ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสนโยบายการเงิน > กนง. มีมติ 5:2 คงดอกเบี้ย 2% ติดต่อกัน 6 ครั้ง– เสียงแตกหนุนลดดอกเบี้ย ดันเศรษฐกิจโต

กนง. มีมติ 5:2 คงดอกเบี้ย 2% ติดต่อกัน 6 ครั้ง– เสียงแตกหนุนลดดอกเบี้ย ดันเศรษฐกิจโต

17 ธันวาคม 2014


นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

วันที่ 17 ธันวาคม 2557 นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมว่าคณะกรรมการมีมติ 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% เป็นครั้งที่ 6 ติดต่อกัน โดยให้เหตุผลว่านโยบายการเงินปัจจุบันยังผ่อนปรนเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2558 ทั้งนี้ คณะกรรมการ 2 ท่านมีความเห็นต่างจากคณะกรรมการท่านอื่น โดยระบุว่าควรลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งอ่อนแรงกว่าที่คาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่เงินเฟ้อโดยรวมปรับลดลงต่อเนื่องและไม่มีแรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายการเงิน

ทั้งนี้ อัตราการเติบโตในปี 2558 จะต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อน เพราะแรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายภาคการคลังที่น้อยกว่าคาดซึ่งส่งผลต่อการลงทุนภาคเอกชนที่ส่วนใหญ่ยังรอความชัดเจนของการลงทุนภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ซึ่งส่งผลให้รายได้ในภาคการเกษตรลดลง ขณะที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น อาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า

ด้านแรงกดดันเงินเฟ้อ ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อปรับลดลงตามราคาพลังงาน และคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งตามราคาน้ำมันโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน ปรับลดลงเล็กน้อย ตามแรงกดดันจากด้านอุปสงค์ที่ลดลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า

ด้านภาวะเศรษฐกิจโลก นายเมธีกล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้คณะกรรมการต้องการให้ความสำคัญกับปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศมากกว่าภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยจะให้น้ำหนักกับภาวะเศรษฐกิจโลกเฉพาะปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไทยโดยตรง

สำหรับปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ แม้จะมีความเสี่ยงจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในยุโรปและญี่ปุ่น รวมไปถึงผลกระทบจากประเทศรัสเซียที่ “อาจจะ” ผิดชำระหนี้ของตนเอง ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นเป็นอย่างแรก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่จะมีความตื่นตระหนกบ้าง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจะมีการผิดชำระหนี้มากน้อยแค่ไหนและประเทศรัสเซียจะมีเงินสำรองเพียงพอหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันรัสเซียมีเงินสำรองในระดับเดียวกันกับหนี้ที่มีอยู่

“คำว่าชะลอมันชะลอกว่าที่เราคาด แต่มันก็ยังมีการเติบโตนะ ก็พอไปได้ ส่วนภาวะเงินฝืดมีโอกาสเป็นไปได้ แต่หากดูจากการคาดการณ์โดยเฉลี่ยโอกาสเกิดภาวะเงินฝืดในข้างหน้า 2 ปียังไม่มี ส่วนเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในระยะต่อไป กรรมการเห็นสอดคล้องกันว่าควรอยู่ในระดับที่ผ่อนปรน เพื่อช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญอีกประการคือการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย” นายเมธีกล่าว

ทั้งนี้ การมีมติ 5:2 ในการประชุม กนง. ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการลงมติลดดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.25% เป็น 2% ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 ที่คณะกรรมการมีความเห็นให้ลดดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 1 ท่าน โดยมีรายละเอียดดังนี้

การประชุมที่ 23 เมษายน 2557 มีมติ 6 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ขณะที่อีกเสียงเห็นควรให้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%
การประชุมวันที่18 มิถุนายน 2557 มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2%
การประชุมวันที่ 6 สิงหาคม 2557 มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2%
การประชุมวันที่ 17 กันยายน 2557 มีมติเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2%
การประชุมวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 มีมติ 6 ต่อ1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ขณะที่อีกเสียงเห็นควรให้ลดดอกเบี้ยลง 0.25%

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงรายงานนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทย และตัวเลขเครื่องชี้เศรษฐกิจในปี 2557 ที่เหลืออยู่ รวมไปถึงปี 2558 ในวันที่ 26 ธันวาคม 2557