ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. ตั้งอนุไต่สวนเหมืองทอง “พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์” ปมให้สัมปทานมิชอบ พ่วงจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

ป.ป.ช. ตั้งอนุไต่สวนเหมืองทอง “พิจิตร-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์” ปมให้สัมปทานมิชอบ พ่วงจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ

1 ตุลาคม 2015


นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 เวลา 13.00 น. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ อ้างคำพูดของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ระบุว่า ตามที่ตัวแทนของประชาชนผู้ร้องเรียนและผู้ได้รับความเดือดร้อน อันเนื่องจากการทำเหมืองแร่ทองคำในบริเวณพื้นที่ จ.พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณเหมืองแร่ทองคำ เนื่องจากการปนเปื้อนของสารพิษในแหล่งน้ำ และในนาข้าว มาตั้งแต่ปี 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก จึงได้เดินทางมาทวงถามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวที่เกี่ยวพันกับการทุจริตในการอนุมัติสัมปทานให้ขุดเหมืองแร่ทองคำโดยมิชอบนั้น

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคดีดังกล่าวที่กระทบถึงชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ประกอบกับได้มีพยานหลักฐานเบื้องต้นจากคณะกรรมการหลักทรัพย์และการลงทุนของประเทศออสเตรเลีย (ASIC) ที่ส่งมาให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย ระบุว่า ได้พบบริษัทซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย และถูกร้องเรียนว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำการทุจริตในการขุดเหมืองแร่ทองคำ ในประเทศไทย โดยมีการโอนเงินจากประเทศออสเตรเลียมายังประเทศไทย ที่อาจเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการขอใบอนุญาตขุดเหมืองแร่ทองคำ หรือเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจเหมืองแร่ทองคำ และให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในประเทศไทย ทางสำนักงาน ก.ล.ต. จึงส่งข้อมูลดังกล่าวมายังสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ป.ป.ช. ต่อไป

“เหตุนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตในการทำเหมืองแร่ทองคำบริเวณพื้นที่จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ประกอบด้วยนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานฯ และมีอนุกรรมการ ได้แก่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. และผู้ทรงคุณวุฒิทั้งด้านกฎหมายและการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการไต่สวนโดยเร่งด่วนต่อไป” เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ดังกล่าวระบุ