ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสเศรษฐกิจ > รัฐบาลสั่งธ.ก.ส.จัด 2.6 หมื่นล้าน ให้สินเชื่อชะลอการขายข้าว ชาวนาเหนือ – อิสาน หอมมะลิตันละ 12,900-13,500 บาท ปล่อยกู้สูงสุด 3 แสนบาท/ราย

รัฐบาลสั่งธ.ก.ส.จัด 2.6 หมื่นล้าน ให้สินเชื่อชะลอการขายข้าว ชาวนาเหนือ – อิสาน หอมมะลิตันละ 12,900-13,500 บาท ปล่อยกู้สูงสุด 3 แสนบาท/ราย

23 พฤศจิกายน 2015


วันที่ 23 พฤศจิกายน 2558 นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2558/59 ที่ได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำ จึงให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2558/59 สำหรับลูกค้าเกษตรกรที่มีหนี้เงินกู้เพื่อการผลิตข้าวปีการผลิต 2558/59 รายละไม่เกิน 80,000 บาท จะได้รับการลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาการลดดอกเบี้ยไม่เกิน 6 เดือน โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ ธ.ก.ส.แทนเกษตรกร

2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2558/59 โดยให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร ได้แก่ สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อการจำหน่าย และเพื่อการแปรรูป วงเงิน 12,500 ล้านบาท กำหนดวงเงินกู้กับสถาบันเกษตรกรตามศักยภาพคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรที่เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าวในปีการผลิต 2557/58 จำนวน 316 แห่ง วงเงิน 10,800 ล้านบาท และจ่ายเงินกู้แล้ว 140 ล้านบาท

3.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/59 เป็นสินเชื่อชะลอการขายผลผลิตให้แก่เกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร โดยใช้ข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวเป็นหลักประกัน ในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือวงเงิน 26,740 ล้านบาท รายละไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งวงเงินสินเชื่อที่เกษตรกรจะได้รับเป็นไปตามคุณภาพข้าว

จัดสินเชื่อชะลอการขายข้าว

โดยมีเป้าหมายชะลอการขายข้าวเปลือก 2 ล้านตันข้าวเปลือก แบ่งเป็นเกษตรกรรายคน 1.5 ล้านตันข้าวเปลือก และสหกรณ์การเกษตร 5 แสนตันข้าวเปลือก เริ่มโครงการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2558/59 มียุ้งฉางที่แข็งแรงเป็นของตนเองและสามารถเก็บข้าวเปลือกได้ตลอดระยะเวลาของโครงการ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการเก็บรักษาข้าวเปลือกไว้นานกว่า 30 วัน จะได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวอีกตันละ 1,000 บาท

สำหรับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นสหกรณ์ที่รวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/59 จากสมาชิกรายละไม่เกิน 300,000 บาท และไม่ซ้ำซ้อนกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้ รวมทั้งเป็นสหกรณ์ที่มีโกดังยุ้งฉางที่มั่นคงแข็งแรงสามารถเก็บรักษาข้าวเปลือกได้ตลอดระยะเวลาของโครงการ ซึ่งธ.ก.ส.ได้กำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ให้เสร็จภายใน 4 เดือน นับจากวันรับเงินกู้และต้องไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2559