เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม, ผู้แทนจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบร.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาจัดทำแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ระยะเร่งด่วน และแผน 8 ปี (พ.ศ. 2558-2565)
ทั้งนี้ หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้อนุมัติแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีโครงการเร่งด่วนในปี 2557-2558 ได้แก่ การพัฒนารถไฟทางคู่ แบ่งเป็น โครงการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางเดิม โดยสร้างทางรถไฟเพิ่มขนานไปกับเส้นทางเดิมและใช้รางขนาด 1 เมตร หรือ Meter Gauge จำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ รวมทั้งสิ้น ระยะทาง 887 กิโลเมตร วงเงิน 127,472 ล้านบาท
โดยมีการพิจารณาแหล่งเงินจาก 5 ทาง คือ งบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล, การกู้ผ่าน พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ, รายได้จากรัฐวิสาหกิจ, การร่วมทุนรัฐกับเอกชน และการตั้งกองทุนระดมเงินทุน และจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
รายงานข่าวแจ้งว่า แผนการก่อหนี้ พ.ศ. 2558 คาดว่าอยู่ในวงเงิน 150,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม ส่วนใหญ่เน้นการศึกษาและเตรียมความพร้อมเป็นหลัก แบ่งเป็นการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 20,000 ล้านบาท การกู้เพื่อลงทุน 65,000 ล้านบาท การร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในรูปแบบพีพีพี (PPP: Public-Private Partnership) 7,000 ล้านบาท การกู้ของรัฐวิสาหกิจเพื่อลงทุนเอง 20,000 ล้านบาท และใช้รายได้ของรัฐวิสาหกิจมาลงทุน 43,000 ล้านบาท
อนึ่ง ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) 11.375 ล้านล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน มีหนี้สาธารณะคงค้าง 5.642 ล้านล้านบาท (46.60% ของจีดีพี) เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 109,415.89 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดหนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 25,385.15 ล้านบาท หนี้สถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 88,902.24 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินลดลง 4,871.50 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่เพิ่มขึ้นเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 89,934.40 ล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายเงินกู้ 90,000 ล้านบาท และชำระคืนต้นเงินกู้ 65.6 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศและหนี้ในประเทศอยู่ที่ 5.64 ล้านล้านบาท ได้แก่ หนี้ต่างประเทศ 382,072.15 ล้านบาท หรือ 6.77% หนี้ในประเทศ 5.26ล้านล้านบาท หรือ 93.23%ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง แบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล 3.93 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.08ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 620,861.22 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,652.17 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้ต่างประเทศลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1,153.03 ล้านบาท ส่วนหนี้ในประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 2,075.28 ล้านบาท เนื่องจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพออกพันธบัตร 4,400 ล้านบาท และไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 3,782 ล้านบาท, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,500 ล้านบาท และการเคหะแห่งชาติไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท และการรถไฟแห่งประเทศไทยชำระคืนต้นเงินตามสัญญาเงินกู้ที่ครบกำหนด 193.28 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีหนี้ ในบัญชีหนี้สินระยะยาวของรัฐวิสาหกิจ (ปี 2557) ในสังกัด 9 กระทรวง รวมทั้งสิ้น 818,060.48 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กู้ในประเทศ วงเงิน 594,455.13 ล้านบาท หนี้ที่กู้จากต่างประเทศ วงเงิน 223,605.34 ล้านบาท
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
