ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาลฎีกายกฟ้อง คดี “จักรทิพย์ ชัยจินดา” เป็นโจทก์ฟ้องนายซูดีรือมัน ฐานแจ้งความเท็จ กรณี ดีเอสไอ และ ป.ป.ช. สอบสวนคดีที่ตำรวจซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดีปล้นปืนค่ายปิเหล็ง

ศาลฎีกายกฟ้อง คดี “จักรทิพย์ ชัยจินดา” เป็นโจทก์ฟ้องนายซูดีรือมัน ฐานแจ้งความเท็จ กรณี ดีเอสไอ และ ป.ป.ช. สอบสวนคดีที่ตำรวจซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดีปล้นปืนค่ายปิเหล็ง

13 ตุลาคม 2015


พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา
พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รายงานว่า ศาลฎีกายกฟ้องคดี พล.ต.ต. จักรทิพย์ เป็นโจทก์ฟ้องนายซูดีรือมัน ฐานแจ้งความเท็จจากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนคดีที่ตำรวจซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดีปล้นปืนค่ายปิเหล็ง

ศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้อง กรณี พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือมัน มาเละ จำเลย ต่อศาลอาญาเมื่อปี พ.ศ. 2552 ข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เพื่อจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษอาญา จากการที่จำเลยได้ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนของดีเอสไอและ ป.ป.ช. คดีนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11720/2557 ซึ่งศาลอาญาได้อ่านเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 โดยศาลฎีกายกฟ้อง คดี พล.ต.ต. จักรทิพย์ เป็นโจทก์ฟ้องนายซูดีรือมัน ฐานแจ้งความเท็จ

สืบเนื่องจากกรณีปล้นอาวุธปืนกองพันทหารพัฒนาที่ 4 กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. 2547 ต่อมาผู้ต้องหาคดีปล้นอาวุธปืนดังกล่าวกว่า 10 คน กล่าวหาว่าตำรวจชุดสอบสวนทำร้ายร่างกายด้วยการกระทำทรมานให้รับสารภาพ ทางดีเอสไอทำการสอบสวนและสรุปสำนวนคดีว่ามีมูล แล้วส่งให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีต่อไป

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2552 ระหว่าง ป.ป.ช. ดำเนินกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงอยู่นั้น พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา หนึ่งในจำนวนตำรวจชุดสอบสวนผู้ต้องหา ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือมัน มาเละ ผู้ต้องหาคนหนึ่งซึ่งได้เป็นพยานให้การต่อดีเอสไอ และ ป.ป.ช. กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจชุดสอบสวนทรมานขณะสอบสวนอยู่ที่ สภ.ตันหยง โดยโจทก์ยื่นฟ้องนายซูดีรือมันต่อศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.2161/2552 ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม เพื่อจะแกล้งให้โจทก์ต้องรับโทษอาญา ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ อ.3140/2554 ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173 ประกอบ 174 วรรคสอง และ 181 (2) ลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น คือยกฟ้อง จำเลยไม่มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง โดยศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2556 โจทก์ฎีกา เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2558 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กล่าวคือ ยกฟ้องโจทก์ จำเลยไม่มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง

สำหรับ พล.ต.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา โจทก์ในคดีนี้ ขณะร่วมสอบสวนผู้ต้องหาเมื่อปี พ.ศ. 2547 มียศเป็นพันตำรวจเอก ต่อมาแม้จะถูกดีเอสไอและ ป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาและสอบสวนในคดีเจ้าพนักงานตำรวจชุดสอบสวนซ้อมทรมานผู้ต้องหา ปัจจุบันเป็นพลตำรวจเอก ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

อ่านรายงานเพิ่มเติม สรุปคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11720/2557