ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช.เตรียมอุทธรณ์กรณีศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ปลดคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน เรื่องซื้อรถ-เรือดับเพลิง

ป.ป.ช.เตรียมอุทธรณ์กรณีศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ปลดคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน เรื่องซื้อรถ-เรือดับเพลิง

31 ตุลาคม 2014


คดีรถดับเพลิง ที่มาภาพ : http://www.siamturakij.com/backend/files/images/complete/201307170627561.gif
คดีรถดับเพลิง ที่มาภาพ : http://www.siamturakij.com/backend/files/images/complete/201307170627561.gif

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ลงโทษปลดคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกรุงเทพมหานคร ออกจากราชการ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง กรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร

โดยศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า การกระทำของคุณหญิงณัษฐนนท ทวีสิน เป็นเพียงความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมิใช่เป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะมีอำนาจไต่สวนนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่เห็นด้วย และจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป

นายสรรเสริญกล่าวต่อว่า การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีนี้ทำตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่ามีความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง โดยอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องนี้ ได้รับการยืนยันโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวคือ ในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ อม. 5/2552 ระหว่าง ร้อยตำรวจโท เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ กับพวกรวม 134 คน ผู้ร้อง นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ที่ 1 กับพวกรวม 9 คน ผู้ถูกกล่าวหา ผู้ร้องอ้างว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าคนชี้มูลความผิดทางวินัยแก่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และขอให้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกคำขอ โดยวินิจฉัยว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาข้อกล่าวหาจากสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหายังไม่พอฟังว่ามีมูลความผิดทางอาญา คงมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่เบากว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมมีอำนาจที่จะรับฟังข้อเท็จจริงตามมูลฐานดังกล่าวมาพิจารณาวินิจฉัยชี้มูลความผิดฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการได้