ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นข่าวรอบสัปดาห์ – อุ๊งอิ๊งโพสต์รูป ‘พ่อไม่รีบ’ และ กระแสถกเถียงในโลกออนไลน์ ‘เพิ่มโทษ’ หรือ ‘ไม่เพิ่มโทษ’ คดีข่มขืน

ประเด็นข่าวรอบสัปดาห์ – อุ๊งอิ๊งโพสต์รูป ‘พ่อไม่รีบ’ และ กระแสถกเถียงในโลกออนไลน์ ‘เพิ่มโทษ’ หรือ ‘ไม่เพิ่มโทษ’ คดีข่มขืน

12 กรกฎาคม 2014


ประเด็นที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 6 กรกฎาคม – 12 กรกฎาคม 2557

– จับได้แล้วคนร้ายฆ่าข่มขืนเด็กหญิง 13 ปี หลังหายตัวลึกลับบนรถไฟ
– กระแสถกเถียงในโลกออนไลน์ ‘เพิ่มโทษ’ หรือ ‘ไม่เพิ่มโทษ’ คดีข่มขืน
– คสช. สั่งปลดผู้ว่าการรถไฟ
– อุ๊งอิ๊งโพสต์รูป ‘พ่อไม่รีบ’
– ‘บีบีซี’ กลับมาเปิดภาคภาษาไทย

จับคนร้ายฆ่าข่มขืนเด็กหญิง 13 ปี หลังหายตัวลึกลับบนรถไฟ

ที่มาภาพ : http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2014/01/tnews_1316322962_9588.jpg
ที่มาภาพ : http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2014/01/tnews_1316322962_9588.jpg

เมื่อ 8 ก.ค. ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พบศพของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) แล้ว ตอนเวลาประมาณ 04.10 น. โดยพบที่จุดตัดทางเข้า วนอุทยานปราณบุรีไป 2 กิโลเมตร ขาล่องใต้ พบอยู่ในพงหญ้าห่างรางรถไฟประมาณ 2 เมตร โดยใช้ เจ้าหน้าที่ 20 นายในการค้นหา

จากการสอบถามทราบว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวอายุ 13 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังใน จ.นนทบุรี ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมญาติที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยการโดยสารรถไฟตู้นอนชั้น 1 ออกเดินทางตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับพี่สาวและเพื่อนชายของพี่สาว

ต่อมาโบกี้รถไฟที่ ด.ญ.เอโดยสารอยู่เกิดไฟฟ้าดับอยู่เพียงโบกี้เดียว จากนั้นพี่สาวก็ได้ตื่นขึ้นมาช่วงเข้าเขต จ.ราชบุรี ก็ไม่พบน้องสาวแล้ว แต่พบร่องรอยการต่อสู้ ปลอกหมอนถูกดึง และผ้าห่มหายไป จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยคาดว่าช่วงที่ ด.ญ.เอหายตัวไปและขาดการติดต่อนั้น น่าจะอยู่ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์

เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า นายวันชัย แสงขาว ผู้ต้องหาคดีฆ่าขมขืน ด.ญ.เอ รับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าเข้าไปจำนวน 3 เม็ด จนมีอาการมึนเมาก่อนที่จะขึ้นรถมาทำหน้าที่ นอกจากนี้ยังได้ดื่มเบียร์เข้าไปด้วย โดยขณะที่รถไฟผ่านสถานี อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตนก็ได้เริ่มมุดเข้าไปที่เตียงนอนของ ด.ญ.เอ แล้วใช้มือบีบคอจนสลบ จากนั้นได้ถอดเสื้อผ้าเหยื่อเพื่อข่มขืน ก่อนจับร่างโยนทิ้งออกทางหน้าต่าง ขณะที่ขบวนรถไฟกำลังวิ่งผ่านสถานีรถไฟวังก์พง อ.ปราณบุรี ช่วงหลัก กม. ที่ 227 + 930 หมู่ 1 ต.วังก์พง

ต่อมาเมื่อรถไฟเดินทางถึงกรุงเทพฯ ก็ได้นำโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 เอส สีขาวของ ด.ญ.เอไปขายที่ห้างสรรพสินค้าย่านเขตดุสิต ในราคา 1,800 บาท ซึ่งตนได้มีการถ่ายเอกสารสำเนาบัตรประชาชนให้กับทางร้านที่รับซื้อไว้ จึงถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแกะรอยจนเจอ

กระแสถกเถียงในโลกออนไลน์ ‘เพิ่มโทษ’ หรือ ‘ไม่เพิ่มโทษ’ คดีข่มขืน

ที่มาภาพ : instagram @boompanadda
ที่มาภาพ : instagram @boompanadda

หลังเกิดกรณีคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟที่ผ่านมา ก็มีกระแสในสังคมขึ้นอย่างมากทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์เกี่ยวกับการดำเนินคดีและบทลงโทษของผู้ต้องหาในคดีนี้ ประชาชนทั่วไปและคนบันเทิงต่างโพสต์ข้อความบนอินเทอร์เน็ตเพื่อร่วมไว้อาลัยแก่ ด.ญ.เอ และเรียกร้องให้แก้กฎหมายใหม่ ข่มขืนเท่ากับประหารสถานเดียว

ด้าน ‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ ทนไม่ไหวกับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงลุกขึ้นมาอาสาล่ารายชื่อประชนชนให้ครบ 1 แสน เพื่อนำไปยื่นแก้กฎหมายคดีข่มขืนให้หนักกว่าเดิมด้วยวิธีประหารชีวิต ท่ามกลางคนบันเทิงที่ร่วมด้วยช่วยแชร์ข้อความดังกล่าวของบุ๋มผ่าน instagram เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังมีความเห็นจากศิลปินนักแสดงต่างๆ เช่น อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ, เจ เจตริน วรรธนะสิน, อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, อ๊อฟ ชนะพล สัตยา และอื่นๆ

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ‘เช้านี้ อ่านข่าว ด.ญ.เอ ด้วยความเศร้าใจและเสียใจมากๆ เป็นข่าวร้ายที่สุดในรอบหลายปีของการรถไฟและกระทรวงคมนาคม ผมเองก็รู้สึกว่ามีส่วนต้องรับผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยว่าตอนที่อยู่ไม่ได้ทำให้ดีพอ หัวใจของกระทรวงคมนาคมคือการให้บริการที่ต้องปลอดภัย สะดวก มีประสิทธิภาพ ถ้าการบริการล้มเหลวแล้ว โครงการลงทุนก่อสร้างต่างๆ ก็ไร้ประโยชน์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ด.ญ.เอ ขอให้ดวงวิญญาณของ ด.ญ.เอ ไปสู่สุคติครับ’ ด้านนายนพดล ปัทมะ ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเช่นกันว่า ‘ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ด.ญ.เอ คำถามคือคนที่ข่มขืนและฆ่าคนอื่นที่อ่อนแอกว่า และจำนนด้วยหลักฐานควรต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตสถานเดียว’

ขณะเดียวกัน เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานนำเสนอบทสัมภาษณ์ในคำถามที่ว่า ‘การประหารชีวิต’ เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดแล้วจริงหรือ?

ณัฐนที ดอกไม้ นักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ได้แสดงความคิดเห็นโดยยกอ้างงานวิชาการและเทียบเคียงสถิติจนเห็นภาพข้อเท็จจริงที่ปราศจากอารมณ์ว่า งานวิจัยของผู้ช่วยศาสตราจารย์ Valerie Wright จากมหาวิทยาลัย Cleveland ในหัวข้อ ‘Deterrence in Criminal Justice’ ซึ่งศึกษาในสหรัฐ อังกฤษ และสวีเดน พบว่า การเพิ่มโทษนั้นไม่ได้ช่วยลดอัตราการก่ออาชญากรรมอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดี วิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลกลับเป็น ‘การสร้างหลักประกัน’ ว่าผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับโทษในกระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีทางจะรอดพ้นไปได้

รูปแบบการข่มขืนในปัจจุบันมีหลากหลายและละเอียดซับซ้อนมาก ส่วนใหญ่เกิดจากคนใกล้ตัวที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพ่อข่มขืนลูก พี่ข่มขืนน้อง สามีข่มขืนภรรยา เพื่อนสนิทข่มขืนเพื่อน โดยสถิติของเว็บไซต์ RAINN (Rape, Abuse, & Incest National Network) ซึ่งเก็บข้อมูลของสหรัฐระบุว่า 2 ใน 3 ของการข่มขืนกระทำโดยคนที่รู้จักกัน และ 38% เกิดจากคนใกล้ตัว

ทั้งนี้ เมื่อนำผลสรุปของงานวิจัยข้างต้นมาเทียบกับข้อมูลสถิติในเว็บ RAINN จะพบว่าสถานการณ์การข่มขืนน่าเป็นกังวลอย่างยิ่ง นั่นเพราะ 60% ของการล่วงละเมิดทางเพศไม่เคยถูกแจ้งความต่อตำรวจ (ส่วนใหญ่เป็นญาติ-คนใกล้ชิด) และ 97% ของผู้ข่มขืนไม่เคยต้องติดคุก

เช่นเดียวกับ สุนี ไชยรส รองประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย กล่าวว่า ไม่มีหลักเกณฑ์ใดที่สามารถวัดได้ว่า หากเพิ่มโทษประหารชีวิตในคดีข่มขืนจะทำให้สถิติการข่มขืนลดน้อยลง และโทษในคดีอุกฉกรรจ์นี้ ก็มีโทษสูงสุดอยู่ที่การประหารชีวิตอยู่แล้ว ฉะนั้นควรให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงานเพื่อลงโทษต่อไป

นอกจากนี้ องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ยังเสนองานวิจัยเรื่อง “โทษประหารชีวิตป้องปรามอาชญากรรมได้จริงหรือ?”โดยมีใจความสำคัญว่า เมื่อสังคมต้องเผชิญหน้ากับอาชญากรรมที่ร้ายแรง อุกอาจ สะเทือนขวัญ ปฏิกิริยาตอบรับที่เรามักจะพบเห็นได้ทั่วไปจากสื่อมวลชน ประชาชน และผู้นำทางการเมือง คือ การเรียกร้องให้นำโทษประหารชีวิตมาบังคับใช้ โดยเชื่อว่าบทลงโทษที่รุนแรง เช่น การประหารชีวิต จะช่วยยับยั้งและป้องปรามอาชญากรรม แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความเชื่อดังกล่าวกลับไม่มีหลักฐานใดๆ ที่น่าเชื่อถือรองรับว่าการใช้โทษประหารช่วยป้องกันอาชญากรรมได้ดีกว่าการลงโทษแบบอื่น

ในทางตรงข้าม มีรายงานการศึกษาจากนานาประเทศที่ระบุว่า โทษประหารชีวิตไม่มีความเกี่ยวข้องอัตราการเพิ่มขึ้นหรือการลดลงของอาชญากรรม เช่น งานศึกษาอย่างรอบด้านขององค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโทษประหารกับอัตราการฆาตกรรม

ได้ข้อสรุปว่า งานวิจัยชิ้นนี้ไม่สามารถค้นพบข้อยืนยันในทางวิทยาศาสตร์ว่า การประหารชีวิตส่งผลในเชิงป้องปรามได้ดียิ่งกว่าการลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และไม่น่าเชื่อว่าจะมีข้อยืนยันเหล่านั้นอยู่จริง หลักฐานที่มีอยู่ไม่มีข้อสนับสนุนในเชิงบวกต่อสมมติฐานในแง่การป้องปรามเลย

“ยุกติ มุกดาวิจิตร” อาจารย์ประจำคณะมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นในเฟซบุ๊กว่า ระบบความปลอดภัยของการเดินทางสาธารณะ ระบบการควบคุมพนักงาน ระบบการออกแบบห้องโดยสาร ตลอดจนระบบการใช้ความเร็ว ความล้าหลังของการรถไฟ และการบริหารงานของหน่วยงาน เหล่านี้มีส่วนรับผิดชอบต่ออาชญากรรมครั้งนี้ด้วย

คสช. สั่งปลด “ประภัสร์ จงสงวน” ผู้ว่าการรถไฟ

557000008074002

เมื่อ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา คสช. ออกคำสั่งที่ 89/2557 ให้ นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

เพื่อให้การปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้ นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ เมื่อ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุการณ์ นายวันชัย แสงขาว ลูกจ้างเฉพาะงานของ ร.ฟ.ท. ก่อเหตุข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ปี ผู้โดยสารตู้นอนรถไฟ เที่ยว 174 สุราษฎร์ธานี – กรุงเทพฯ ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องอย่างกว้างขวางให้นายประภัสร์ ลาออกจากตำแหน่ง ร.ฟ.ท. เพื่อแสดงความรับผิดชอบ

นายประภัสร์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสเรียกร้องให้ผู้ว่า ร.ฟ.ท. ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น หากลาออกแล้วจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ และอาจถูกมองว่าหนีปัญหา ดังนั้น จะขออยู่เพื่อแก้ไขปัญหาหลังจากนี้ เพื่อจะได้มีคนสั่งการ และหามาตรการป้องกัน โดยเฉพาะการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

อุ๊งอิ๊งโพสต์รูป ‘พ่อไม่รีบ’

ที่มาภาพ : instagram @ingshin21
ที่มาภาพ : instagram @ingshin21

เมื่อ 9 ก.ค.กระปุกรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @ingshin21 โดยเป็นภาพที่อดีตนายกฯ ยืนอยู่ข้างป้ายที่มีคำภาษาอังกฤษติดไว้ว่า ‘wait’ ซึ่งแปลความหมายได้ว่า ‘รอ’

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารยังเขียนคำอธิบายประกอบภาพไว้ว่า ‘I′m in no rush’ ซึ่งแปลว่า ‘ฉันไม่รีบ’ อีกด้วย ทำให้ชาวเน็ตพากันคาดเดาถึงความหมายที่แฝงไว้ของภาพนี้กันอย่างมากมายทีเดียว

นอกจากนี้เมื่อ 11 ก.ค. เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า นายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดงานวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่อยากให้จัดงานวันเกิดตนในวันที่ 26 ก.ค. ปีนี้ เพราะต้องการให้ คสช. เดินหน้าทำงาน คืนประชาธิปไตย และเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ส่วนกรณีที่จะมีการจัดงานที่ประเทศฝรั่งเศสนั้นต้องชี้แจงว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่มีแผนที่จะจัดงานดังกล่าวด้วยตนเอง อาจจะเป็นเรื่องของคนที่รักและเคารพท่านต้องการที่จะจัดงานให้ ท่านยังย้ำด้วยว่า ต้องการให้สงบที่สุด จึงจะไม่มีการจัดงานแถบทวีปเอเชีย เพราะคนจะไปกันมาก อาจจะตกเป็นประเด็นทางการเมืองได้

‘บีบีซี’ กลับมาเปิดภาคภาษาไทย

ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/BBCThai
ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/BBCThai

เมื่อ 9 ก.ค. 2557 สำนักข่าวเทเลกราฟ รายงานว่า บีบีซีจะกลับมาเปิดภาคภาษาไทยอีกครั้ง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนไทยในการรับข้อมูลข่าวสาร หลังจากที่คณะรัฐประหารได้ปิดและควบคุมสื่ออย่างหนัก

โดยโครงการภาคภาษาไทยนี้เป็นโครงการทดลอง ระยะเวลาสามเดือน และได้เริ่มเผยแพร่ในเช้าวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะเผยแพร่เนื้อหาทางออนไลน์ผ่านทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก

อนึ่ง บีบีซีเคยมีภาคภาษาไทยมาแล้ว ซึ่งเปิดขึ้นในปี 1941 และปิดไปในเดือนมกราคม 2006 (หรือ พ.ศ. 2549 ก่อนรัฐประหาร) เนื่องจากการลดงบประมาณของทางบีบีซี

รายงานระบุว่า การนำเสนอข่าวในรูปแบบใหม่นี้จะเป็นในรูปแบบออนไลน์เท่านั้น โดยเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยทางบีบีซีได้ขอการอนุมัติจากวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเพื่อการนี้ตามกระบวนการที่ระบุในกฎหมายด้วย

ทั้งนี้ เพจบีบีซีไทยมียอดการไลก์กว่า 40,000 ไลก์ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. ถึงวันที่ 11 ก.ค. (เข้าถึงได้เมื่อ 11 ก.ค. 57) ในระยะเวลาเพียง 2 วัน เท่านั้น

ติดตามบีบีซีภาคภาษาไทยได้ที่ https://www.facebook.com/BBCThai