ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช. ชี้มูล “สามารถ ใจสมุทร” ร่ำรวยผิดปกติ 113 ล้านบาท ส่งฟ้องศาล จ.สงขลา – ฟันทหารร่วมซ้อมทรมาน “อิหม่ามยะผา กาเซ็ง” จนเสียชีวิต

ป.ป.ช. ชี้มูล “สามารถ ใจสมุทร” ร่ำรวยผิดปกติ 113 ล้านบาท ส่งฟ้องศาล จ.สงขลา – ฟันทหารร่วมซ้อมทรมาน “อิหม่ามยะผา กาเซ็ง” จนเสียชีวิต

21 กันยายน 2015


580821ปปช

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2558 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่องความคืบหน้ากรณีตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายสามารถ ใจสมุทร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 8 มีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 และมีคำสั่งให้นายสามารถแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมทั้งให้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติไว้เป็นการชั่วคราว

คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน รับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า นายสามารถมีทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 4 รายการ รวมมูลค่า 113.31 ล้านบาท ประกอบด้วย

  1. หุ้นกู้ด้อยสิทธิธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน 7 แสนบาท
  2. สลากออมสินพิเศษ ธนาคารออมสิน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 107.77 ล้านบาท
  3. ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างอื่น รวมมูลค่า 3.54 ล้านบาท
  4. ยานพาหนะ จำนวน 1 คัน มูลค่า 1.29 ล้านบาท

โดยการประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2558 มีมติเป็นเอกฉันท์ 9:0 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการไต่สวน ว่านายสามารถร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิเดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 113.31 ล้านบาท สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ซึ่งปัจจุบัน อสส. ได้มีคำสั่งให้ยื่นฟ้องต่อศาล จ.สงขลา และสำนักงานอัยการ จ.สงขลา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลดังกล่าวแล้ว

วันเดียวกัน สำนักงาน ป.ป.ช. ยังเผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ ผลการชี้มูลคดีทุจริตอีก 5 คดี มีรายละเอียดโดยสรุป ดังนี้

– ชี้มูล พ.ต.ท. เสน่ห์ เสถียรพงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสารวัตรจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ กรณีลงโทษกักขังผู้ใต้บังคับบัญชาที่กระทำผิดทางวินัยโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง

– ชี้มูล นายเตชชยันตี มีเพชรอัฐมงคล หรือนายโชติกะ เพชรเลื่อน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาล จ.ชลบุรี กรณีนำคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ไม่ได้รับอนุญาตแล้วมาพิจารณาใหม่ แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ต้องหา  แต่เนื่องจากนายเตชชยันตีได้ถูกสำนักงานศาลยุติธรรมไล่ออกเมื่อปี 2555 จากการกระทำความผิดนี้แล้ว จึงไม่มีเหตุที่ต้องส่งเรื่องให้ลงโทษซ้ำอีก

– ชี้มูล นางศมานันท์ เหล่าวณิชวิศิษฎ นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ มีมูลความผิดทางอาญา

– ชี้มูล นางนวลจันทร์  วิไลแก้ว หรือวงษาสืบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานการเงิน 7 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขากุดรัง จ.มหาสารคาม กรณีอาศัยโอกาสที่ปฏิบัติหน้าที่กรรมการตรวจนับเงินเบียดบังเงินของธนาคารไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว มีมูลความผิดทางวินัยร้ายและ และมีมูลความผิดทางอาญา

– ชี้มูล ร.ต. สิริเขตต์ วาณิชบำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยนายทหารกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 39 กรณีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อความไม่สงบ (กรณีอิหม่ายะผา กาเซ็ง) ที่อยู่ในความควบคุมจนเสียชีวิต มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา