ThaiPublica > คนในข่าว > “สมหมาย ภาษี” ว่าที่ “ขุนคลัง” คนใหม่วัย 70 “อย่าเรียกผมว่า ปู่” – เคลียร์ “พิษหุ้น-คดีจำคุก”

“สมหมาย ภาษี” ว่าที่ “ขุนคลัง” คนใหม่วัย 70 “อย่าเรียกผมว่า ปู่” – เคลียร์ “พิษหุ้น-คดีจำคุก”

29 สิงหาคม 2014


ชื่อสมหมาย ภาษี ปรากฏโดดเด่นเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสำลีระหว่างเหล็ก เป็นรัฐมนตรีระหว่างเขาควาย ใน “ทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล “ประยุทธ์1”

เพราะกว่าโผจะนิ่ง เป็นชื่อ “สมหมาย” โผรายชื่อพลิกคว่ำพลิกหงายมาหลายรอบ มี 2 ชื่อ สลับกันขึ้นนำ ทั้งชื่อ”ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และชื่อ”อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” กรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ต่างเป็นแคนดิเดต “ในโผ” ต่อเนื่อง ภายใต้การผลัดกันรับผลัดกันรุกของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล 2 กุนซือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

เมื่อชื่อ “สมหมาย” สถิตนิ่งเป็นแน่แท้ ไม่เปลี่ยนแปลง สำนักข่าวไทยพับลิก้า ได้รับการเปิดเผยจากปาก “สมหมาย” อธิบายเรื่องคุณสมบัติร้อน ที่ว่าด้วยวัยชราและวาสนาอาจจะมีตำหนิเรื่องคุณสมบัติ

นายสมหมาย ภาษี  ที่มาภาพ : http://www.oknation.net
นายสมหมาย ภาษี
ที่มาภาพ : http://www.oknation.net

“สมหมาย” บอกว่า แม้ว่าอายุจะย่าง 70 ปี (เกิด พ.ศ. 2487) แต่เวลาไม่ได้ทำให้วัยเขาร่วงโรยตามไปด้วย

เขาบอกผู้สื่อข่าวผ่านสายโทรศัพท์ว่า “คุณไม่รู้อะไร ที่ผ่านมา ผมดูแลสุขภาพดีมาก ควบคุมการรับประทานอาหาร 10 ปีที่ผ่านมา หลังจากเกษียณอายุราชการ ผมตีกอล์ฟกับเพื่อนเกือบทุกวัน วันละ 3 รอบ ตีกอล์ฟเสร็จก็เข้าฟิตเนส ร่างกายตอนนี้เฟิร์มมาก ผมดำสนิท ไม่มีหงอก สุขภาพแข็งแรงดี”

ด้วยวัยหลังเกษียณ เมื่ออยู่ที่บ้าน ในหมู่ญาติครอบครัวตระกูล “ภาษี” อาจมีคนเรียก “ปู่” แต่คำนี้ “สมหมาย” ขอสงวนไว้ ห้ามเรียกขานต่อหน้าธารกำนัล เขาประกาศล่วงหน้า “อย่ามาเรียกผมว่าปู่สมหมายนะ…ไม่ชอบ โกรธ”
 
ราวกับจะรู้ว่า วันหนึ่งจะได้หวนคืนกระทรวงการคลัง เขาทำการบ้านรอไว้ล่วงหน้า ก่อนร้างราไปเมื่อหลังรัฐประหาร 2549 คราวนั้น เขาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คราวนี้เขากลับมาในฐานะรัฐมนตรีว่าการ เป็น “ขุนคลัง” ตัวจริง หวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ฝันถึงตัวเลขจีดีพีที่จะกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง

“สมหมาย” บอกว่า “นาทีนี้ผมพร้อมที่จะกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง รอบนี้ผมไม่ได้มาคนเดียว ผมมีทีมงาน ซึ่งผมและทีมที่ปรึกษาได้ทาบทาม ดร.วิรไท สันติประภพ ซึ่งเป็นซูเปอร์บอร์ดรัฐวิสาหกิจอยู่ มาช่วยงาน มีการเสนอตำแหน่งทางการเมืองให้ ดร.วิรไทแต่เขาไม่ยอมรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เลย ครั้งนี้ผมและทีมงานมีความมั่นใจว่าจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวได้ตามปกติ”
 
คำถามที่ดังกึกก้อง จากห้องวอร์รูม การตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล คือ เขายังมีหุ้นส่วนพัวพันกับบริษัทในเครือข่ายอำนาจเก่าหรือไม่ “สมหมาย” ตอบแบบไม่ให้มีคนคาใจ แก้ไขประวัติส่วนตัวที่ค้างใจในกูเกิล ทั้งคดีถูกศาลอาญาสั่ง “จำคุก” โดยไม่ต้องรอลงอาญา กรณีที่ไปสั่งพักงานนายทัศพงศ์ วิชชุประภา อดีตรองผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (บทด.)
 
“คดีนี้เกิดขึ้นช่วงที่ผมเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ผมถูกส่งไปนั่งเป็นประธานและกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เคยเซ็นคำสั่งให้พนักงานออกจากตำแหน่งหลายราย และเคยถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนทั่วไป…”

“ในช่วงที่ผมดำรงตำแหน่งประธานสภากรรมการ บทด. ผมเซ็นคำสั่งพักงานอดีตรองผู้อำนวยการ บทด. ซึ่งท่านเข้าว่าใจถูกกลั่นแกล้ง จึงนำคำสั่งนี้ร้องต่อศาลอาญา ต่อมาศาลอาญาตัดสินจำคุกผมโดยไม่รอลงอาญา ช่วงนั้นปรากฏเป็นข่าวใหญ่โต ต่อมาผมยื่นอุทธรณ์ต่อศาล จนกระทั่งศาลตัดสินให้ผมถูก เพราะผมปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะประธานบอร์ด แต่ไม่มีสื่อมวลชนฉบับใดรายงานข่าวนี้หรือแก้ข่าวให้ผม พอไปตรวจสอบประวัติผมในกูเกิล ก็จะพบว่าผมเคยถูกศาลสั่งจำคุก”
 
เพราะพิษหุ้น เคยทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายคน หล่นจากตำแหน่งมาแล้ว เมื่อมีชื่อ “สมหมาย” อยู่ในโผ และเป็นที่รับรู้กันว่า เขานั้นอู้ฟู่ในกิจการส่วนตัว เมื่อถูกถามเรื่องนี้ เขาชี้แจงปากเปล่าโดยไม่ต้องมีเอกสารแนบท้าย ว่า…

“ผมตรวจสอบคุณสมบัติของผมดูแล้ว ใสปิ๊ง 1,000% ตอนนี้ไม่ได้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนหุ้นของบริษัท ท้ายเหมืองบีชรีสอร์ท จำกัด ก็โอนไปให้ลูกทั้งหมดแล้ว ตอนนี้พร้อมที่จะเข้ามารับใช้ชาติอีกครั้ง แต่ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ผมจึงไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องนโยบายใดๆ ทั้งสิ้น”
 
ความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญพิเศษ ของ “สมหมาย” ถูกให้ความหมายใหม่ ว่าเขาไม่ใช่ “เก่งแต่เรื่องกู้เงิน เพราะไปเห็นประวัติผมในกูเกิลเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเงินกู้”

คุณสมบัติที่ “สมหมาย” ส่งแนบท้ายให้ตรวจสอบก่อนคืนคลัง เขาสรุปให้ฟังแบบย่อๆ ว่า  “ผมจบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์เกียรตินิยม และเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ด้านวางแผนและพัฒนาการที่มหาวิทยาลัย Vanderbilt ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้ารับราชการที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เคยดูแลงานด้านเศรษฐกิจมหภาค ช่วงที่มีการลดค่าเงินบาทสมัยนายสมหมาย ฮุนตระกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”

ทุกวิกฤติเศรษฐกิจ ทุกมรสุมใหญ่ ในประเทศไทย มีชื่อ “สมหมาย” เคยอยู่ในภาพประวัติศาสตร์ เขาเล่าย้อนให้ฟังก่อนเข้าไปนั่งคิดการใหญ่ในการฝ่าพายุเศรษฐกิจลูกใหม่ ว่า…

“ผมถูกดึงตัวไปช่วยงานในฐานะผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี พอปี 2540 เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ตอนนั้นผมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คอยให้คำปรึกษานายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก จากนั้นถูกย้ายมาเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลกรมภาษี จนกระทั่งเกษียณอายุราชการปี 2547”

เมื่อมีวิกฤติการเมือง คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเดือนกันยายน 2549 “สมหมาย” ถูกทาบทามจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้ร่วมทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทำงานคู่ กับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีม เช่นเดียวกับคราวนี้

อีกไม่กี่อึดใจ ก็จะได้เห็นฝีมือ “สมหมาย ภาษี”ว่าจะเล่นบทสำลีระหว่างเหล็ก หรือเป็นแค่ “ขุนคลัง” ขิงแก่”