ThaiPublica > เกาะกระแส > สถาบันวิมุตตยาลัยจัดเสวนา “2012 หากโลกาวินาศไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร”

สถาบันวิมุตตยาลัยจัดเสวนา “2012 หากโลกาวินาศไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร”

22 ธันวาคม 2011


เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 สถาบันวิมุตตยาลัย จัดกิจกรรมเสวนาธรรมเรื่อง “2012 หากโลกาวินาศไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร“ โดยมีวิทยากร ท่านว.วชิรเมธี ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา และโหราจารย์กรหริศ บัวสรวง ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 สถาบันวิมุตตยาลัย จัดกิจกรรมเสวนาธรรมเรื่อง “2012 หากโลกาวินาศไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร“ โดยมีวิทยากร ท่านว.วชิรเมธี ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา(ที่สองจากซ้าย) และโหราจารย์กรหริศ บัวสรวง (คนแรกจากขวา) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2554 สถาบันวิมุตตยาลัย จัดกิจกรรมเสวนาธรรมเรื่อง “2012 หากโลกาวินาศไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร“ โดยมีวิทยากร ท่านว.วชิรเมธี ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา และโหราจารย์กรหริศ บัวสรวง ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ

งานเสวนาครั้งนี้เกิดขึ้นจากกระแสข่าววันสิ้นโลกในปีหน้า ประเด็นหนึ่งมาจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “2012 วันสิ้นโลก” ของฮอลลีวู้ด อีกทั้งกระแสข่าวลือในโลกอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับวันโลกาวินาศ หรือวันโลกแตก ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2012 หรือพ.ศ.2555 ตามคำทำนายของปฏิทินชนเผ่ามายันในสหรัฐอเมริกา ที่ทำปฏิทินหยุดไว้แค่ปี ค.ศ.2012 และการคาดคะเนถึงปรากฏการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆ เช่น มีดาวเคราะห์อีกดวง เดินทางอยู่ในวงโครจรเดียวกันกับโลก มาชนกับโลกในปี ค.ศ.2012 รวมไปถึงอาจจะมีแนวโน้มการที่ขั้วแม่เหล็กของโลกจะเกิดการสลับขั้วกะทันหันซึ่งอาจส่งผลให้น้ำแข็งในขั้วโลกละลายจนท่วมโลกได้อีกด้วย กระแสข่าวเหล่านี้ ก็หวนกลับมาแพร่สะพัดในประเทศไทยอีกครั้งหลังจากประเทศไทยเพิ่งผ่านมหาอุทกภัยร้ายแรงไป

ด้านดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า กล่าวว่า ทางวิทยาศาสตร์ โลกเราไม่ได้ดับกันง่ายๆตามหลักทางวิทยาศาสตร์ตอนนี้โลกเรามีอายุขัยครึ่งหนึ่งแล้ว และจะอยู่ได้อีก 4,500 ล้านปี ถึงจะดับ เนื่องจากดวงอาทิตย์จะขยายตัวใหญ่ขึ้นอีก 60 เท่า และมีความร้อนมากขึ้นเกิดจากปฏิกิริยาระบบไฮโดรเจนรวมตัวกัน กลายเป็นฮีเลี่ยมและฮีเลี่ยมก็สะสมกันมากขึ้น พอรวมตัวกันมากขึ้นก็จะกลายเป็นระเบิดฮีเลี่ยมทำให้โลกร้อนมาก และจะโดนเผาผลาญหมด

“ในอนาคตอันใกล้นี้โลกจะยังไม่ดับสูญ แต่ปัญหาต่างๆของโลกจะเพิ่มขึ้น ตัวผมเองเชื่อในเรื่องของกรรมถ้าผมเอามือไปตีโต๊ะ มือผมก็เจ็บ โต๊ะไม่ได้เจ็บ เราทำอะไรกับคนอื่นไว้ยังไง เราก็ได้รับผลอย่างนั้น ซึ่งอันนี้ก็เป็นหลักของนิวตัน เมื่อเราทำอะไร จะได้รับผลสะท้อนกลับมาแบบนั้น”ดร.อาจอง กล่าว

ดร.อาจองกล่าวว่าในปี 2555 การคำนวณทางวิทยาศาสตร์ พบว่าดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาทำให้มีการระเบิดบนดวงอาทิตย์ และทุกครั้งที่เกิดการระเบิดก็จะทำให้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนโลก เพราะตอนนี้โลกมีการปรับสมดุล เปลือกโลกมีการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้นทำให้เกิดรอยเลื่อน ในแถบภาคเหนือของไทย จนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ประมาณ 5 ริกเตอร์ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุวันเวลาที่เกิดได้

ด้านโหราจารย์กรหริศ บัวสรวง โหรจารย์ชื่อดังของไทย กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่ในปี 2555 โลกจะถึงกาลอวสาน แต่จะเกิดภัยพิบัติมหาโหดแน่นอน คงต้องเตรียมตัวรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดจากน้ำหรือแผ่นดินไหวอีกครั้งในปีหน้า เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค.เป็นต้นไป

จากที่องค์การนาซ่าสำรวจลักษณะภูมิประเทศในประเทศไทยมีสถานที่ปลอดภัยอยู่ 2 ที่คือ จ.ชัยภูมิ และ จ.เพชรบูรณ์ สำหรับเชียงใหม่ ก็ปลอดภัย แต่เป็นเพียงบางอำเภอเท่านั้น ซึ่งจะต้องรับมือไปประมาณ 3-5ปี เมื่อผ่านไปได้ ใน พ.ศ.2560 ศาสนาพุทธจะกลายเป็นศาสนาหลักของโลก ประเทศไทยจะรุ่งเรืองและเป็นมหาอำนาจ

“หลายคนมองว่าเป็นเรื่องของความงมงายแต่จริงๆ แล้วโหราศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นแนวเดียวกัน ถ้าคนนำมาใช้แบบผิดๆก็จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นคนละรูปแบบกัน และการพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ก็ใช้หลักคำนวณจากวิทยาศาสตร์มีการวิเคราะห์ พูดออกมากันตรงๆ ว่าอะไรคืออะไร จะได้ให้ทุกคนเตรียมตัวอย่างมีสติ”โหราจารย์กรหริศ กล่าว

ส่วนเรื่องปฏิทินชนเผ่ามายันตามคำทำนายนั้น ไม่เคยทำนายว่า ปีใดจะเป็นปีที่สิ้นสุด แต่มนุษย์เราตีความเอาเอง มองว่าเรื่องที่เผ่ามายันกล่าวไว้นั้น เราควรฟังเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติในการดำเนินชีวิต แค่ทุกคนปฏิบัติตัวยู่ในศีล5 ก็สามารถใช้ชีวิตให้อยู่รอดตามหลักพุทธศาสนาได้

สำหรับท่านว.วชิรเมธี กล่าวว่า การที่โลกจะร้อนขึ้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เพราะความผันผวน ปรวนแปรของสภาวะอากาศ ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกก็ละลาย

โดยในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ชัดว่าจะมียุคหนึ่งสมัยหนึ่งที่พระอาทิตย์จะเพิ่มขึ้น โดยระหว่างที่ดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นโลกจะลุกไหม้เป็นจุดๆ จนถึงดวงที่ 7 โลกจะถูกไฟเผาไหม้หมดแต่ไม่ได้ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด พุทธศักราชไหน

โดยท่านท่านว.วชิรเมธี ฝากข้อคิดให้กับพุทธศาสนิกชนในการเลือกรับข้อมูลข่าวสารในยุคปัจจุบัน ควรเลือกรับอย่างมีสติอีกทั้งปัญหาของคนไทยสมัยนี้ คือ ขาดการหาความรู้ เลือกรับสารตามความเชื่อ ควรจะศึกษาและหาความรู้ที่ชัดเจนก่อนหาก“ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญา ต้องเรียนรู้” ก่อนที่จะส่งสารนั้นต่อไปเพื่อไม่สร้างความหวาดกลัวให้กับคนหมู่มาก ซึ่งจริงๆแล้วถ้าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆขึ้นกับโลกเราองค์การใหญ่ อย่างนาซ่าที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยคงจะรับรู้ล่วงหน้าและเตรียมการรับมือ ไม่ให้เกิดภัยร้ายอย่างแน่นอน

แม้ในปีหน้า โลกจะยังไม่วินาศแต่บ้านเมืองจะต้องวินาศด้วยเหตุผล 3 อย่าง ถ้าหากประชาชนสามารถแก้ไขได้จะมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานไปพร้อมกับพุทธศาสนาแน่นอน คือ

1.”คอรัปชั่น”หากปล่อยให้การคอรัปชั่นกลายเป็นค่านิยมที่ผิดแบบนี้อยู่

2.ความขัดแย้งทางการเมืองเนื่องจากการเมืองไทยยังไม่มีมาตรฐานที่ดีพอ

3.การแตกความสามัคคีของคนในชาติโดยเครื่องมือที่ทันสมัย ในการปล่อยขยะปฏิกูลข้อมูลข่าวสารทำให้คนในชาติเกลียดชังกันเอง

“ใครก็ตามที่กระตุ้นให้คนไทยเกลียดชังกันเองเพราะการเมืองคนนั้นไม่ใช่สุภาพบุรุษ ตอนนี้สิ่งที่สังคมไทยต้องการที่สุดไม่ใช่งบประมาณมหาศาลแต่สังคมไทยต้องการที่สุด คือคนที่รู้จริง และกล้าพูดความจริง” ท่านว.วชิรเมธี กล่าว