ThaiPublica > เกาะกระแส > DSI แจ้งเพิ่ม “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” 2 ข้อหา รับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชิญ “ธัมมชโย” ให้ปากคำปมรับเช็ค 878 ฉบับ

DSI แจ้งเพิ่ม “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” 2 ข้อหา รับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชิญ “ธัมมชโย” ให้ปากคำปมรับเช็ค 878 ฉบับ

25 เมษายน 2015


นายศุภชัย ศรีศุภอักษร (ขวาสุด)ที่มาภาพ : http://www.thairath.co.th/content/485417
นายศุภชัย ศรีศุภอักษร (ขวาสุด)ที่มาภาพ : http://www.thairath.co.th/content/485417

ทีมสอบสวน DSI มีมติ แจ้งเพิ่ม 2 ข้อหา “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” อดีต ปธ.สหกรณ์คลองจั่น เตรียมส่งฟ้องต้นเดือน พ.ค. นี้ รับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ เชิญ “พระธัมมชโย” เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ปากคำกรณีรับเช็ค 878 ฉบับ อีกรอบ

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีการประชุมเพื่อติดตามผลคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นประธาน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้น พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 พร้อมด้วย พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าชุดติดตามร่องรอยการเงินวัดพระธรรมกาย และ พ.ต.ท. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ ร่วมกันแถลงผลการประชุม

พ.ต.ท. สมบูรณ์ กล่าวว่า ดีเอสไอเตรียมจะสรุปสำนวนส่งฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น ในอีก 2 ข้อหา ได้แก่ ยักยอกทรัพย์และลักทรัพย์ รวม 8 กรรม คาดว่าจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องได้ต้นเดือนพฤษภาคม 2558

ทั้งนี้ นายศุภชัยได้ส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ในคดียักยอกเงิน 27 ล้านบาท (คดีพิเศษ เลขที่ 64/2557) มายังดีเอสไอ โดยอ้างว่าคืนเงินทั้งหมดไปแล้ว จึงจะนำเอกสารดังกล่าวประกอบไปในสำนวนของทางอัยการด้วย

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบสัญญาเงินกู้กว่า 13,000 ล้านบาท ที่ปล่อยกู้ให้กับนิติบุคคล จำนวน 27 แห่ง รวมทั้งสิ้น 33 สัญญา ในคดีฟอกเงิน ที่มีการกล่าวหานายศุภชัย และนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล อดีตพระวัดพระธรรมกาย พบว่าสามารถแบ่งสัญญาเงินกู้ได้เป็น 4 ประเภท คือ สัญญาเงินกู้ปลอม แต่เบิกเงินจริง, สัญญาเงินกู้ปลอม ที่ไม่มีการเบิกเงิน, สัญญาเงินกู้ปลอม ที่ทำขึ้นเพื่อกลบหนี้ทางบัญชี และสัญญาเงินกู้จริง และมีการเบิกเงินจริง

ขณะเดียวกัน นายสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ ได้มีคำสั่งรับคดีฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ และจะเริ่มเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำในต้นเดือนพฤษภาคม 2558

พ.ต.ท. ปกรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของวัดพระธรรมกาย ในการออกหมายเรียกพระเทพญานมุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของดีเอสไอในฐานะพยานในคดีฟอกเงิน กรณีที่รับเช็คจากนายศุภชัยและสหกรณ์ฯ คลองจั่น รวม 878 ฉบับ โดยนายสัมพันธ์ระบุว่า ในวันที่ 25 เมษายน 2558 จะมีการประชุมวัดพระธรรมกาย ซึ่งจะมีความชัดเจนว่าพระธัมมชโยจะมาให้ปากคำหรือไม่ แต่ตนแนะนำว่าควรจะมาให้ปากคำเพราะจะเป็นประโยชน์กับตัวพระธัมมชโยเอง

ขณะที่คดีฟอกเงิน 12,000 ล้านบาท (คดีพิเศษ เลขที่ 146/2556) ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วยนายศุภชัย, น.ส.ศรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการฝ่ายการเงิน สหกรณ์ฯ คลองจั่น, นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ คลองจั่น และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อของสหกรณ์ฯ คลองจั่นไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ แต่จากการสอบสวนพบว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่ครบ และสั่งฟ้องผู้ต้องหาขาดไป 2 ราย คือ นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ และนายจิรเดช วรเพียรกุล ที่มีชื่อเป็นผู้ได้รับเช็คจากสหกรณ์

“ดังนั้น ดีเอสไอจะเรียกผู้ต้องหาทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมสั่งฟ้องแบบเรียงกระทงตามจำนวนเช็คที่ผู้ต้องหาแต่ละคนได้รับ คาดว่าจะสรุปสำนวนสั่งฟ้องเพิ่มเติมได้ประมาณต้นเดือนพฤษภาคม 2558 นี้  เช่นกัน” พ.ต.ท. ปกรณ์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท. วรณัน กล่าวถึงกรณีที่ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย ยื่นหนังสือขอเข้าโครงการคุ้มครองพยาน จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการคุ้มครองพยานได้พิจารณาในเร็วๆ นี้.