ThaiPublica > เกาะกระแส > นบข. อุ้มข้าวนาปี 8 ล้านตัน จำนำยุ้งฉางข้าวขาว 7,000 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมฯ 7,800 บาท/ตัน วงเงิน 18,000 ล้าน

นบข. อุ้มข้าวนาปี 8 ล้านตัน จำนำยุ้งฉางข้าวขาว 7,000 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมฯ 7,800 บาท/ตัน วงเงิน 18,000 ล้าน

7 พฤศจิกายน 2016


เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เวลา 9.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) นัดพิเศษ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 เวลา 9.00 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) นัดพิเศษ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล

หลังจากที่เกิดปัญหาข้าวเปลือกเจ้า ข้าวขาว ข้าวหอมปทุมธานี ราคาตกต่ำ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) นัดพิเศษ ร่วมกับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ เพื่อพิจารณามาตรการช่วยเหลือชาวนาที่ปลูกข้าวนาปีในฤดูการผลิตที่ 2559/60 (ข้าวเปลือกเจ้าและข้าวหอมปทุมธานี) เช่นเดียวกับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ภายหลังการประชุม นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีในฤดูกาลผลิต 2559/2560 เช่นเดียวกับมาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าวหอมมะลิ โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อรับจำนำข้าวเปลือกที่ยุ้งฉางดังนี้

สำหรับข้าวหอมปทุมธานี ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อตันละ 7,800 บาท ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000 บาท และค่าฝากข้าวที่ยุ้งฉางอีกตันละ 1,500 บาท รวมชาวนาที่ปลูกข้าวหอมปทุมธานีจะได้รับเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 11,300 บาทต่อตัน

ส่วนชาวนาที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้า หรือ “ข้าวขาว” ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อตันละ 7,000 บาท ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาท และค่าฝากข้าวที่ยุ้งฉางตันละ 1,500 บาท รวมชาวนาที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้าได้รับเงินสนับสนุนตันละ 10,500 บาท สำหรับชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางจะได้รับเงินค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวตันละ 2,000 บาท โดย นบข. จะนำมติดังกล่าวเสนอที่ประชุม ครม. ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559

“มาตรการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีในฤดูการผลิต 2559/2560 กำหนดเป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือชาวนาที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้าไว้ที่ 7 ล้านตัน ส่วนข้าวหอมปทุมธานีตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านตัน รวม 2 มาตรการ คาดว่าจะใช้เงิน 18,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินสนับสนุนหลักจะมาจากการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณ 9,000 ล้านบาท และอีก 9,000 ล้านบาท จากเงินงบประมาณของรัฐบาล” นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย เตรียมแผนการช่วยเหลือเกษตรกรในระยะยาว เช่น มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดพื้นที่ในการเพาะปลูกข้าว หรือ “โซนนิ่ง” และหามาตรการสนับสนุนให้เกษตรกรทำนาแปลงใหญ่ 1 ล้านไร่ โดยให้โรงสีรับซื้อข้าวจากพื้นที่ดังกล่าว มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำแผนลดต้นทุนการผลิตให้เกษตร ส่งเสริมให้ชาวนาเพาะปลูกพืชอื่นเสริม เช่น ถั่วเขียว พืชที่ใช้น้ำน้อย ผักปลอดสารพิษ ส่วนกระทรวงพาณิชย์มอบหมายให้เร่งหาตลาดส่งออกช่วยเหลือเกษตรกร โดยกระทรวงพาณิชย์จะเชิญประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย ผู้ส่งออกและกลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมงาน “ตลาดข้าวไทย” ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ในระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2559