 253 ล้านบาท ปมโฆษณาเกินเวลา

17 กรกฎาคม 2015


นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง และประธานกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่มาภาพประกอบ: http://www.dailynews.co.th/politics/335585
นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง และประธานกรรมการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ที่มาภาพ: http://www.dailynews.co.th/politics/335585

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 องค์คณะศาลปกครองสูงสุด ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.1628/2556 คดีหมายเลขแดงที่ อ.697/2558 กรณีที่บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ซึ่งมีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดังเป็นประธานกรรมการบริษัท (ผู้ฟ้องคดี) ยื่นฟ้อง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ บมจ. อสมท (ผู้ถูกฟ้องคดี)

ขอให้ บมจ. อสมท ชำระเงินจำนวน 253 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 215.1 ล้านบาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แก่บริษัทไร่ส้มฯ

คำฟ้องของบริษัทไร่ส้มฯ ระบุว่า สืบเนื่องจาก บมจ. อสมท ทำสัญญาร่วมผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” กับบริษัทไร่ส้มฯ ออกอากาศทางสถานีโมเดิร์นไนน์ ระหว่างปี 2547-2549 ซึ่งกำหนดให้แต่ละฝ่ายสามารถหาโฆษณาได้ฝ่ายละ 5 นาทีต่อวัน ตามสัญญาแบบ Time Sharing หากฝ่ายใดหาโฆษณาได้เกินส่วนแบ่งเวลาดังกล่าว จะต้องชำระ “ค่าโฆษณาส่วนเกิน” ในอัตรานาทีละ 2.2-2.4 แสนบาท ให้อีกฝ่าย โดยมีสิทธิได้รับส่วนลดทางการค้าในอัตรา 30%

โดยที่มาของเงิน 253 ล้านบาท มาจาก 2 ส่วน คือ

1. ในปี 2549 บริษัทไร่ส้มฯ ได้ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กับ บมจ. อสมท รวมเป็นเงิน 103.9 ล้านบาท แต่ต่อมา บมจ. อสมท ได้แจ้งว่า แท้จริงแล้วบริษัทไร่ส้มฯ มีค่าโฆษณาส่วนเกิน 138.7 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งค่าโฆษณาส่วนเกินที่ตรวจพบภายหลังไม่สามารถหักส่วนลดทางการค้า 30% ได้ บริษัทไร่ส้มฯ จึงชำระค่าโฆษณาเพิ่มเติมอีก โดยมีการแจ้งทางค่าโฆษณาส่วนเกินซึ่งไม่สามารถหักส่วนลดทางการค้า 30% ได้ มาอีกหลายครั้ง ซึ่งบริษัทไร่ส้มฯ ก็ชำระให้ บมจ. อสมท ทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ภายหลังบริษัทไร่ส้มฯ ได้ปรึกษากับบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย พบว่า การที่ บมจ. อสมท ไม่ให้หักส่วนลดทางการค้า 30% เป็นการผิดสัญญาร่วมผลิตรายการ โดยก่อนรายการออกอากาศทุกครั้ง จะมีการส่งใบคิวโฆษณาให้กับทางสถานี เท่ากับว่า บมจ. อสมท ได้รับการแจ้งว่าจะมีโฆษณาส่วนเกินจากบริษัทไร่ส้มฯ แล้ว แต่กลับไม่มีการทักท้วงหรือโต้แย้งมายังบริษัทไร่ส้มฯ จึงเท่ากับเป็นการยอมรับโดยปริยาย บมจ. อสมท จึงต้องชำระส่วนลดทางการค้า 30% จากเงินค่าโฆษณาส่วนเกินของบริษัทไร่ส้มฯ คืนมาให้กับบริษัทไร่ส้มฯ รวมเป็นเงิน 55.5 ล้านบาท

2. ระหว่างร่วมผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” กับบริษัทไร่ส้มฯ บมจ. อสมท ก็ได้ขายโฆษณาเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญา จึงต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกินให้กับบริษัทไร่ส้มฯ รวมเป็นเงิน 197.5 ล้านบาท

คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้น พิพากษาให้ บมจ. อสมท ชำระเงิน 55.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่บริษัทไร่ส้มฯ โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คดีสิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็น “ยกฟ้อง” เพราะเห็นว่า

– การที่บริษัทไร่ส้มฯ ชำระค่าโฆษณาส่วนเกินซึ่งถูกตรวจพบภายหลัง โดยไม่ได้หักส่วนลดทางการค้า 30% ไปเต็มจำนวน โดยไม่ได้โต้แย้งคัดค้าน ย่อมแสดงว่าบริษัทไร่ส้มฯ ไม่ติดใจในส่วนลดทางการค้าดังกล่าว เพราะหากเห็นว่าบริษัทไร่ส้มฯ มีสิทธิตามสัญญาก็ควรจะโต้แย้งไปยัง บมจ. อสมท เพราะเป็นหน้าที่ของบริษัทไร่ส้มฯ ที่จะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญา และ/หรือ ใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาล กรณีนี้จึงไม่ถือว่า บมจ. อสมท ทำผิดสัญญา และไม่มีหน้าที่ต้องคืนส่วนลดทางการค้า รวมเป็นเงิน 55.5 ล้านบาท ให้กับบริษัทไร่ส้มฯ

– ส่วนเงิน 197.5 ล้านบาท พิจารณาจากสัญญาร่วมผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ระหว่าง บมจ. อสมท กับบริษัทไร่ส้มฯ พบว่า ไม่มีสัญญาข้อใดที่ระบุว่า หาก บมจ. อสมท โฆษณาเกินเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาจะต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกินให้บริษัทไร่ส้มฯ เหตุที่กำหนดเช่นนี้ เพราะเป็นที่เข้าใจได้ว่า เมื่อมีการใช้เวลาโฆษณาเกินส่วนแบ่งเวลาที่กำหนดในสัญญาแล้ว ผู้ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ย่อมเป็นฝ่าย บมจ. อสมท ซึ่งเป็นเจ้าของสถานี และเจ้าของเวลาออกอากาศ

กรณีที่บริษัทไร่ส้มฯ ขายโฆษณาเกินเวลาที่ระบุในสัญญา จึงเปรียบเสมือนบริษัทไร่ส้มฯ ซื้อเวลาในการออกอากาศของ บมจ. อสมท เพื่อใช้โฆษณาเพิ่มขึ้นจากที่กำหนดในสัญญา บริษัทไร่ส้มฯ จึงต้องชำระค่าโฆษณาส่วนเกิน แต่หาก บมจ. อสมท ขายโฆษณาเกินเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา ก็เป็นการใช้เวลาออกอากาศของ บมจ. อสมท เอง จึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระค่าซื้อเวลาออกอากาศโฆษณาดังกล่าว

“อุทธรณ์ของบริษัทไร่ส้มฯ จึงฟังไม่ขึ้น ส่วนอุทธรณ์ของ บมจ. อสมท ฟังขึ้นบางส่วน …จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นยกฟ้องของบริษัทไร่ส้มฯ” คำพิพากษาขององค์คณะศาลปกครองสูงสุดระบุ

(อ่าน คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดี บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ยื่นฟ้อง อสมท ฉบับเต็ม)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ เป็นคดีทางปกครอง ที่บริษัทไร่ส้มฯ ยื่นฟ้อง บมจ. อสมท ฐานผิดสัญญาร่วมผลิตรายการ ส่วนคดีอาญา อัยการสูงสุดได้มีความเห็นสั่งฟ้องบริษัทไร่ส้มฯ นายสรยุทธ และเจ้าหน้าที่ของ บมจ. อสมท (นางพิชชาภา เอี่ยมสอาด) ฐานยักยอกเงินโฆษณาจาก บมจ. อสมท กว่า 138.7 ล้านบาท ต่อศาลอาญา ไปเมื่อปลายปี 2557 ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น โดยสามารถติดตามความคืบหน้าคดีอาญาของบริษัทไร่ส้มฯ ได้ในเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา ที่เกาะติดนำเสนอข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง