เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม
นายกฯ ยันความไม่สงบใต้ดีขึ้น สั่ง “กลาโหม-กอ.รมน.” แจง
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปก็ดีขึ้น กระทรวงกลาโหมและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะชี้แจงอีกครั้ง แต่การแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่ง่าย ไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะทำเสร็จ เพราะเป็นปัญหาเรื่องความเข้าใจ ทั้งโลกก็เป็นแบบนี้
เมื่อถามว่าจะชี้แจงถึงการแก้ปัญหาต่อเลขาธิการองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation: OIC) ที่จะเดินทางมาประเทศไทยอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็จะชี้แจงความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหา ว่าไม่ได้ใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แต่มีการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ ทั้ง 9 ยุทธศาสตร์ ทั้งการพัฒนา การให้โอกาส ฯลฯ ทั้งนี้ อาจมีการหารือเรื่องปัญหาการอพยพของชาวโรฮิงญาที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาค เพราะประเทศไทยอยู่กลางทาง หากไม่แก้ปัญหาเหล่านี้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางในการอพยพของชาวโรฮิงญา
คงสิทธิบัตรทอง – รอข้อสรุป “ร่วมจ่าย”
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงการปรับปรุงโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ว่า เรื่องบัตรทองที่เคยมีสิทธิอย่างไรก็จะมีสิทธิอย่างนั้น แต่ขณะนี้หากจะทำให้ได้แบบเดิมจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ แล้วจะหาเงินมาจากไหน แล้วเป็นไปได้หรือไม่ว่าที่จะนำงบไปใช้ในการป้องกันแทนการรักษาอย่างเดียว จึงไม่ใช่การลดงบในการรักษา เพียงแต่นำงบไปใช้ในส่วนอื่น ส่วนผู้ใช้บริการบัตรทองจะต้องจ่ายเพิ่มหรือไม่ อยู่ระหว่างที่ผู้เกี่ยวข้องกำลังหาข้อสรุป ซึ่งจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย
เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ราคายางพาราตกต่ำเพราะอะไร รู้หรือยัง เพราะราคาน้ำมันมันตกต่ำอยู่หรือแล้ว แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร จะหาเงินมาอุดหนุนอีกหรือเปล่า หากจะทำแบบนั้นก็ต้องยกเลิกบางโครงการที่ใช้งบอยู่ เช่น บัตรทอง เพราะรัฐบาลมีเงินอยู่แค่นี้
ถามกลับเหมาะสมหรือไม่แจกปฏิทินรูป “ทักษิณ”
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการ จ.ร้อยเอ็ด ไม่ให้แจกปฏิทินรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า แล้วถามว่าสมควรให้แจกหรือไม่ ปฏิทินนี้ทำมาเพื่ออะไร เพราะในปฏิทินก็มีรูปที่ศาลตัดสินว่าทำผิดกฎหมายอยู่ แล้วความถูกต้องมันจะอยู่ตรงไหน เจ้าหน้าที่เขาก็ทำตามหน้าที่เพราะมีการกระทำผิดกฎหมาย ถ้าไม่ได้ผิดจริงก็กลับมา จะทำปฏิทินให้หลายๆ เล่มด้วย
“มีคนผิดกฎหมายไหมในปฏิทิน ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับเขาและพรรคเพื่อไทย ผมก็ทำหน้าที่ของผม แล้วทำไมคุณไม่เอาคนอื่นที่อยู่ในคุกมาใส่ในปฏิทินบ้าง มีอยู่เยอะแยะในคุก” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
สำหรับวาระการประชุม ครม. ที่สำคัญอื่นๆ
นายกฯ สั่ง 4 ภารกิจปี 2559 – สมคิดลุย “ประชารัฐแนวนอน”
พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ นายกฯ ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 โดยสั่งการให้รองนายกฯ และรัฐมนตรี ไปขับเคลื่อนงานต่างๆ โดยยึด 4 ภารกิจหลัก 1. งานตามภารกิจปกติที่แต่ละกระทรวงรับผิดชอบอยู่แล้ว 2. งานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ทั้งที่ทำให้เสร็จภายในปีนี้ และต้องส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไป 3. งานที่ต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น การทำประมงผิดกฎหมาย มาตรฐานการบิน ฯลฯ และ 4. งานขับเคลื่อนกิจกรรมสำคัญ อาทิ cluster บริหารจัดการน้ำ ทวงคืนผืนป่า ฯลฯ โดยจะต้องมีการลงรายละเอียดว่าจะแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างไร ทั้งนี้ จะมีการกำหนดดัชนีชี้วัดผลงานทำงานใน 2 ลักษณะ ทั้งการแก้ไขปัญหาภายในประเทศ และการจัดอันดับขององค์กรระหว่างประเทศ
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2559 จะเน้นแนวคิด “ประชารัฐแนวนอน” เพื่อรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจโลกที่อาจประสบปัญหา โดยจะหันมาสร้างการเติบโตจากภายในแทน โดยจะจัดสรรงบให้สอดคล้องกับการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและพัฒนาท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังพัฒนาให้การท่องเที่ยวต้องสามารถขายสินค้าเกษตรได้ด้วย ขณะที่ พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ กล่าวว่า ในปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย 29.8 ล้านคน และปี 2559 ไม่เพียงรักษาการเจริญเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว ยังจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวมีคุณภาพสูงขึ้น และใช้จ่ายเงินภายในประเทศไทยให้มากขึ้น
“นายกฯ ยังสั่งการให้แต่ละกระทรวงจัดตั้งโฆษกประจำกระทรวงขึ้นมา โดยจะต้องเสนอให้ ครม. รับทราบ เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกในการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลกำลังอะไรอยู่ แทนที่จะไปถามจากนายกฯ รองนายกฯ รัฐมนตรี หรือทีมโฆษกประจำสำนักนายกฯ เพียงอย่างเดียว” พล.ต. สรรเสริญ กล่าว
ใช้ ม.44 แก้ปัญหาอุบัติเหตุต่อ
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่จำนวนผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2559 มีถึง 380 ราย สูงกว่าปี 2558 ที่มีผู้เสียชีวิต 341 ราย ว่า ยืนยันเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปอย่างปลอดภัย ทั้งการออกมาตรการป้องกันอุบัติเหตุ รวมถึงใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 46/2558 แก้ปัญหาการเมาแล้วขับและแข่งรถยนต์บนท้องถนน แต่เหตุที่จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงกว่า ต้องไปดูในรายละเอียด โดยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเมื่อ 10 ปีก่อนอยู่ที่ราว 500-600 คน ลดลงเหลือราว 300 คน ในปัจจุบัน ทั้งที่จำนวนผู้ใช้รถยนต์มากขึ้น นอกจากนี้ในปีล่าสุด สถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการเมาสุรายังลดลงจาก 30% เหลือ 24% และจากการขับรถเร็วจาก 27% เหลือ 17% เท่านั้น
“สำหรับคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 46/2558 ที่ออกมาโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 จะยังใช้ต่อไป แม้พ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว” พล.ต. สรรเสริญ กล่าว
เห็นชอบแก้กฎหมายฟอกเงิน
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .… เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 โดยสาระสำคัญ อาทิ กำหนดหลักเกณฑ์ควบคุมการเข้า-ออกของเงินและตราสาร ทุกสกุลเงิน, ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรมีอำนาจในการตรวจค้น ยึด หรืออายัดทรัพย์สินที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ฯลฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นี้ ก็เนื่องจากประเทศไทยเป็นสมาชิกองค์กรต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก จึงต้องปรับปรุงกฎหมายการฟอกเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force: FATF) ยังกำหนดให้ไทยส่งรายงานความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายการฟอกเงินไปยัง FATF ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 เพื่อเตรียมเข้ารับการประเมินภายในเดือนพฤศจิกายน 2559 ต่อไป
กฎหมายคุม “วิชาชีพกีฬา” รับประชาคมอาเซียน
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพบุคลากรการกีฬา พ.ศ. …. โดยมีสาระสำคัญคือการกำหนดให้มี “สภาวิชาชีพบุคลากรการกีฬา” มีฐานะเป็นนิติบุคคล ขึ้นมากำกับดูแลและพิจารณาออกใบอนุญาตให้แก่บุคลากรการกีฬา อาทิ ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกงาน และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีข้อกำหนดว่าประเทศสมาชิกจะต้องยอมรับร่วมกันในข้อตกลงด้านคุณสมบัติวิชาชีพใน 8 วิชาชีพ และข้อตกลงในการเคลื่อนย้ายแรงงานในจำนวน 25 สาขาอาชีพ ซึ่งรวมถึงอาชีพด้านการกีฬาด้วย อย่างไรก็ตาม มีการท้วงติงเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยเฉพาะการกำหนดให้อายุขั้นต่ำของสมาชิกสภาวิชาชีพบุคลากรด้านกีฬาไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป ว่ากำหนดอายุขั้นต่ำน้อยเกินไป จึงมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาอีกครั้ง
ยืดโครงการช่วยจัดหาเครื่องจักรให้เกษตรกรถึง มี.ค. 59
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจนในการสนับสนุนการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรให้แก่กลุ่มสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร วงเงิน 6,541 ล้านบาท จากเดิมกำหนดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ออกไปอีก 3 เดือน เป็นภายในวันที่ 31 มีนาคม 2558 เนื่องจากการดำเนินการเดิมมีอุปสรรคในการเบิกจ่ายงบประมาณที่ไม่มีระเบียบรองรับชัดเจน และกรมบัญชีกลางเพิ่งโอนงบประมาณให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา เหลือเวลาดำเนินการเพียง 20 วัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ จึงต้องขยายระยะเวลาออกไปอีก 3 เดือน
ลด “ภาษี-ค่าธรรมเนียม” ให้ บสท.ประหยัด 500 ล้าน
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ร่าง พ.ร.ฎ. 1 ฉบับ และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย อีก 2 ฉบับ เพื่อลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ได้รับโอนจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เหตุที่ต้องมีการพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ เนื่องจาก บสท. ได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี 2544 โดยการออก พ.ร.ก. เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ มีระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี หรือจนถึงปี 2554 และให้ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 12 วัน หรือจนถึงปี 2556 แต่ถึงปัจจุบันยังมีทรัพย์สินคงค้างอยู่ใน บสท. ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งหากดำเนินการต่อจะเสียค่าใช้จ่ายราว 500 ล้านบาท อาทิ ภาษีการโอน ค่าธรรมเนียม ฯลฯ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้รับภาระ จึงต้องมีการพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ เพื่อให้ บสท. สามารถดำเนินการต่อไป โดยกระทรวงการคลังไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าว
ลดระเบียบขอใช้งบกลาง
พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายงบกลางล่าช้า ด้วยการลดขั้นตอนการพิจารณาคำขอ จากเดิมที่ต้องเสนอผ่าน 2 หน่วยงาน คือ สำนักงบประมาณ (สงป.) และกรมบัญชีกลาง แต่ของใหม่ให้เสนอผ่านหน่วยงานเดียว คือ กรมบัญชีกลาง โดยมีการอนุมัติอัตรากำลังให้กรมบัญชีกลางเพิ่มเติม 12 อัตรา พร้อมกับงบประมาณในการจัดเตรียมสำหรับดำเนินการ 5.2 ล้านบาท
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
