ThaiPublica > Native Ad > Advertorial > EXIM BANK หนุน เอส.เค.เอ็น.เทรดดิ้ง จาก OEM ส่งออกรองเท้าหนัง พร้อมปั้นแบรนด์ตัวเอง “V Forward”

EXIM BANK หนุน เอส.เค.เอ็น.เทรดดิ้ง จาก OEM ส่งออกรองเท้าหนัง พร้อมปั้นแบรนด์ตัวเอง “V Forward”

25 พฤษภาคม 2017


ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) มีบทบาทในการช่วยเหลือผู้ส่งออกทั้งในแง่แหล่งเงินทุน ที่ปรึกษาธุรกิจ จึงมีหลายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว และหลายธุรกิจกำลังเติบโต EXIM BANK เปิดพื้นเพื่อบอกเล่าประสบการณ์กว่าจะมาถึงวันนี้ของแต่ละธุรกิจ โดยเรียบเรียงข้อมูลจากวารสาร EXIM E-NEWS

“พิมพ์พิชา วงศ์จันทร์”(ซ้าย) และ “สังวาลย์ ชัยสงคราม” (ขวา) กรรมการ บริษัท เอส.เค.เอ็น.เทรดดิ้ง จำกัด ที่มาภาพ : EXIM BANK

วารสาร EXIM E-NEWS ฉบับเดือนมีนาคม 2560 ได้เล่าเรื่องราวของ”สังวาลย์ ชัยสงคราม” และ”พิมพ์พิชา วงศ์จันทร์” กรรมการ บริษัท เอส.เค.เอ็น.เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกรองเท้าหนังสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ในฐานะ OEM ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังทั้งในไทยและญี่ปุ่น

จากประสบการณ์ของ”พิมพ์พิชา”ที่เคยทำงานเป็น Supervisor บริษัทรองเท้าอยู่ 8 ปี ดูแลงานด้านการตลาด จึงเห็นช่องทางที่จะออกมาเป็นผู้ประกอบการเองในปี 2544 เธอเล่าว่าในช่วงแรกๆ ธุรกิจรองเท้ายังบูม ผู้ประกอบการในประเทศมีจำนวนไม่มาก คู่แข่งในต่างประเทศ เช่น จีน ก็ยังไม่มี ออร์เดอร์เข้ามามากจนผลิตไม่ทัน จึงเริ่มจ้างคนอื่นผลิตรองเท้าโดยใช้แบรนด์ EKE ของตนเอง เพื่อขายภายในประเทศ โดยส่งขายในห้างสรรพสินค้าเครือเซ็นทรัล โซโก้ อิเซตัน และโตคิว ตอนนั้นยอดขายดีมาก เรามีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งไม่สนใจแบรนด์ แต่ดูราคาเปรียบเทียบคุณภาพ ตอนนั้นเราเปิด 3 สาขา ยอดขายเดือนละกว่าล้านบาท

“ผลจากยอดขายที่ดี โรงงานผลิตรองเท้าให้เราไม่ได้ทันกำหนด สินค้าขาดสต็อก ยอดขายลดลง ห้างก็ต้องการเปลี่ยนเอาแบรนด์อื่นเข้ามาแทนที่ของเรา ขณะที่เราก็ต้องเสียค่ามัดจำให้กับโรงงานผู้ผลิต โดยไม่มั่นใจว่าจะได้รับสินค้าทันกำหนดวางขาย จึงปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี ผลสุดท้ายจึงตัดสินใจผลิตเองโดยเริ่มจากโรงงานเล็กๆ ในห้องแถว ทำให้เราสามารถบริหารจัดการกระบวนการผลิตและจัดจำหน่ายได้เองทั้งหมด”

ในการผลิตสินค้า เราเริ่มต้นจากการดีไซน์แบบแล้วไปนำเสนอแบรนด์รองเท้าต่างๆ โดยพิจารณาจาก Character และกลุ่มลูกค้าของแบรนด์นั้นๆ หรือบางครั้งเรารับแบบจากเจ้าของแบรนด์มาหาวัตถุดิบไปนำเสนอ แบรนด์ที่ไว้วางใจเราในตอนนั้น มี 3 ราย คือ Dapper, Heavy และ Manwood ซึ่งสั่งผลิตสินค้าคราวละจำนวนมาก ทำให้เราต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้หมุนเวียนในการเป็น OEM ผลิตให้รองเท้าแบรนด์ดังและลดการผลิตภายใต้แบรนด์ของตนเองไปก่อน

แต่กว่าเราจะส่งออกได้ ก็กระทั่งปี 2550 ส่งไปตลาดญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก โดยได้ลูกค้าจากการไปออกบูทแสดงสินค้าในต่างประเทศ หลังจากเป็น OEM ให้กับแบรนด์ลูกค้ามานานกว่า 10 ปี เราจึงกลับมาผลิตรองเท้าในแบรนด์ของตัวเองโดยใช้ชื่อ “V Forward” โดยครั้งแรกที่เราเริ่มคือ ดีไซน์รองเท้าทำจากหนังปลานิล เพื่อนำไปจัดแสดงในงานของกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในงานนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ทรงทอดพระเนตรและรับสั่งให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตรองเท้าด้วยหนังปลานิลถือเป็นเกียรติสูงสุด และยังได้รับรางวัลการออกแบบจากงานบางกอกเมืองแฟชั่น

“เราใช้ช่วงเวลาที่ว่างและวัตถุดิบที่เหลือจากการผลิตให้ลูกค้ามาผลิตรองเท้าของแบรนด์ตัวเอง วางขายตามห้างสรรพสินค้า Event หรือหน้าโรงงาน รวมทั้งจำหน่ายทางเว็บไซต์อย่าง Lazada เป็นต้น”

ที่มาภาพ : EXIM BANK

ที่ผ่านมา EXIM BANK ช่วยธุรกิจของเราได้เยอะมาก ทำให้เรามีเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตเพื่อส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกไปขายในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นซึ่งสั่งซื้อรองเท้าจากเราเป็นปริมาณมากในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีบริการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อในต่างประเทศด้วย ทำให้เราส่งออกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ควบคู่กับมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้เธอทั้งสองต้องเรียนรู้และต่อสู้เพื่อก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ เธอเล่าว่าสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมนี้คือการบริหารจัดการแรงงานมีฝีมือ เราต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจพนักงานเพื่อผลิตรองเท้าคุณภาพให้ทันกำหนดส่งมอบสินค้าให้ลูกค้า โดยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อทั้งช่างฝีมือและธุรกิจของเรา

นอกจากนี้การแข่งขันกับคู่ค้าต่างประเทศ เราต้องผลิตสินค้าให้โดนใจลูกค้าที่ต้องการเอกลักษณ์ มีความปราณีต มีความหลากหลายของสีสันและรูปแบบโดยไม่เกี่ยงเรื่องจำนวนผลิต

“เราต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่างจีนที่สามารถผลิตส้นรองเท้าได้หลายแบบหลายสี ทำให้เราต้องนำเข้าชิ้นส่วนวัตถุดิบจากต่างประเทศมาประกอบเป็นส้นรองเท้า เพราะถ้าสั่งผลิตเองในประเทศก็ไม่คุ้ม เนื่องจากปริมาณไม่มากพอ”

ทั้งสองเล่าต่อว่า”เราต้องการสร้างแบรนด์รองเท้าของเราเอง เพื่อจะทำธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เราถือว่าเรายังไม่ประสบความสำเร็จ เรายังต้องเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปัจจุบัน มีคู่แข่งเยอะ การแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งวัตถุดิบ ราคา แรงงาน และอื่นๆ แต่ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ทำให้เรายังยืนอยู่ได้คือ การรักษาคุณภาพของสินค้าที่เราขายให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน เรามีความตั้งใจและซื่อตรง สินค้าตัวอย่างเป็นแบบไหน งานก็เป็นแบบนั้น ไม่มีการสับเปลี่ยนวัตถุดิบ ซื่อสัตย์ จริงใจ และตรงต่อเวลา จุดแข็งอีกประการคือ เราทำได้หลายสไตล์และเน้นงานหนังเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นความถนัดของเรา ช่างของเราเป็นช่างหนังโดยเฉพาะ”

และย้ำว่า”การทำธุรกิจต้องตั้งใจ เรียนรู้ และไม่มีอะไรเกินความสามารถที่เราจะทำและปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ขอเพียงเราใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่างของงาน ตรงเวลา และรักษาคุณภาพ เช่น บริษัทของเราได้ทำงานกับลูกค้าญี่ปุ่น ก็ได้เรียนรู้แบบอย่างที่ดีในการทำงาน ความมีระเบียบวินัย มีระบบในการทำงาน และเอาใจใส่ดูแลหุ้นส่วนทางธุรกิจหรือลูกค้าอย่างดี รวมทั้งให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งเราก็เรียนรู้ไปด้วยกัน ด้วยความตั้งใจที่จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า”