ThaiPublica > คอลัมน์ > การเมืองแบบทักษิณ

การเมืองแบบทักษิณ

7 มิถุนายน 2014


นะวัต

คุณทักษิณครอบงำและทำร้ายเมืองไทยมาไม่ต่ำกว่าสิบปี ที่ผ่านมาฝ่ายต่อต้านพยายามกำจัดคุณทักษิณโดยใช้ทั้งอำนาจกฎหมาย อำนาจประชาชน เรื่อยไปจนถึงอำนาจดิบ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ประสบความสำเร็จ

สาเหตุแห่งความล้มเหลวอาจเป็นดังเช่นที่นักวิชาการชื่อดังท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกตไว้ กล่าวคือฝ่ายต่อต้านมุ่งไล่แต่ตัวคุณทักษิณ แต่ไม่ได้ใส่ใจถอดรากถอนโคนวัฒนธรรมการเมืองแบบทักษิณที่ฝังอยู่ลึกกว่า เปรียบไปจึงคล้ายตัดแต่กิ่ง ซึ่งไปๆ มาๆ ยิ่งช่วยให้ต้นไม้พิษนี้งอกสูงใหญ่กว่าเดิม ดังนั้นเพื่อขุดรากถอนโคนคุณทักษิณ เราจึงควรตั้งต้นจากการทำความเข้าใจการเมืองแบบทักษิณ ซึ่งเท่าที่จำคนอื่นมา มันมีลักษณะสำคัญประมาณนี้ครับ

– ศรัทธาในมหาบุรุษ

การเมืองแบบทักษิณปลูกฝังให้คนเชื่อว่าผู้นำบางคนเป็นมหาบุรุษ หน้าที่ของประชาชนคือหาผู้นำเช่นนี้ให้เจอ แล้วถวายอำนาจรวมถึงความศรัทธาให้ท่านเหมือนยกเมืองให้พระเวสสันดร หลังจากนั้นก็ไม่ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการกู้บ้านกู้เมืองของมหาบุรุษ

– คำใหญ่ เป้าหมายแคบ

การเมืองแบบทักษิณมักใช้คำใหญ่ๆ ปกปิดเป้าหมายทางการเมืองอันคับแคบของผู้พูด เช่น คำว่า “ผลประโยชน์แห่งชาติ”, “ความสงบสุขสามัคคี”, “ประชาชนส่วนใหญ่”, ฯลฯ ยิ่งเป้าหมายแคบ คำก็ยิ่งใหญ่ เพราะจะได้ห่อปิดความไม่ชอบธรรมของเป้าหมายให้มิดชิดมากขึ้น

– เห็นต่างเป็นศัตรู

ภายใต้วัฒนธรรมการเมืองแบบทักษิณ ผู้เห็นต่างจากท่านผู้นำล้วนถือเป็นศัตรูของชาติ ศัตรูเหล่านี้มักถูกกล่าวหาว่ารับจ้างจากผู้ไม่ประสงค์ดีมาบ่อนทำลายชาติหรือไม่ก็ถูกเขาหลอกใช้

– กำจัดศัตรูไม่เลือกวิธีการ

การเมืองแบบทักษิณชอบเปรียบเปรยทำนองว่าประเทศเป็นเสมือนเรือท่ามกลางพายุ ทุกคนมีหน้าที่ร่วมกันพายส่งรัฐนาวาไปสู่เป้าหมาย ส่วนฝ่ายค้านก็เปรียบให้เป็นผู้บ่อนทำลายเรือ ในขณะที่ผู้ไม่ให้ความร่วมมือก็เป็นพวกเอาเท้าราน้ำ ซึ่งนอกจากจะหนักแผ่นดินแล้วยังทำให้ประเทศไม่สามารถรอดพ้นจากลมพายุ ดังนั้น การปราบปรามคนเหล่านี้จึงถือว่าชอบธรรม ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม

สิ่งที่ควรทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นคือการเมืองแบบทักษิณไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวคุณทักษิณ ในทางกลับกัน วัฒนธรรมดังกล่าวที่ฝังลึกอยู่ในจิตสำนึกของเราๆ ท่านๆ ต่างหาก ที่เป็นพื้นฐานให้เรายอมรับคนแบบคุณทักษิณโดยไม่รู้ตัว หากพิจารณาเส้นทางอำนาจของคุณทักษิณ จะเห็นได้ว่าคุณทักษิณก็ไม่ต่างจากผู้นำอำนาจนิยมคนอื่นๆ ทั่วโลก กล่าวคือนอกจากมีความสามารถและเล่ห์เหลี่ยมแล้ว ยังต้องมีเสียงสนับสนุนจากประชาชนเป็นบันไดขั้นสุดท้ายสู่ความบ้าอำนาจ

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ชนชั้นกลางซึ่งเป็นชนชั้นที่เสียงดังและมีศักยภาพในการตรวจสอบเช็คบิลรัฐบาล พร้อมใจกันสรรเสริญว่าคุณทักษิณคือมหาบุรุษที่จะนำพารัฐนาวาไทยไปสู่ความรุ่งเรือง ความเชื่อนี้คือทางหนีไฟที่ช่วยคุณทักษิณรอดพ้นจากปัญหาที่ตนก่อไว้มานักต่อนัก อีกทั้งยังสนับสนุนพฤติกรรมนอกลู่นอกทางของคุณทักษิณอย่างโจ่งแจ้ง

นักวิชาการที่วิพากษ์วิจารณ์คุณทักษิณในช่วงนั้นถูกหาว่าเป็นพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ สมัยทนายสมชาย นีละไพจิตร หายตัวไปใหม่ๆ คนจำนวนมากรวมถึงสื่อมวลชนหลายท่านก็โจมตีว่าคุณสมชายเป็นผู้ก่อการร้าย เอ็นจีโอหรือชาวบ้านที่คัดค้านโครงการรัฐก็ถูกกล่าวหาว่ารับเงินนายทุนเมืองนอก เมื่อต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์ เราก็ช่วยกันปกป้องว่าประเทศเราไม่เหมือนที่อื่น หรือไม่ก็พยายามอธิบายว่าเขาว่าเพราะเขาจะบ่อนทำลายประเทศเรา

ถ้าใครจำกันได้ นักกิจกรรมเสื้อเหลืองบางคนในอดีตถึงกับเคยประกาศว่าผู้ที่ตั้งคำถามเรื่องประวัติความเป็นมาอันไม่โปร่งใสของคุณทักษิณถือเป็นศัตรูกับพี่น้องแรงงานไทยทั้งชาติ

ต่อมาเมื่อกลิ่นไม่ดีของรัฐบาลทักษิณหนึ่งเริ่มโชย เราก็ยังคงปกป้องว่าสิ่งไม่ดีที่คุณทักษิณทำเป็นเรื่องที่ดี หรือไม่ก็เห็นว่าไม่ได้ตั้งใจทำ หรือว่าทำเพราะจำเป็น สุดท้ายความเชื่อในความเป็นมหาบุรุษของคุณทักษิณก็ส่งคุณทักษิณขึ้นสู่อำนาจเป็นครั้งที่สองด้วยคะแนนนิยมถล่มทลาย

ณ บรรยากาศและเสียงเชียร์แบบตอนนั้น อย่าว่าแต่คุณทักษิณเลยครับ คนไม่บ้าอำนาจที่ไหนมาเป็นนายกฯ อยู่ๆ ไปสักพักก็คงหลุดเหมือนกัน เราทุกคนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้คุณทักษิณใช้การเมืองแบบทักษิณทำลายกลไกตรวจสอบในระบบและพลังฝ่ายค้านในสังคมจนเหี้ยน

เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณทักษิณใช้อำนาจสวนทางกับความคิดและผลประโยชน์ของเรามากขึ้นเรื่อยๆ เราก็เกลียดคุณทักษิณ แต่ยังคงสมาทานการเมืองแบบทักษิณ จึงหันไปศรัทธามหาบุรุษคนใหม่ ที่มาพร้อมกับคำใหญ่ๆ คำใหม่อย่างคำว่า “กู้ชาติ” ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ผิดหวังกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะ คมช. ไม่สามารถถอดรากถอดโคนการเมืองแบบทักษิณ แต่เป็นเพราะ คมช. ไม่สามารถใช้การเมืองแบบทักษิณกำจัดคุณทักษิณได้อย่างเด็ดขาดต่างหาก

ต่อมาเมื่อคุณทักษิณไม่ตายและกลับมาอีกครั้ง เราก็ตัดสินใจถวายอำนาจให้มหาบุรุษคนใหม่มา “ปฏิรูปประเทศไทย” เช่นเคยครับ เรายอมหลับตาให้กับประวัติอันด่างพร้อยของคณะผู้นำคนใหม่ ยอมมองข้ามการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยประณามผู้เห็นต่างทั้งภายในและภายนอกประเทศไม่ต่างจากที่คุณทักษิณและกองเชียร์เคยทำ คำถามต่างๆ ที่มีต่อท่านผู้นำก็กลายเป็นภัยต่อบ้านเมืองเหมือนสมัยคุณทักษิณไม่มีผิด

ค่าเสียโอกาสของการเลือกใช้การเมืองแบบทักษิณ คือโอกาสในการปฏิรูปประเทศไทยด้วยพลังของประชาชน ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะนำเราไปสู่การปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง การปฏิรูปที่ว่าก็เช่นการใช้พลังประชาชนมุ่งรักษาหลักสิทธิเสรีภาพไม่ให้ใครละเมิดในทุกเงื่อนไข เพื่อคุ้มหัวประชาชนจากผู้มีอำนาจ สร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมและตรวจสอบรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนที่เห็นต่างกันได้เข้ามาต่อรองหาข้อสรุประหว่างกัน รวมถึงตรวจสอบผลักดันให้อำนาจรัฐถูกใช้ไปในทางที่ถูกที่ควร แล้วเมื่อใดพบว่าระบบมีปัญหา ก็พยายามใช้กระบวนการที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาแก้ไขปัญหาในระบบ

ในแง่นี้ ม็อบพันธมิตรเสียโอกาสที่จะเป็นขบวนการประชาชนที่สามารถไล่รัฐบาลฉ้อฉลอำนาจล้นฟ้าได้ด้วยวิธีของประชาชน ในขณะที่ กปปส. ก็เสียโอกาสที่จะกลายเป็นพลังผลักดันประเทศไปสู่การปฏิรูปต้านคอร์รัปชันด้วยวิธีของประชาชน

ดังนั้นต่อให้คุณทักษิณตายก็เถอะครับ การเมืองแบบทักษิณและทักษิณคนใหม่ก็จะตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และอยู่กับเราไปอีกนาน