ThaiPublica > เกาะกระแส > ศิษย์วัดธรรมกายเร่งคืนเงินสหกรณ์ฯคลองจั่นอีก 370 ล้านบาท รวม 2 ครั้งกว่า 1 พันล้านบาท ก่อน “พระธัมมชโย” รับทราบข้อกล่าวหารับของโจร 25 เม.ษ.นี้

ศิษย์วัดธรรมกายเร่งคืนเงินสหกรณ์ฯคลองจั่นอีก 370 ล้านบาท รวม 2 ครั้งกว่า 1 พันล้านบาท ก่อน “พระธัมมชโย” รับทราบข้อกล่าวหารับของโจร 25 เม.ษ.นี้

22 เมษายน 2016


รายงานข่าวจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ระบุว่าตามที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัดได้พบเพิ่มเติมว่าในช่วงปี 2552-2553 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้สั่งจ่ายเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด สั่งจ่ายให้กับวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์หรือพระเทพญาณมหามุนี อีกจำนวน 8 ฉบับ เป็นเงินรวม 370,780,000 บาท ทางสหกรณ์ฯจึงได้ดำเนินการทางกฎหมาย ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้มีการคืนเงินดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 ทางกองทุนเฉพาะกิจลูกศิษย์วัดพระธรรมกายจะดำเนินการรวบรวมเงิน 370,780,000 บาท มามอบให้แก่สหกรณ์ฯ เช่นเดียวกับการคืนเงินครั้งแรกเมือเดือนมีนาคม ปี 2558ที่ผ่านมา โดยกำหนดมอบเงินเป็นรายงวด รวม 18 งวด ให้เสร็จสิ้นภายใน 18 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป เมื่อรวมยอดเงินทั้งสิ้นจะเป็นดังนี้

-ยอดครั้งที่ 1 : 684,780,000 บาท (มอบเสร็จสิ้นแล้ว)
-ยอดครั้งที่ 2 : 370,780,000 บาท (เริ่มต้น พ.ค.2559)
-ยอดรวมทั้งสิ้น : 1,055,560,000 บาท

สมาชิกและคณะกรรมการชุดที่ 30 แสดงความยินดีที่ได้เงินคืนจากวัดพระธรรมกาย 684.78 ล้านบาท
สมาชิกและคณะกรรมการชุดที่ 30 แสดงความยินดีที่ได้เงินคืนจากวัดพระธรรมกาย 684.78 ล้านบาท เมื่อเดือนมีนาคม 2558

รายงานข่าวระบุว่าการนำเงินมาคืนของกองทุนเฉพาะกิจศิษย์วัดธรรมกายนี้ เป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องให้สหกรณ์ฯ ทำให้ได้รับเงินเต็มจำนวน ไม่ต้องต่อสู้คดีกันเป็นเวลานาน เงินดังกล่าวทางสหกรณ์ฯจะได้นำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์และบริหารจัดการตามแผนฟื้นฟู เพื่อบรรเทาความเสียหายแก่สมาชิกและเจ้าหนี้ต่อไป

อนึ่งเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ,ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร ในคดีพิเศษที่ 27/2559 กรณีรับเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 8 เมษายน 2559 เวลา 09.00 น. นั้น ต่อมา นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย ได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 5 เมษายน 2559 ว่ารับมอบอำนาจจากพระเทพญาณมหามุนี โดยแจ้งว่าช่วงเดือนเมษายน พระเทพญาณมหามุนี ติดศาสนกิจ และมีพิธีกรรมทางศาสนาอีกหลายประการ อาทิ โครงการบรรพชา สามเณรภาคฤดูร้อน รวมทั้งงานประเพณีสงกรานต์ งานวันคุ้มครองโลก และกิจกรรมตักบาตรทั่วประเทศ จึงขอเลื่อนการไปพบพนักงานสอบสวน เป็นหลังเดือนเมษายน 2559

กรณีดังกล่าว พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมหารือกับ พันตำรวจโทสมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาในรายละเอียด โดยเห็นว่ามีเหตุสมควรให้เลื่อนและให้มารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง ในวันที่ 25 เมษายน 2559 เวลา 09.00 น. ที่สำนักคดีการเงินการธนาคาร และมอบหมายให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปยังพระเทพญาณมหามุนีให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวัน เวลาดังกล่าว ต่อไป