ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > สหกรณ์ฯ คลองจั่นขอกรมส่งเสริมสหกรณ์ช่วยแจงศาลล้มละลาย 15 ธ.ค. 57 ดึงออมสิน-ธ.ก.ส. ร่วมปล่อยกู้ 5,000 ล้าน – ใช้เงินงบประมาณจ่ายดอกแทน 3 ปี

สหกรณ์ฯ คลองจั่นขอกรมส่งเสริมสหกรณ์ช่วยแจงศาลล้มละลาย 15 ธ.ค. 57 ดึงออมสิน-ธ.ก.ส. ร่วมปล่อยกู้ 5,000 ล้าน – ใช้เงินงบประมาณจ่ายดอกแทน 3 ปี

6 พฤศจิกายน 2014


จากกรณีวิกฤติปัญหาทางการเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันผู้บริหารชุดใหม่ซึ่งนำโดยนายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 30 ได้เข้ามาฟื้นฟูกิจการและทำความเข้าใจกับบรรดาสมาชิกและเจ้าหนี้ โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2557 น.ส.นวลฉวี เกตุวัฒนเวสน์ สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รวบรวมรายชื่อสมาชิกกว่า 300 ราย ทำหนังสือร้องเรียน 5 หน่วยงาน อาทิ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.อ. ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จากนั้นวันที่ 27 ตุลาคม 2557 กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว ตามคำร้องขอของคณะกรรมาธิการ

พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 เวบา 10.00 น.ณ ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2
พล.อ. ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2

ล่าสุดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ เชิญกรมส่งเสริมสหกรณ์, กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 30 ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น สอบถามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นหลายประเด็น อาทิ ความคืบหน้าในการดำเนินคดีเอาผิดกับอดีตผู้บริหารฐานฉ้อโกงประชาชน, การทำแผนฟื้นฟูกิจการเสนอต่อศาลล้มละลาย และการจัดหาเม็ดเงินใหม่มาใช้ฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

แหล่งข่าวจากคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า จากการรับฟังรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สรุป “แผนการฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น” มีหลายแนวทาง แต่ที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของแผนฯ ประการแรก คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นต้องได้รับการจัดสรรเม็ดเงินใหม่เข้ามาใช้เป็นทุนหมุนเวียน โดยเฉพาะในระยะสั้น ขณะนี้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมีปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จำเป็นที่จะต้องได้รับการสนับสนุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์วงเงิน 200 ล้านบาท แต่ติดปัญหาระเบียบกองทุนฯ กำหนดให้คณะกรรมการดำเนินการฯ ทั้ง 15 คน ต้องร่วมลงนามในสัญญาค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งในทางปฏิบัติไม่มีคณะกรรมการคนใดกล้าลงนาม

แนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ คณะกรรมการดำเนินการฯ เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า จะนำหลักทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมูลค่า 1,500 ล้านบาท มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันแทนบุคคลค้ำประกัน ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ไม่ขัดข้อง และจะยกร่างแก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นระเบียบการกู้เงินดังกล่าวเสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อนุมัติเป็นกรณีพิเศษ

ส่วนแหล่งเงินที่จะนำมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนกิจการในระยะปานกลางและระยะยาววงเงิน 5,000 ล้านบาทนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่าขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับการตอบรับจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะให้การสนับสนุนเงินกู้แก้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จะเสนอรัฐบาลขอตั้งงบประมาณมาชำระค่าดอกเบี้ยแทนสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเป็นระยะเวลา 3 ปี ทางคณะกรรมการดำเนินการฯ จึงขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงต่อศาลล้มละลายในวันที่ 15 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00 น.ด้วย

2. ในส่วนของการดำเนินคดีเอาผิดกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์และพวก คณะกรรมการดำเนินการฯ ได้ให้ทนายความดำเนินคดีฟ้องร้องคดีอาญาและแพ่งในชั้นศาลแล้ว 5 คดี ทั้งนี้เพื่อเร่งรัดติดตามทรัพย์สินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่ถูกยักยอกกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด โดยคณะกรรมการดำเนินการฯ ได้ให้ทนายความดำเนินคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร (อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น) และพวก ฐานยักยอกไป 3 คดี รวมทุนทรัพย์ที่ส่งฟ้อง 16,980 ล้านบาท และส่งฟ้องศาลคดีบริจาคเงินให้วัดธรรมกาย 2 คดี รวมทุนทรัพย์ที่ส่งฟ้อง 937 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวส่วนหนึ่งเข้าบัญชีมูลนิธิวัดธรรมกาย และอีกส่วนหนึ่งเข้าบัญชีส่วนบุคคล (พระ) ซึ่งทางวัดธรรมกายอ้างว่า วัดธรรมกายเปิดรับบริจาคเงินโดยสุจริต ไม่ทราบว่าเงินที่รับบริจาคเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นได้ให้ทนายความต่อสู้คดี โดยเน้นที่มาของเงินบริจาค เป็นเงินที่ไม่ถูกกฎหมาย และควรจะคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ขณะนี้สมาชิกสหกรณ์จำนวนมากเดือดร้อนมาก โดยศาลนัดไกล่เกลี่ยรอบแรกวันที่ 19 มกราคม 2558 แต่ระหว่างนี้ก็มีการเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งคดีมีแนวโน้มว่าสหกรณ์ฯ จะได้รับเงินคืนจากวัดธรรมกายประมาณ 500 ล้านบาท เฉพาะเงินบริจาคที่โอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล

นอกจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบสหกรณ์มีปัญหาขาดสภาพคล่องเกิดขึ้นอีกในอนาคต ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สนช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาด้านสหกรณ์และอื่นๆ ที่มี พล.ร.อ. ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง เป็นประธานฯ ทำการศึกษาข้อเท็จเกี่ยวกับสหกรณ์และสถาบันการเงินอื่นๆ