ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > สำรวจ 9 โรงเรียนกวดวิชายอดนิยม คอร์สเรียนด้วยดีวีดีและคอมฯ มีมากกว่า คอร์สสอนสดกว่า 100 เท่า

สำรวจ 9 โรงเรียนกวดวิชายอดนิยม คอร์สเรียนด้วยดีวีดีและคอมฯ มีมากกว่า คอร์สสอนสดกว่า 100 เท่า

29 พฤษภาคม 2015


จากการสำรวจโรงเรียนกวดวิชาที่มาสาขามากที่สุด 9 แห่งของไทย พบว่า โรงเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่สอนระบบดีวีดีและคอมพิวเตอร์มากกว่าคอร์สสอนสดกว่า 100 เท่าตัว โดย เดอะเบรน เคมีอุ๊มี มีจำนวนคอร์สสอนสดน้อยกว่าคอรส์อื่นๆ กว่า 2000 คอร์ส ในขณะที่เอนคอนเสปต์ก้าวข้ามขีดจำกัดของจำนวนที่นั่งเรียนในสถาบันสู่ผู้นำการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตส่วนตัวของโดยเป็นผู้เรียน

หลังจากที่ไทยพับลิก้าได้นำเสนอข่าวประมาณการรายได้ของโรงเรียนกวดวิชายอดนิยม 9 แห่งของไทยที่มีสาขาจำนวนมากที่สุด ครั้งนี้ไทยพับลิก้าได้สำรวจต่อว่าสัดส่วนของการสอนสด ระบบดีวีดี และคอมพิวเตอร์เป็นเท่าไหร่ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า โรงเรียนกวดวิชาส่วนใหญ่เปิดสอนระบบดีวีดีหรือคอมพิวเตอร์มากกว่าสอนสดกว่า 100 เท่าตัว

จากการสำรวจจำนวนคอร์สกวดวิชาที่ปรากฏในช่วงต้นปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่คือคอร์สเรียนที่จะเปิดสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนและภาคเรียนที่ 1/2558 ของโรงเรียนกวดวิชา 9 แห่งที่มีมากกว่า 20 สาขาทั่วประเทศ คือ เคพีเอ็นสมาร์ท (ชื่อเดิมนวศึกษาหรือ JIA), เอนคอนเสปต์, ดาว้องก์, เดอะเบรน, รัชดาวิทยา (RAC), วรรณสรณ์ (เคมี อ.อุ๊), เดอะติวเตอร์ (พลัส), แอพพลายด์ฟิสิกส์ และครูสมศรี พบว่า มีโรงเรียนกวดวิชาเคพีเอ็นสมาร์ทที่เปิดสอนด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว และ RAC ที่สอนสดเพียงอย่างเดียว ในขณะที่โรงเรียนกวดวิชาอื่นๆ ที่เหลืออีก 7 แห่งมีรูปแบบการเรียนหลากหลาย

สำหรับโรงเรียนกวดวิชาที่มีจำนวนคอร์สสดน้อยกว่าคอร์สดีวีดีและคอมพิวเตอร์ คือโรงเรียนกวดวิชาที่สอนเฉพาะรายวิชา ได้แก่ ดาว้องก์ สมศรี แอพพลายด์ฟิสิกส์ วรรณสรณ์ เดอะเบรน และเอนคอนเสปต์ ส่วนเดอะติวเตอร์ (พลัส) มีคอร์สสดมากกว่าคอร์สรูปแบบอื่นๆ

สัดส่วนการเรียนคอร์สสด-ดีวีดี-เรียนผ่านคอมฯ

โรงเรียนกวดวิชาวรรณสรณ์หรือเคมีอุ๊ เปิดสอนเฉพาะวิชาเคมีในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งจากการสำรวจคอร์สที่เปิดสอนในภาคการเรียนที่ 2/2557 และคอร์สปิดภาคเรียนฤดูร้อน พบว่า คอร์สเรียนส่วนใหญ่คือเรียนแบบดีวีดีซึ่งรวมแล้วมีถึง 1,694 คอร์ส ในขณะที่สอนสดเพียง 7 คอร์ส ส่วนคอร์สเรียนผ่านคอมพิวเตอร์นั้นมีสอนทั้งหมด 25 วิชา จากทั้งหมด 27 สาขา ซึ่งโดยรวมแล้วมีจำนวนคอร์สสอนสดต่อคอร์สดีวีดีต่อคอมพิวเตอร์ เป็น 7:1696:675

ทั้งนี้จำนวนคอร์สเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ คิดจากจำนวนคอร์สเรียนขั้นต่ำในกรณีที่มีผู้เรียน 1 คน ในทุกคอร์สทุกสาขา

ดาว้องก์ ซึ่งเปิดสอนเฉพาะวิชาสังคมศึกษาและภาษาไทย พบว่า เฉพาะคอร์สที่เปิดสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนและภาคการเรียนที่ 1/2558 มีจำนวนคอร์สที่เปิดสอนในรูปแบบสอนสดต่อดีวีดีต่อคอมพิวเตอร์ เป็น 7:269:3

โดยจำนวนวิชาที่เปิดสอนสดในช่วงปิดเทอมมีนาคม 2558 คือ วิชา intensive หรือคอร์สเรียนเนื้อหาภาษาไทยและสังคมอย่างเข้มข้น ซึ่งมีจำนวนคอร์สสดต่อดีวีดี เป็น 2:80 ส่วนคอร์สที่เปิดสอนสดในช่วงเปิดเทอม 1/2558 ได้แก่ วิชาภูมิศาสตร์ ม. 5 ซึ่งมีจำนวนคอร์สสดต่อดีวีดีเป็น 1:47 และวิชา intensive ซึ่งมีจำนวนคอร์สที่เปิดสอนสดต่อสอนดีวีดี เป็น 4:136

ส่วนแอพพลายด์ฟิสิกส์เปิดสอนเฉพาะวิชาฟิสิกส์ในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ซึ่งการจากสำรวจคอร์สเรียนช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน 2557 และภาคการเรียนที่ 1/2558 พบว่า คอร์สเรียนเกือบทั้งหมดคือการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ และจะสอนสดและดีวีดีเฉพาะที่สาขาพญาไทเท่านั้น โดยในช่วงปิดเทอมสอนสดและดีวีดีอย่างละ 3 คอร์ส และช่วงเปิดเทอมสอนสด 1 คอร์ส และดีวีดี 2 คอร์ส โดยสรุปแล้วมีจำนวนคอร์สสดต่อคอร์สดีวีดีต่อคอร์สคอมพิวเตอร์เป็น 4:5:728

ทั้งนี้ ในส่วนของการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์จะแบ่งเป็น 2 ระบบ คือ แบบ iSLS ที่สาขาพญาไท งามวงศ์วานและวงเวียนใหญ่ และแบบ Aurum ในอีก 24 สาขา ซึ่งการเรียนทั้งสองแบบเปิดสอนฟิสิกส์รวม 28 รายวิชา ที่นักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาต่างๆ ในเวลาใดก็ได้ ทำให้รับนักเรียนได้ไม่จำกัด ในขณะที่คอร์สสดและดีวีดีมีจำนวนที่นั่งจำกัดตายตัว

ครูสมศรี สอนเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งจากการสำรวจคอร์สที่เปิดสอนในภาคการเรียนที่ 2/2558 พบว่า ครูสมศรีเปิดสอนทั้งหมด 16 วิชา โดยเปิดสอนสดเพียง 4 คอร์สคือวิชาภาษาอังกฤษ ม.1-ม.2 level 2, ภาษาอังกฤษ ม.3-ม.4 level 2 วิชาพิชิตมหาวิทยาลัย 2 และวิชา Vocab เปิดสอนดีวีดี 236 คอร์ส และเปิดสอนผ่านคอมพิวเตอร์ครบถ้วนทั้ง 16 วิชาในทั้ง 20 สาขา ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นจำนวนคอร์สขั้นต่ำสุดกรณีที่มีผู้เรียน 1 คนในทุกวิชาทุกสาขาแล้วครูสมศรีจะเปิดสอนคอร์สคอมพิวเตอร์รวม 320 คอร์ส

โดยรวมแล้วครูสมศรีมีจำนวนคอร์สสอนสดต่อคอร์สดีวีดีต่อคอร์สคอมพิวเตอร์เป็น 4:236:320 ทั้งนี้หากดูเป็นรายวิชาที่สอนสดพบว่า มีจำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีของวิชาภาษาอังกฤษ ม.1-ม.2 level 2 คือ 1:17 จำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีของภาษาอังกฤษ ม.3-ม.4 level 2 คือ 1:19 จำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีของวิชาพิชิตมหาวิทยาลัย 2 คือ 1:28 และจำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีของวิชา Vocab คือ 1:20

สำหรับจำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีรายวิชานั้น พบว่า ช่วงปิดเทอมวรรณสรณ์เปิดสอนสดทั้งหมด 4 วิชาคือ วิชาเคมี ม.5 เล่ม3, วิชาปรับพื้นฐาน เล่ม 2, วิชาเอนทรานซ์ และวิชาตะลุยโจทย์ ซึ่งแต่ละวิชามีจำนวนคอร์สสอนสดต่อดีวีดีเป็น 1:141, 1:99, 1:129 และ 1:31 ส่วนช่วงเปิดเทอมมีคอร์สสอนสดเพียง 3 วิชา คือ วิชาเคมีโอลิมปิก 1, วิชา ม.4 เล่ม1 และ ม.4 เล่ม1 เพิ่มเติม 2 ซึ่งแต่ละวิชามีจำนวนคอร์สสอนสดต่อคอร์สดีวีดีเป็น 1:30, 1:87 และ 1:2

โรงเรียนกวดวิชาเอนคอนเสปต์นั้นเปิดสอนวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก เรียกได้ว่าทุกวิชาเป็นการเรียนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดแล้ว ซึ่งแตกต่างจาการเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนกวดวิชาอื่นๆ เนื่องจากผู้เรียนสามารถใช้คอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตส่วนตัวเพื่อเรียนได้โดยการใส่รหัสล็อกอินเข้าระบบ ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่ เพิ่มเติมจากการเรียนได้ทุกเวลาอย่างที่สถาบันกวดวิชาอื่นๆ ทำแล้ว อีกทั้งการที่ผู้เรียนไม่ต้องมาเรียนที่คอมพิวเตอร์ของสถาบันยังทำให้เอนคอนเสปต์ไร้ขีดจำกัดเรื่องจำนวนผู้เรียนด้วย

สำหรับคอร์สสอนสดของเอนคอนเสปต์นั้น เรียกว่า X-Class ซึ่งเปิดสอนเฉพาะที่สาขาพญาไทและสาขาสยามโอเอซิส (Siam Oasis) และจากการสำรวจคอร์สที่เปิดสอนในช่วงเปิดเทอมฤดูร้อน 2557 และเทอม 1/2558 พบว่า ช่วงปิดเทอมนั้นเปิดสอนที่พญาไท 7 คอร์ส ที่สยามโอเอซิส 8 คอร์ส ส่วนเทอม 1/2558 เปิดสอนที่พญาไท 8 คอร์ส ที่สยามโอเอซิส 12 คอร์ส รวมแล้วเอนคอนเสปต์มีคอร์สสอนสดทั้งหมด 35 คอร์ส ทั้งนี้ปัจจุบันไม่มีการเปิดสอนผ่านระบบดีวีดีแล้ว

ในขณะที่เดอะติวเตอร์ (สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) และเดอะติวเตอร์พลัส (สาขาต่างจังหวัด) นั้นสอนทุกวิชาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ซึ่งจากการสำรวจคอร์สที่เปิดสอนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน 2557 และเปิดภาคเรียนที่ 1/2558 พบว่า คอร์สเรียนส่วนใหญ่เป็นคอร์สสดซึ่งสอนที่เดอะติวเตอร์เท่านั้น และมีเพียงบางส่วนที่เป็นคอร์สเรียนผ่านคอมพิวเตอร์ ส่วนเดอะติวเตอร์พลัสสอนเฉพาะดีวีดี โดยมีจำนวนคอร์สสดต่อคอร์สดีวีดีต่อคอมพิวเตอร์เป็น 816:155:21

สำหรับเดอะเบรนนั้น สอนเกือบทุกรายวิชาในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งจากการสำรวจคอร์สที่เปิดสอนช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2558 พบว่า เปิดสอนสดที่สาขางามวงศ์วาน 20 วิชา และที่สาขาเชียงใหม่ 2 วิชา รวมเป็น 22 วิชา ในขณะที่สาขาอื่นๆ ที่เหลือรวม 33 สาขานั้นจะเรียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งจากการสำรวจคอร์สที่กำหนดใช้ในช่วง 23 ตุลาคม 2557 – 17 กุมภาพันธ์ 2558 พบว่า เปิดสอนทั้งหมด 156 วิชา ซึ่งคำนวณจำนวนคอร์สขั้นต่ำกรณีมีผู้เรียนคอร์สละ 1 คนในทุกวิชาทุกสาขาจะได้จำนวนคอร์สถึง 5,143 คอร์ส ส่วนคอร์สดีวีดีนั้นไม่มีปรากฏ

ด้านโรงเรียนกวดวิชา RAC จะสอนสดทั้งหมด ซึ่งแต่ละสาขาจะมีผู้สอนแตกต่างกัน ดังนั้นคุณภาพการสอนจึงไม่เท่ากัน ส่วนเคพีเอ็นสมาร์ทนั้นจะสอนผ่านคอมพิวเตอร์เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น

สัดส่วนการสอนในรูปแบบต่างๆ ของโรงเรียนกวดวิชาแต่ละแห่งข้างต้นชี้ให้เห็นว่า ต้นทุนทางความรู้ที่เกิดขึ้นเพียง 1 ครั้ง สามารถฉายซ้ำได้อีกหลาย 100 ครั้ง ซึ่งเป็นที่มาของรายได้มหาศาลของโรงเรียนกวดวิชาชื่อดังและยอดนิยม

ด้านผู้เรียนก็พร้อมที่จะเสียเงินเพื่อได้เรียนกับครูที่ไม่มีชีวิต ซึ่งสะท้อนการศึกษาไทยได้เรื่องหนึ่งว่า ถ้าครูคือผู้ให้ความรู้เพียงอย่างเดียว รัฐไม่จำเป็นต้องลงทุนเพื่อเพิ่มจำนวนครู เพราะสามารถให้ครูที่เก่งที่สุดและสอนให้นักเรียนเข้าใจครูมากที่สุดสอนเพียงครั้งเดียวแล้วบันทึกภาพเพื่อเผยแพร่แก่นักเรียนได้ทั้งประเทศ