ThaiPublica > ประเด็นสืบสวน > เปิดธุรกรรม “ธรรมกายคอนเนกชัน” ศุภชัย ศรีศุภอักษร ใช้เงินสหกรณ์ฯ คลองจั่น 1,000 ล้าน ซื้อที่ดินใกล้วัดพระธรรมกาย พบ “อัศวโภคิน” รับซื้อต่อเกือบ 100 ไร่

เปิดธุรกรรม “ธรรมกายคอนเนกชัน” ศุภชัย ศรีศุภอักษร ใช้เงินสหกรณ์ฯ คลองจั่น 1,000 ล้าน ซื้อที่ดินใกล้วัดพระธรรมกาย พบ “อัศวโภคิน” รับซื้อต่อเกือบ 100 ไร่

23 มีนาคม 2015


ตลอดเดือนที่ผ่านมา สังคมพุ่งเป้าความสนใจไปที่เงินบริจาคกว่า 900 ล้านบาท จากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นสู่เครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย และเมื่อวันที่ 16 มีนาคม การเจรจาไกล่เกลี่ยคดีฟ้องร้องระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นกับวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย วงเงิน 814 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยเป็น 818 ล้านบาท ก็ประสบความสำเร็จ โดยลูกศิษย์วัดตั้งกองทุนจ่ายคืนสหกรณ์ฯ คลองจั่นทั้งสิ้น 684 ล้านบาท โดยสหกรณ์ฯ คลองจั่นถอนฟ้องวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโยออกจากรายชื่อจำเลย แต่ยังคงรายชื่อนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เพื่อดำเนินคดีต่อไป ทว่า เงินบริจาคก้อนใหญ่อันอื้อฉาวนี้ไม่ใช่ทรัพย์ก้อนเดียวที่เชื่อมโยงสหกรณ์ฯ คลองจั่นกับวัดพระธรรมกาย ทั้ง 2 แห่งยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน เพราะอีกมิติหนึ่งของวัดพระธรรมกายเป็นจุดเชื่อมประสานสายสัมพันธ์ระหว่างลูกศิษย์ของวัด โดยหนึ่งในนั้นคือตระกูลนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่โด่งดัง ตระกูล “อัศวโภคิน”

โดยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2557 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มีคำสั่งที่ 6/2557 ให้ยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเครือข่ายนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กรณีการยักยอกทรัพย์ โดยยึด 2 รายการ ได้แก่ หุ้นในบริษัท เอ็ม- โฮม เอสพีวี 2 ที่ถือโดย นายแพทย์บรรลือ กองไชย จำนวน 5 ล้านหุ้น และ ตั๋วแลกเงินของ ธนาคารทิสโก เลขที่บัญชี 573167 มียอดเงินคงเหลือ 36.1 ล้านบาท

แม้ว่าชื่อของบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 ไม่ได้รับความสนใจจากสังคมมากนัก เพราะไม่ได้อยู่ในรายชื่อนิติบุคคลสมาชิกสมทบ 27 ราย ซึ่งกู้เงินจากสหกรณ์ฯ คลองจั่นกว่า 12,000 ล้านบาท แต่เมื่อได้ค้นหาข้อเท็จจริงลึกลงไป บริษัทเอ็ม–โฮมก็มีความน่าสนใจไม่แพ้การยักยอกทรัพย์ในคดีหลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2552 มีคำพิพากษาของศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่คดีดำ ส.447/2551 ที่มีโจทก์ 3 ราย ได้แก่ ธนาคารทิสโก้, บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ซึ่งศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมให้บริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ในฐานะจำเลย ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่ค้างชำระต่อโจทก์ทั้ง 3 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ทั้งสิ้น 747 ล้านบาท รวมทั้งสั่งให้บริษัทนำหุ้นออกจำนำไม่ตํ่ากว่า 75% เพื่อชำระหนี้(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

Print

ความเชื่อมโยงของบริษัทนี้กับสหกรณ์ฯ คลองจั่น เริ่มขึ้นด้วย วันที่ 16 กันยายน 2552 สหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้รับหนังสือเสนอขายหุ้นและที่ดิน (ติดจำนอง) ในกรรมสิทธิ์ของบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 จากผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว 3 ราย ได้แก่ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย (ได้รับมอบอำนาจแทนพระธัมมชโย ในคดีรับเช็คสหกรณ์ฯ คลองจั่น) นายจำลอง ทับสุวรรณ และนายแพทย์บรรลือ กองไชย (ภายหลังทั้ง 3 คนเป็นกรรมการบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2) โดยหนังสือดังกล่าวเสนอขายแก่ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น (ขณะนั้นคือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร) ในราคาทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท

สำหรับที่ดิน (ติดจำนอง) ในกรรมสิทธิ์ของบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 มีอยู่ 3 แปลงได้แก่ โฉนดเลขที่ 31343, 31344 และ 31345 ตำบลคลองสอง (คลองสองตก) อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี (ธัญบุรี) เนื้อที่รวม 312 ไร่ 1 งาน โดยที่ดินทั้งหมดตั้งอยู่บริเวณใกล้วัดพระธรรมกาย และหุ้นบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 มีทั้งสิ้น 25,471,989 หุ้น

หลังจากนั้น วันที่ 25 กันยายน 2552 และวันที่ 30 กันยายน 2552 สหกรณ์ฯ คลองจั่นตอบหนังสือกลับ เรื่องตกลงซื้อขายที่ดินพร้อมหุ้นตามข้อเสนอและหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินตามลำดับ ซึ่งทั้งสองฉบับลงนามโดยนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในฐานะประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น โดยในหนังสือนอกจากสหกรณ์ฯ จะตกลงซื้อที่ดินและหุ้นในราคา 1,000 ล้านบาท ตามที่เสนอแล้ว ยังมอบหมายให้ นายสัมพันธ์ นายจำลอง และนายบรรลือ ผู้เสนอขาย ทำหน้าที่เข้าถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 แทนสหกรณ์ฯ คลองจั่น แต่ให้รับนโยบายจากสหกรณ์ฯ โดยมีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นตัวแทนของสหกรณ์ฯ ทั้งนี้ วันที่ 5 ตุลาคม 2552 สหกรณ์ฯ คลองจั่น ได้ออกหนังสือมอบอำนาจอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินยังระบุอีกว่า ราคาค่าที่ดินทั้ง 3 แปลง มูลค่า 1,000 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. ค่าหุ้นของบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 เป็นเงิน 45.7 ล้านบาท จ่ายให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 3 ในฐานะเจ้าของหุ้น 2. ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค และประนีประนอมกับเจ้าหนี้จำนอง เป็นเงิน 60 ล้านบาท 3. ชำระเงินค่าที่ดิน 884.3 ล้านบาท 4. ค่าจัดการบุคคลภายนอกที่บุกรุก เป็นเงิน 10 ล้านบาท

เมื่อตรวจสอบตามเอกสาร และเช็คหลายฉบับ ที่ปรากฏลายเซ็นของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร พบว่าได้สั่งจ่ายให้บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 3 ธนาคาร ทิสโก้ บริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย รวมถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ รวมถึงบริษัทอื่นๆ ในช่วงปี 2552-2553 ด้วยหลักฐานที่ปรากฏข้างต้นทั้งหมด จึงน่าเชื่อได้ว่ามีการเจรจาซื้อขายหุ้นและที่ดินดังกล่าวจริง

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ตั้งแต่ ปี 2551-2556 พบว่า บริษัทมีทุนจดทะเบียน 254 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 25.4 ล้านหุ้น โดยบัญชีรายชื่อปี 2551 (วันที่ 29 เมษายน 2551) ระบุว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่คือ บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 3 ทั้งสิ้น 25.4 ล้านหุ้น และต่อมา บัญชีรายชื่อปี 2552 (วันที่ 20 พฤศจิกายน 2552) ระบุว่า หุ้นในส่วนของบริษัท เอสพีวี 3 ถูกโอนมาให้กับ 3 บุคคล ได้แก่ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ 15.4 ล้านหุ้น นายบรรลือ กองไชย 5 ล้านหุ้น และนายจำลอง ทับสุวรรณ 5 ล้านหุ้น ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับรายละเอียดในหนังสือซื้อขายที่ดินของสหกรณ์ แต่เมื่อตรวจสอบ บัญชีรายชื่อปี 2554 (22 เมษายน 2554) พบว่าหุ้นที่นายสัมพันธ์และนายจำลองถือครองอยู่นั้น ถูกโอนให้กับนายบรรลือทั้งหมด ต่อมาในบัญชีรายชื่อปี 2555 (22 กันยายน 2555) หุ้นจากนายบรรลือถูกโอนให้กับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำนวน 20.4 ล้านหุ้น นายบรรลือจึงเหลือถือครอง 5 ล้านหุ้น และสุดท้าย ในบัญชีรายชื่อปี 2556 (4 กรกฎาคม 2556) หุ้นที่นายศุภชัยถือครอง 20.4 ล้านหุ้น ถูกโอนให้กับนายธวัชกิตน์ ธนานันท์ตระกูล(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

ผู้ถือหุ้นบริษัท เอ็ม-

ส่วนในด้านการดำเนินกิจการของบริษัท สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าตรวจสอบจากงบการเงินประจำปี 2553 (ปีสุดท้ายที่ส่งงบให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์สุทธิ 929 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินรวม 1,054 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 254 ล้านบาท ขณะที่งบกำไรขาดทุนประจำปี 2553 บริษัทมีรายได้ 2.3 แสนบาท และมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 45 ล้านบาท

ในเวลาต่อมา รายงานการประชุมประจำปี 2554 ของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ในวันที่ 21 ธันวาคม 2554 ในวาระที่ 2 รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2554 บริษัทได้ไถ่ถอนจำนองและโอนขายที่ดินของบริษัทใน ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้กับธนาคารทิสโก้ บริษัทสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย โดยบริษัททำการแบ่งแยกโฉนดออกจำหน่ายไว้เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญา โดยรายชื่อผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย ดังนี้

1. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161409-161415 รวม 7 โฉนด เนื้อที่ 50 ไร่ ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ บริษัท พี เอส แมนแลนด์ จำกัด ราคาไร่ละ 5.5 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเงิน 275 ล้านบาท

2. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161420 เนื้อที่ดิน 7 ไร่ 2 งาน ทำสัญญาขายให้กับนายวันชัย ทองสุวรรณ์ คิดเป็นจำนวนเงินรวม 42.2 ล้านบาท

3. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161419 เนื้อที่ดิน 7 ไร่ 2 งาน ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ นางมณฑิกา ลีลากุลเศรษฐ์, นางวงดี สมบัติพาณิชย์ และนายพิชัย แซ่อึ้ง ราคาไร่ละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 45 ล้านบาท

4. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161421-161423 รวม 3 โฉนด เนื้อที่ดิน 22 ไร่ 2 งาน ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ บริษัทเสนาดีเวลลอปเมนท์ และบริษัทบ้านร่วมทางฝัน ราคาไร่ละ 5.9 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 133 .8 ล้านบาท

5. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161424 เนื้อที่ดิน 12 ไร่ 1 งาน ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ราคาไร่ละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 73.9 ล้านบาท

6. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161425, 161426 เนื้อที่ดิน 10 ไร่ ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ นางสรีระเพ็ญ โอทกานนท์ และนายบุญย์ธนิสร์ โอทกานนท์ ราคาไร่ละ 6 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 73.9 ล้านบาท

7. ที่ดินโฉนดหมายเลข 161428 เนื้อที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ นายปกรณ์ หยั่งสายชล นายพินัย ปฐมพรวิวัฒน์ และนายชาญวิทย์ หิรัญอัศว์ ราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 3.2 ล้านบาท

8. ที่ดินโฉนดหมายเลข 31344 เนื้อที่ดิน 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา ทำสัญญาขายที่ดินให้กับ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด ในราคาไร่ละ 2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 93.8 ล้านบาท

จดหมายบริจาคพระธัมมชโย - อนันต์ อัศวโภคิน

อย่างไรก็ตาม ที่ดินผืนที่ขายให้นายอนันต์ อัศวโภคิน มีหนังสืออีกฉบับหนึ่งที่ระบุว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร นำที่ดินผืนเดียวกันนี้บริจาคเป็นการส่วนตัวให้กับพระธัมมชโย โดยในหนังสือแสดงเจตนาถวายที่ดิน เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2554 ระบุว่า นายศุภชัยมีเจตนาถวายที่ดิน โฉนดเลขที่ 31344 เลขที่ดิน 1 เนื้อที่ 46 ไร่ 3 งาน 56.2 ตารางวา แก่พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) เป็นการส่วนตัวเพื่อเป็นการบูชาธรรม และให้ใช้สอยตามประสงค์ของพระธัมมชโย โดยให้มีการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในนามนายอนันต์ อัศวโภคิน ซึ่งได้รับมอบหมายจากพระธัมมชโยให้ถือกรรมสิทธิ์แทน

อย่างไรก็ตามในส่วนของที่ลงลายมือชื่อ ไม่มีลายเซ็นของนายศุภชัย แต่มีลายเซ็นของนายอนันต์ อัศวโภคิน และพยานอีก 6 ราย อย่างเช่น พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความวัดพระธรรมกาย และ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้

นอกจากเอกสารซื้อขาย สำนักข่าวไทยพับลิก้ายังได้ตรวจสอบผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในโฉนดทั้ง 3 แปลง ของบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 และแผนผังที่ดินทั้ง 3 แปลง พบว่า โฉนดเลขที่ 31343 และ 31345 ระบุว่าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม บริษัท เอ็ม–โฮม ไถ่ถอนจำนองจากเจ้าหนี้ทั้ง 3 และทำการแบ่งจัดสรรที่ดินออกเป็นโฉนดย่อยรวมแล้ว 28 โฉนด ขณะที่โฉนดเลขที่ 31344 ระบุว่าวันที่ 23 ธันวาคม บริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 ขายที่ผืนดังกล่าวให้กับนายอนันต์ อัศวโภคิน

จากข้อมูลข้างต้นสหกรณ์ฯ คลองจั่น ซื้อบริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 และกรรมสิทธิ์ที่ดินของบริษัทแล้วในสมัยของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร การซื้อขาย การลงทุนด้วยเงินถึง 1,000 ล้านบาท จึงน่าจะปรากฏอยู่ในรายงานประจำปี 2552 ของสหกรณ์ ขณะเดียวกันเมื่อบริษัทขายที่ดินหลายแปลงไปในปี 2554 ก็น่าจะปรากฏรายรับจากส่วนแบ่งกำไรในฐานะเจ้าของบริษัท เอ็ม-โฮม ด้วย แต่เมื่อตรวจสอบรายงานประจำปีของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ปี 2552 ,2554 และ 2556 กลับไม่พบว่าสหกรณ์นำเงินมาลงทุนในบริษัท เอ็มโฮม เอสพีวี 2 และไม่พบรายรับจากการลงทุนด้วยเช่นกัน

ด้านนายพฤฒพงศ์ รัตนสังวาลย์ ทนายความของสหกรณ์ฯ คลองจั่น เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯ คลองจั่นเคยยื่นฟ้องแพ่งคดีนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 โดยได้รับเลขคดีดำที่ 728/2556 โดยที่มีจำเลย 3 ราย คือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร บริษัท เอ็ม–โฮม เอสพีวี 2 และนายแพทย์บรรลือ กองไชย โดยโจทก์ขอให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 391 ล้านบาท รวมทั้งโอนหุ้นและที่ดินในครอบครองคืนแก่สหกรณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากนายศุภชัยชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นประธานสหกรณ์ฯ อีกครั้ง ก็ได้ถอนฟ้องตัวเองในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 ทำให้คดียังไม่ได้รับการไต่สวนจากศาล

นอกจากการซื้อขายที่ดินกับนายอนันต์ อัศวโภคิน แล้ว จากการตรวจสอบข้อมูล สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าพบอีกธุรกรรมซึ่งเป็นการทำธุรกิจกันโดยตรงระหว่าง “อัศวโภคิน” กับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร

จากสำนวนคำฟ้องคดีดำเลขที่ 2973/2557 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 พบว่าโจทก์ 2 ราย ได้แก่ บริษัท ลัคกี้ สไมล์ ดอท คอม จำกัด และนายสิวิลักษณ์ ยิ้มแย้ม ยื่นฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในข้อหาโกงเจ้าหนี้ โดยในคำฟ้องระบุว่า จำเลยทั้ง 3 ว่าจ้างโจทก์ แต่กลับเพิกเฉยไม่ยอมชำระค่าว่าจ้าง อีกทั้งยังขอผัดผ่อนหลายครั้ง ทำให้โจทก์ทั้ง 2 ยื่นฟ้องข้อหาผิดสัญญาซื้อขายต่อศาล เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 คดีแพ่งหมายเลขดำที่ ผบ.5351/2556 โดยยื่นฟ้องจำเลย 3 คน ในฐานะผู้ว่าจ้าง ได้แก่ พระมนตรี แสงโสดา หรือพระมนตรี สุตาภาโส (พระมนตรีถูกดีเอสไอระบุว่ารับเช็คจากนายศุภชัยมากกว่า 100 ล้านบาท), วัดพระธรรมกาย และนายศุภชัย ศรีศุภอักษร โดยคดีดังกล่าวคู่กรณีทำสัญญาประนีประนอมให้จำเลยที่ 3 (นายศุภชัย) ชำระหนี้ค่าสินค้าแทนพระมนตรีและวัดพระธรรมกายแก่โจทก์เป็นเงิน 31,892,286 บาท ซึ่งนายศุภชัยตกลงผ่อนชำระภายใน 6 เดือน ไม่ตํ่ากว่าเดือนละ 5 ล้านบาท เริ่มงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2556

แต่เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 นายศุภชัยกลับนำที่ดินทั้งหมด 8 แปลง ในตำบลคลอง 3 อำเภอคลองหลวง จำหน่ายให้ นางสาวอลิสา อัศวโภคิน (ลูกสาวนายอนันต์ อัศวโภคิน) ในราคาจำหน่าย 298 ล้านบาท ซึ่งการนำไปขายลักษณะนี้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ไม่ได้รับเงินจากการขายที่ดิน อีกทั้งนายศุภชัยไม่มีทรัพย์สินอื่นเพียงพอชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว เนื่องจากสำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์สินอื่นของนายศุภชัยไปหมด ส่วนทรัพย์สินส่วนที่ไม่ถูกอายัด นายศุภชัยก็นำไปจำนองที่ดินกับบุคคลอื่น(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

โฉนดอัศวโภคิน

นอกจากสำนวนการฟ้องร้อง ไทยพับลิก้ายังได้ตรวจสอบผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในโฉนดทั้ง 8 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 57 ไร่ ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ใกล้วัดพระธรรมกาย ที่ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยรายละเอียดโฉนดทั้งหมดมีดังนี้

โฉนดเลขที่ 152624 เลขที่ดิน 1429 หน้าสำรวจ 27952 เนื้อที่ 8 ไร่ 46 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 101461 เลขที่ดิน 1283 หน้าสำรวจ 34 เนื้อที่ 8 ไร่ 39 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 101462 เลขที่ดิน 1284 หน้าสำรวจ 35 เนื้อที่ 8 ไร่ 39 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 101455 เลขที่ดิน 1277 หน้าสำรวจ 68 เนื้อที่ 7 ไร่ 2 งาน 27 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 101456 เลขที่ดิน 1278 หน้าสำรวจ 69 เนื้อที่ 5 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 152626 เลขที่ดิน 1431 หน้าสำรวจ 27954 เนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 96 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 101460 เลขที่ดิน 1282 หน้าสำรวจ 73 เนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา

โฉนดเลขที่ 4519 เลขที่ดิน 1277 เนื้อที่ 10 ไร่

โดยจากโฉนดทั้งหมดพบว่า ในวันที่ 7 มิถุนายน 2556 มีการโอนขายที่ดินรวม 8 โฉนดจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ให้แก่นางสาวอลิสา อัศวโภคิน ซึ่งเมื่อเทียบช่วงเวลาที่ทำการซื้อขาย แม้จะเป็นช่วงเวลาก่อนที่ ปปง. และดีเอสไอจะยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายยักยอกทรัพย์ของนายศุภชัยในวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ตามมติของคณะกรรมการธุรกรรมเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2556 แล้ว ซึ่งในขณะนั้นข่าวปัญหาสหกรณ์ฯ คลองจั่นเริ่มปรากฏ เป็นข่าวในสื่อออนไลน์และในสื่อกระแสหลักตั้งแต่มีผู้ร้องเรียนในวันที่ 4 เมษายน 2556 อย่างไรก็ตามจากแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับ “อัศวโภคิน” และสหกรณ์ฯ คลองจั่น ยังไม่ถูกทาง ปปง. อายัดไว้เหมือนกับทรัพย์สินอื่น

นอกจากที่ดินแปลงดังล่าวข้างต้นแล้วนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้ขายที่ดินใกล้วัดพระธรรมกาย ตำบลคลอง 3 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2556 ราคา 25 ล้านบาทให้นางวรรณา จิรกิติ (ภรรยานายประกอบ จิรกิตติ)ที่ดินเลขที่โฉนด 2202 เลขที่ดิน 619 เนื้อที่ 30 ไร่