ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > “วิษณุ เครืองาม” ระดมสายตรวจสอบสางปม “จุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี” – สปท. ชงปลดบอร์ด AOT-เลิกสัญญาคิงเพาเวอร์

“วิษณุ เครืองาม” ระดมสายตรวจสอบสางปม “จุดส่งมอบสินค้าดิวตี้ฟรี” – สปท. ชงปลดบอร์ด AOT-เลิกสัญญาคิงเพาเวอร์

7 พฤษภาคม 2017


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย

ต่อกรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีหนังสือด่วนที่สุดถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. แจ้งผลการวินิจฉัยถึงกรณี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. อนุญาตให้ผู้ประกอบการรายเดียว ตั้ง “จุดส่งมอบสินค้า” (Pick-up Counter) ในสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ อาจเข้าข่ายเลือกปฏิบัติหรือ ปิดกั้นเสรีทางการค้า พร้อมกับแนะนำให้ ทอท. จัดหาพื้นที่ตั้ง “จุดส่งมอบสินค้าสาธารณะ” ให้ผู้ประกอบการร้านค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่นใช้เป็นจุดส่งมอบสินค้าภายใน 60 วัน” จากนั้นวันที่ 12 เมษายน 2560 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. โดยขอให้ ทอท. ทำรายงานข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว เพื่อเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ใช้ประกอบการพิจารณา

หลังจากที่ไทยพับลิก้าเสนอข่าวนายสมบัตร เดชาพานิชกุล รองประธานกรรมการ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) และบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ทำหนังสือถึงนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เรียกร้องให้ ทอท. ปฏิบัติตามสัญญาฯ หากเกิดกรณีใดๆ ก็ตามที่ถือเป็นการละเมิดสิทธิโดยมิชอบ หรือเกิดผลกระทบใดๆ อันเป็นเหตุให้กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ ได้รับความเสียหายแล้ว ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการที่จำเป็นและเหมาะสม เพื่อรักษาสิทธิโดยชอบธรรมของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ จนถึงที่สุด

และในระหว่าง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปเยือนประเทศบาห์เรน วันที่ 25 เมษายน 2560 นายวิษณุ เครืองาม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม, กรมศุลกากร, กรมสรรพากร และคณะผู้บริหารของ ทอท. ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอของ สปท. ที่ทำถึงนายกรัฐมนตรีโดยระบุรายละเอียดดังนี้

1. เสนอให้ปลดผู้อำนวยการ ทอท. และคณะกรรมการ ทอท. เพื่อให้ผู้บริหารชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าบริหารงาน

2. เสนอให้ยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ เพราะไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535

3. ควรบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลทั้ง ทอท. กรมศุลกากร และกรมสรรพากร เพื่อให้ ทอท. ได้รับส่วนแบ่งอย่างครบถ้วน

4. ควรพิจารณาศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เช่น พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535, พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ป้องกันการทุจริตและเอื้อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เอกชน รวมทั้งการปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ราชการและรายได้ของรัฐ

5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดเก็บรายได้ให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส เปิดเผย เป็นธรรม ไม่ให้ขัดต่อกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ

จากนั้น ผู้สื่อข่าวไทยพับลิก้าได้สอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงผลการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรสจสอบผลการดำเนินงานของ ทอท. เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 นายวิษณุเปิดเผยว่า “กรณี ทอท. ที่ประชุมไม่อยากให้เป็นข่าว เราตกลงกันแล้วจะไม่พูดเรื่องนี้”

วันที่ 27 เมษายน 2560 นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สปท. ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ขอให้มาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการฯ สปท. ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 เวลา 10.00 น. กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยให้ ทอท. เปิดจุดส่งมอบสินค้าสาธารณะภายใน 60 วัน รวมทั้งขอให้ ทอท. จัดส่งเอกสารประกอบการพิจารณาจำนวน 15 ชุดมาให้คณะกรรมาธิการฯ สปท. ตามที่ สปท. เคยขอไปก่อนหน้านี้

ป้ายคำ :