ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ไว้อาลัยเรือเซวอลล่มในเกาหลีใต้” และ “ตามหาความจริงเจ้าของฉายา “นาตาลีร้อยหน้า”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “ไว้อาลัยเรือเซวอลล่มในเกาหลีใต้” และ “ตามหาความจริงเจ้าของฉายา “นาตาลีร้อยหน้า”

19 เมษายน 2014


ตามหาความจริงเจ้าของฉายา “นาตาลีร้อยหน้า”
เปิดศึกออนไลน์ “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน”
ไว้อาลัยเรือเซวอลล่มในเกาหลีใต้
จับ ชัช บอดี้แสลม งัดห้องสาว
พ่อแม่แจ้งจับ โรส ฉัตรวดี คดีหมิ่นเบื้องสูง

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 13-19 เมษายน 2557

ประเด็นฮอตเรื่องแรก เป็นชื่อที่มีผู้พูดถึงอย่างมากในช่วงสัปดาห์นี้กับ “นาตาลีร้อยหน้า” ที่มีภาพหลุดแต่งสาว เที่ยวกลางคืน และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมาให้ได้เห็นตามหน้าเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋” จนเป็นกรณีให้ชาวพุทธออกมาเรียกร้อง ให้ตามหาตัว เพราะหวั่นจะเกิดผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา เนื่องจากมีข้อมูลเปิดเผยว่า ตัวตนเจ้าของฉายาดังกล่าวเป็นพระ ชื่อว่า พระมหานภัทร์สรณ์ อยู่ ณ วัดแห่งหนึ่งอักษรย่อ ม. ใจกลางกรุงเทพมหานคร (ตามรายงานข่าวไม่เปิดเผยชื่อวัด)

ตามรายงานจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ประจำวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2557 ได้โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ นาตาลี หรือ โฟกัส อายุ 21 ปี ซึ่งให้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันตนเองทำงานเป็นพริตตี้อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมยอมรับว่าภาพที่นุ่งเหลืองเป็นพระ คือ ภาพของตนเองจริง เนื่องจากตนเคยบวชเป็นพระเมื่อปี 2551 สมัยบวชก็ได้เรียนเป็นนักธรรมจนสอบผ่านถึงขั้นนักธรรมเอก ยืนยันว่า ขณะบวชพยายามปฏิบัติตนไม่ให้ผิดพระธรรมวินัยใด และได้สึกมา 2 ปีแล้ว เพราะอยากมาใช้ชีวิตสาวประเภทสอง ซึ่งหลังจากสึก จึงได้เดินทางมาทำงานที่จังหวัดภูเก็ต และใช้ช่วงเวลาไปปฏิบัติธรรม โกนหัวนุ่งขาวห่มขาวที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่ได้เผยแพร่ภาพดังกล่าว ภาพแต่ละภาพเกิดขึ้นต่างช่วงเวลา อาจเป็นการกลั่นแกล้งเพราะไม่ต้องการให้กลับมาบวชเป็นพระอีกครั้งก็เป็นได้

ที่มาภาพ : http://board.postjung.com760411.html
ที่มาภาพ: http://board.postjung.com760411.html

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นของวันดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยข้อมูลจากพระครูสมุห์ธัชพงศ์ภณ กตปุญโญ ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่หอพักนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากเห็นข่าวดังกล่าวและรู้สึกไม่สบายใจ อยากเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาว่าปัจจุบัน โฟกัส หรือภิกษุที่เห็นในภาพยังบวชเป็นพระอยู่ และศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 คณะสังคมศาสตร์ โดยลงทะเบียนเป็นนิสิตครั้งแรกใช้ชื่อว่า พระมหาสมชาย และตอนหลังมาเปลี่ยนเป็นพระมหานภัทร์สรณ์ สังกัดวัดมกุฏกษัตริยาราม ซึ่งกำลังจะเข้ารับปริญญาในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุป เพียงแต่ต้องติดตามต่อว่าจะมีหลักฐานใดอีกหรือไม่อย่างไร แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ชาวโซเชียลสนใจและอยากจะค้นหาความจริงกันต่อ

“บวชทำไม ถ้าไม่ปลง ไม่เข้าใจ อย่าอยู่ในจีวรผ้าเหลือง ขอละประเทศไทยเป็นเมืองพุทธอย่าทำแบบนี้เลยเหมือนทำลายศาสนา”

“เพื่อนในเฟสเขาก็แบบนี้ทั้งนั้นเลยนะ ได้ข่าวมา”

“คนไทยชาวพุทธมากกว่า 50% ทำลายศาสนาตัวเองโดยไม่รู้ตัว”

“ถ้าบวชแล้วประพฤติดีประพฤติชอบ คงจะไม่ขัดอะไร แต่ถ้าบวชแล้วยังทำแบบนี้ ก็อย่าบวชให้เป็นมารศาสนา หากินในคราบผ้าเหลืองอีกเลยค่ะ ใจจริงก็อยากจะบวชเพื่อหาความสงบสุขเหมือนกันค่ะ แต่เกรงว่าภาพลักษณ์ของศาสนาจะเสื่อมเพราะเราคนเดียว เลยขอเป็นคนดี ทำประโยชน์ให้ส่วนรวม ว่างๆไปปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาวบ้าง แบบนี้ยังน่าจะดีกว่าค่ะ”

“สงสัยว่าพ่อแม่บังคับให้บวชหรือป่าว เป็นตุ๊ดเป็นแต๋วเขาอยากจะบวชหรอ ขนาดผู้ชายทั้งแท่งหลายๆคนยังไม่ค่อยอยากบวชเลย ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้”

“พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในวินัยสงฆ์ ห้ามบัณเฑาะห์ (กระเทยหรือพวกชายรักชาย) บวช ที่ปรากฏในพระวินัย มีกระเทยคนหนึ่งเข้าไปบวช ก็ไปเที่ยวใล่จีบพระจีบเณร สร้างความเดือดร้อนให้คณะสงฆ์ พระพุทธองค์จึงประกาศในพระธรรมวินัย ห้ามบวชให้คนผิดปกติทางเพศ คือ พวกอุปสัมบัณและบันเฑาะห์ แปลว่า พวกผิดปกติทั้งทางกายหรือทางจิตใจ ถ้าบวชแล้วต้องสึก อุปัชฌาญะก็ต้องไปปลงอาบัติด้วย”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สอง ระเบิดศึกโลกออนไลน์ เมื่อ พล.ต. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ทำการก่อตั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ชื่อ “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 โดยได้ขึ้นข้อความไว้ที่ส่วนบนของแฟนเพจว่า “มาตรา 8 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ข้าพระพุทธเจ้า จะจงรักภักดี และถวายคววามปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่” พร้อมขึ้นสโลแกนอย่างชัดเจนว่า “ขจัดพวกหมิ่นให้สิ้นซาก”

ที่มาภาพ : https://www.facebook.comthaigoldmedal
ที่มาภาพ: https://www.facebook.comthaigoldmedal

ตามรายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจนี้มีวัตุประสงค์เพื่อกวาดล้างกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมหมิ่นสถาบัน โดยที่ พล.ต. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ยังได้มีการประกาศข้อความไว้ด้วยว่า

“ประกาศพร้อมทำสงคราม Cyber War !!!
เนื่องด้วยขณะนี้ มีการประกาศระดมพล เพื่อที่จะเข้ามาโจมตีเพจ “องค์กรกำจัดขยะแผ่นดิน” ของเรา ในวันนี้ 18 เมษายน 2557 ตั้งแต่ เวลา 20.30 น. ดังนั้นจึงขอให้สมาชิกองค์กรทุกท่านเตรียมความพร้อมดังนี้
1. เพิ่มจำนวนสมาชิก กด Like เพจให้มากยิ่งขึ้น พร้อมรับการโจมตีจากฝ่ายตรงกันข้าม ด้วยการเชิญเพื่อน ๆ ทุกคนที่มีใจรักชาติ รักในหลวง ให้เข้ามากด Like เพจของเรานี้ให้ได้มากที่สุด
2. ทุกท่านเตรียมพร้อมที่หน้าเพจของเรานี้ ในเวลาตั้งแต่ 20.00 น. เป็นต้นไปเพื่อปะทะ และตอบโต้ มัน รวมทั้งการไปทำ report page ของมันด้วยกำลังเราที่เหนือกว่า และ
3. รอรับคำสั่งเพื่อปฏิบัติการเชิงยุทธวิธีต่อไป”

จนมียอดเกือบ 1 แสนไลค์ พร้อมทั้งยังมีผู้ที่เข้าไปร่วมแสดงความคิดทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการลงชื่อ แชร์ และโพสต์รูปภาพต่อกันอย่างมาก ซึ่งในส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจนี้ อาจจะยิ่งสร้างความแตกแยกให้คนในสังคมเพิ่มมากไปอีก

“ผมเสื้อแดงตัวจริงไม่ได้เป็นขี้ข้าทักษิณ ไม่ขึ้นตรงกับใคร ไม่เคยละเมิดและหมิ่นศาลฯ ไม่เคยปล้นฆ่า เผาบ้านเผาเมือง เรายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ขอสนับสนุนกำจัดเหลือบไรสังคมพวกแดงหมิ่นฯจ้องโค่นล้มสถาบันฯและความมั่นคงของชาติด้วยคนครับ กว่าสามพันโครงการในพระราชดำริล้วนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนคนไทย ..ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”

“เรารักในหลวงพระองค์รักพสกนิกรของท่านเสมอพสกนิกรชาวไทยลำบากแม้จะอยู่ในถิ่นทุรกันดารท่านก็เสด็จไปโครงการต่างๆ ที่ท่านประทานให้คนไทยก็ใช้ทรัพย์สินส่วนพระองค์ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน”

“สถาบันพระมหากษัตริย์คือหัวใจของชาติไทย ใครก็ตามที่หมิ่นสถาบันฯก็เหมือนเอามีดมาปักหัวใจคนไทยที่แท้จริง ขอให้มีอันเป็นไปทุกๆชาติเทอญ”

“ช่วยแชร์ พอคุณแชร์ กลุ่มเพื่อนคุณก็จะเห็นด้วย ให้ชวนกันมาช่วยกันครับผม หลายคนที่หมิ่นในหลวง ปล่อยให้มีมานานไปแล้ว จนประชาชนทนไม่ไหว มารวมตัวกันนี่ไงครับ อย่าไปหวังพึ่งใครเลย เราสามัคคีกันนี่แหละ อาจจะถึงการปฏิรูป วันหนึ่งข้างหน้า เรางดจ่ายเงินภาษี และ ตัดงบประมาณ ไม่ให้เอาไปใช้กันก็ได้ครับ ถ้าประชาชนไม่ชอบขึ้นมา เราต้องปฏิรูปแน่นอนครับ”

“ขยะมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง พวกเราทุกคนต้องช่วยกันเก็บ บ้านเมืองนี้จะมีแต่ความบริสุทธ์เมื่อปราศจากขยะ เก็บแล้วทิ้งในถังเหลืองหรือถังเขียวเพราะขยะเหล่านี้ไม่ต้องนำกลับมารีไซเคิล ต้องทำลายสถานเดียว”

“พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการจัดงาน “วันรพี” ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๑๖ “อันกฎหมายนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบ้านเมือง เพราะว่าเป็นหลักของการอยู่ร่วมกันในชาติบ้านเมือง เพื่อให้การอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อย และให้ทุกคนที่อยู่ในชาติสามารถที่จะมีชีวิตรุ่งเรืองโดยไม่เบียดเบียนกัน กฎหมายมีไว้สำหรับให้มีความสงบสุขในบ้านเมือง มิใช่กฎหมายมีไว้สำหรับบังคับประชาชน ถ้ามุ่งหมายที่จะบังคับประชาชนก็กลายเป็นเผด็จการ กลายเป็นสิ่งที่บุคคลหมู่น้อยจะต้องบังคับบุคคลหมู่มาก ในทางตรงข้าม กฎหมายมีไว้สำหรับให้บุคคลส่วนมากมีเสรี และอยู่ได้ด้วยความสงบ บางทีเราตั้งกฎหมายขึ้นมาก็ด้วยวิชาการ ซึ่งได้มาจากต่างประเทศ แต่วิชาการนั้นอาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือท้องที่ของเรา ถ้านักกฎหมายศึกษาในทางกฎหมายโดยแท้ ไม่ได้สนใจในปัญหาที่แท้จริง มัวแต่มาดูทางทฤษฎีของกฎหมายก็จะไม่เกิดประโยชน์ได้ แต่ถ้านักกฎหมายหรือที่สนใจกฎหมายได้ไปดูข้อเท็จจริงต่าง ๆ กฎหมายจะช่วยให้บ้านเมืองมีความเรียบร้อย”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สาม จากกรณีเรือเฟอร์รีเซวอล ล่มลงกลางทะเลห่างจากชายฝั่งเกาะบยุงพูงของเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2557 ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย เดินทางไปทัศนศึกษาที่เกาะเจจู สร้างความเศร้าเสียใจให้กับบรรดาผู้ปกครอง และผู้ที่ได้รับข่าวสารเป็นจำนวนมาก โดยภายในวันดังกล่าว ชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจ และไว้อาลัยให้เหตุการณ์ครั้งนี้กันนอย่างมากมาย

โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2557 จำนวน 28 ราย แต่คาดว่าอาจจะมีเพิ่มขึ้น เพราะยังมีอีกหลายศพที่ยังไม่ลอยเหนือน้ำ จึงทำให้มียอดผู้สูญหาย 268 ราย จากผู้โดยสารบนเรือทั้งสิ้น 475 คน นอกจากนี้ตามรายงานข่าวยังมีการแจ้งด้วยว่า ภายในเรือเซวอลมีเรือชูชีพกว่า 44 ลำ แต่ละลำสามารถบรรจุผู้โดยสารได้ราว 25 คน ซึ่งหากกัปตันและเจ้าหน้าที่บนเรือนำเรือออกมาใช้ ก็จะสามารถช่วยผู้โดยสารบนเรือให้หนีออกจากตัวเรือได้อย่างปลอดภัยทุกคน แต่กัปตันและเจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำ กลับประกาศให้ผู้โดยสารอยู่นิ่งๆ รอความช่วยเหลือจากภายนอก

ที่มาภาพ : http://www.talkystory.comp=83583
ที่มาภาพ: http://www.talkystory.comp=83583

อย่างไรก็ตาม กัปตันเรือได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยสวมเสื้อคลุมแบบมีฮู้ดปกปิดใบหน้าตัวเองไว้ พร้อมกับกล่าวคำขอโทษผ่านสื่อโดยไร้คำแก้ตัว นอกจากนี้ยังมีเรื่องสลดใจเกิดขึ้นอีกเมื่อนายกัง มิน คิว รอง วัย 52 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน ดันวอน ซึ่งเป็นผู้ได้รับการช่วยเหลือให้รอดชีวิต เกิดอาการเครียดจัด ผูกคอตายกับต้นไม้ ซึ่งก็ยิ่งสร้างความเศร้าเสียใจให้กับคนที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก

“ผมมองว่าไม่ใช่ความผิดกัปตันซะทีเดียว เพราะต้องวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน เผื่อให้คนไม่แตกตื่น และเรือก็เอียงอย่างรวดเร็ว ไม่มีทางที่จะเตรียมเรือชูชีพได้ทัน มันไม่เหมือนไททานิคที่มีเวลาเตรียมหย่อนเรือ เรือเอียงข้างเร็วขนาดนี้ หย่อนเรือชูชีพให้พอดีผิวน้ำและให้คนขึ้นไปได้ มันไม่ง่ายนะครับ”

“เสียใจกับชาวเกาหลีด้วยครับ ขอให้ทุกดวงวิญญาณ ไปสู่สุขติ”

“ขอให้มีผู้รอดชีวิตเพิ่มด้วยเถอะ”

“ขอให้ความช่วยเหลือจงประสบความสำเร็จช่วยชีวิตผู้โดยสารให้มากที่สุดด้วยเถิด”

“คือตอนนี้เรือยังไม่จมมิดใช่มั้ยคะ ยังปริ่ม ๆ อยู่ น่ากลัวอ่ะ น้ำเย็นมากด้วย RIP ผู้เสียชีวิตค่ะ และขอให้ผู้สูญหายได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยทุกคน”

“น่ากลัวจริงๆ ขอให้ยังพบผู้รอดชีวิตนะคะ เป็นเด็กอยู่เเท้ๆ ต้องมาเจอเรื่องโชคร้ายเเบบนี้ ถามหน่อยซิคะยังมีโอกาสที่ผู้โดยสารจะรอดอยู่ไหม ตอนนี้เรือมันคว่ำหงายไปเเล้ว คนที่อยู่ในห้องนั้นจะเป็นอย่างไง ไหนน้ำจะเข้าอีก เเต่ขอว่ากัปตันหน่อยได้ข่าวว่าหนีไปถ้าจริงก็เป็นคนที่เเย่มาก ทิ้งผู้โดยสาร เเล้วเป็นเด็กตั้งหลายคนได้อย่างไร เเถมได้ข่าวบอกให้เด็กมารวมอยู่ในห้องหนึ่ง เเทนที่จะบอกให้ไปดาดฟ้ามันจะดีกว่านี้ไหม ทิ้งไว้ที่ห้องถ้ากู้ภัยมาช้า น้ำเข้ามาท่วมก่อนออกจากห้องกันไม่ได้จะเป็นไงนี่”

ประเด็นฮอตเรื่องที่สี่ เมื่อนักดนตรีวงดัง ชัช มือกลองของวงบอดี้สแลม หรือนายสุชัฒติ จั่นอี๊ด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจคันนายาวแจ้งจับในข้อหาเมาสุราและบุกเข้าห้องหญิงสาวรายหนึ่งภายในคอนโดย่านคันนายาว โดยที่หญิงสาวผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโด ที่แสดงให้เห็นว่ามือกลองวงดังกำลังงัดแงะประตูห้องดังกล่าว โดยที่หญิงสาวผู้เสียหายบอกว่าตนจะไม่ยอมความ เนื่องจากไม่ต้องการให้ฝ่ายชายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวกับคนอื่นอีก(ดูคลิป)

นอกจากนี้ในโลกออนไลน์ยังได้มีการเผยแพร่ภาพ “ชัช บอดี้สแลม” ในลักษณะก้มหน้าเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมชูนิ้วกลางออกมาข้างๆ หมวก ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าน่าจะเป็นภาพบังเอิญ เพราะไม่ได้ตั้งใจ หรือสื่อความหมายในเชิงไม่ดี โดยที่หลังจากนั้นข่าวยังรายงานว่า อินสตาแกรมส่วนตัวของชัชที่ใช้ชื่อว่า shutt666 ได้มีการโพสต์ภาพ sorry พร้อมข้อความว่า “ผมไม่เคยคิดร้ายกับใคร” โดยมีแฟนคลับโพสต์ให้กำลังใจกันอย่างมากมาย

ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด  ที่มาภาพ : http://www.soccersuck.comboardstopic990729
ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด ที่มาภาพ: http://www.soccersuck.comboardstopic990729

“ส่วนตัวชอบพี่ตูนมาก เเต่ถ้าเเยกรายคน มือกลองชัชเนี่ยดูไม่ค่อยจะมีวิถีเเนวๆ เท่าไหร่เหมือนขี้เมาโปกฮาบ้าความดังไปเรื่อยเพราะมีเเต่ข่าวไม่ดี ดูเเอ็คมาก”

“อย่าเพิ่งโวยวายครัช ใจรุ่มๆ เดี๋ยวเค้าก็ออกมาโต้ขาวกันเองแหละครับ”

“นิสัยดาราผู้ชาย แบบนี้ทั้งนั้น คิดว่าผู้หญิงจะยอมง่ายๆ เพราะความมีชื่อเสียงของเขา”

“อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้ ใจเย็นๆ นะคะ พี่ชัชสู้ๆ คะ”

“ดูจากคลิปงงจัง เห็นแค่พยายามเปิดห้อง ไม่เห็นมีอะไรมากกว่านั้นเลย แอบงงอีกที”

ประเด็นฮอตเรื่องที่ห้า ประเด็นหมิ่นเบื้องสูงอีกราย เมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอของสาวไทยในต่างแดนที่ชื่อ โรส ฉัตรวดี อมรพัฒน์ อายุ 34 ปี ช่างทำผมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีการถ่ายคลิปตัวเอง ที่พูดจากล่าวพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง ทั้งยังมีการทำท่าทางดูหมิ่นประกอบ รวมทั้งหมด 7 คลิป จนมีผู้กล่าวถึงกันอย่างมากมาย เพราะอยากให้ทางการดำเนินการจับ และปราบกลุ่มผู้ที่หมิ่นสถาบันให้สิ้น

ล่าสุดร้อนถึงผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ทนกับพฤติกรรมของลูกสาวตนเองไม่ไหว ต้องออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับลูกของตนเอง โดยตามข่าวรายงานว่า นายสุรพงศ์ อมรพัฒน์ อายุ 67 ปี ผู้เป็นบิดา และนางสมจินตนา อมรพัฒน์ อายุ 59 ปี มารดา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ที่กองบังคับการปราบปราม พร้อมหลักฐานคลิปวิดีโอทั้ง 7 คลิป เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ลูกสาวคนเล็กของตนเอง ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง

ที่มาภาพ : http://www.chaoprayanews.com20140416237691
ที่มาภาพ: http://www.chaoprayanews.com20140416237691

พร้อมทั้งให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นมา ทั้งสองได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ทั้งถูกต่อว่าและโทรศัพท์มาคุกคาม สาเหตุจากคลิปของลูกสาวที่หมิ่นเบื้องสูง ทั้งยังได้เคยเตือนลูกสาวแล้ว แต่โรสก็ไม่ฟัง ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอยู่ เนื่องจากได้สัญชาติอังกฤษ ลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่นมานานแล้ว พร้อมทั้งวอนให้สังคมเห็นใจ ว่าการที่ลูกกระทำผิด พ่อแม่ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย ทั้งยังได้ตักเตือนไปแล้วด้วย

“คนอังกฤษเขารักสถาบันนะ แต่ทำไมสามีโรส เมียแบบนี้ แม้แต่ราชินีของทางอังกฤษ เขายังชื่นชม เคารพในหลวงเราเลย”

“น้องเขาทำตัวเองมีคนเตือนก็ไม่เชื่อฉะนั้น โตแล้ว ตัดสินใจทำเอง ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าพ่อแม่ตักเตือนแล้วแต่ไม่ยอมฟังก็อย่าไปตำหนิพ่อแม่เขาเลย มันคนละคนกัน รู้สึกดีมากๆที่พ่อแม่ของน้องเขาไม่นิ่งดูดาย. ”

“คุณพ่อคุณแม่ช่างเป็นคนดีจริงๆค่ะ และเสียใจด้วยนะค่ะ ที่มีลูกสาวแบบนี่”

“สุดท้ายนี้ขอให้เธอผู้นี้จงอย่าได้กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยอีกเลย และขอให้อย่าได้มีแผ่นดินจะอยู่เลย”

“พ่อแม่สอนแล้วไม่ฟัง ก็คงเป็นกรรมของครอบครัวและของลูกเองแล้วที่เหลือ (ธรรมจัดสรร)”

“เจ้าหน้าที่จะตรวจไรอีกเยอะแยะ หลักฐานทั่วอินเตอร์เน็ต รีบๆ จัดการสักทีเหอะ”