ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “Shut Down Bangkok” สุเทพพบสันติสุข และกลุ่มเสื้อขาวจุดเทียนหยุดความรุนแรงหนุนเลือกตั้ง

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – “Shut Down Bangkok” สุเทพพบสันติสุข และกลุ่มเสื้อขาวจุดเทียนหยุดความรุนแรงหนุนเลือกตั้ง

18 มกราคม 2014


“Shut Down Bangkok” 13 มกราคม 2557

กลุ่มเสื้อขาว จุดเทียนแสดงพลังรณรงค์หยุดใช้ความรุนแรง สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง

ลือมั่ว!! แหม่ม จินตหรา ถูกการ์ด กปปส. ข่มขืน

ชาวเน็ตแชร์ภาพ ชวนอมยิ้ม “สุเทพพบสันติสุข”

แชร์สนั่น คลิปชายรักชายคุกเข่าขอแต่งงาน

อ่านต่อ…..

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 12–18 มกราคม 2557

เรื่องแรก วันสำคัญปฏิบัติการ “Shutdown Bangkok” (ปิดกรุงเทพฯ) วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2557 โดย กลุ่ม กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) นำทีมโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากรักษาการ พร้อมนำไปสู่การปฏิรูปประเทศโดยประชาชน ซึ่งก็มีกระแสตื่นตัวจากชาวกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ที่ทยอยกันเดินทางมาร่วมชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก โดยปฏิบัติการปิดกรุงเทพมหานครมีจุดตั้งเวทีหลักด้วยกัน 7 จุด ได้แก่ 1. หน้าศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ 2. ห้าแยกลาดพร้าว 3. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 4. แยกปทุมวัน 5. สวนลุมพินี 6. แยกอโศก และ 7. แยกราชประสงค์

แกนนำประกาศว่า จะพยายามทำให้คนกรุงเทพฯ​เดือดร้อนน้อยที่สุด เพราะมีเป้าประสงค์เพียงเพื่อให้ข้าราชการหยุดทำงาน ให้การสั่งการของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว และก็เป็นไปตามคาด ระบบการทำงานของรัฐบาลหลายแห่งต้องหยุดทำการนานร่วมอาทิตย์ ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ แม้ความตั้งใจกดดันเพียงครั้งแรกจะแค่เพียง 1 ถึง 2 วัน แต่ด้วยความที่นายกรัฐมนตรียังคงยืนยันที่จะรักษาการให้มีการเลือกตั้งต่อไป ทำให้ ณ วันนี้กลุ่ม กปปส. ยังคงปักหลักชุมนุมตามที่ต่างๆ กันตลอดทั้งสัปดาห์

ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)

โดยประชาชนภาคเอกชนหลายแห่งที่ยังคงต้องปฏิบัติงานตามปกติก็เร่งรีบเตรียมความพร้อมหาเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่คาดว่าจะเป็นอัมพาตหนักกันตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ แต่ก็ต้องยิ้มแก้มบานเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 13 มกราคม การจราจรกลับตรงกันข้าม ถนนโล่งวิ่งได้อย่างสบายใจ จะมีชะลอตัวบ้างเมื่อใกล้กลุ่มผู้ชุมนุม หรือหลีกเลี่ยงไปเข้าเส้นทางตามตรอกซอกซอยต่างๆ จนทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครโล่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงวันจันทร์ถึงวันพุธ เพราะคาดว่าหลายคนคงหลีกเลี่ยงการใช้รถส่วนตัวมาใช้รถสาธารณะในการร่วมชุมนุม ซึ่งชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กเองต่างก็โพสต์ถึงปรากฏการณ์ถนนโล่งในกรุงเทพมหานครกันอย่างมากมาย ขนาดบางคนมีข้อความขำขันว่า “กรุงเทพฯ รถโล่งขนาดนี้ น่าให้กำนันสุเทพเป็นนายกฯ จริงๆ”

ทั้งนี้ สถานการณ์การชุมนุมในช่วง 2-3 วันแรกเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย เพราะมีประชาชนที่ให้ความสนใจร่วมแสดงเจตนารมณ์กันอย่างมากมาย ทั้งยกขบวนกันมาจากต่างจังหวัด หยุดงานกันเพื่อร่วมชุมนุม หรือแม้กระทั่งการเข้าร่วมชุมนุมหลังเลิกงาน ถึงขนาดสื่อดังของต่างชาติอย่างนิตยสารข่าวชื่อดัง The Diplomat ตีพิมพ์บทความการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของไทยว่าเป็นปรากฏการณ์แปลกใหม่ของโลก เนื่องจากเป็นการชุมนุมต่อต้านระบอบประชาธิปไตย ต่างจากการประท้วงที่เกิดขึ้นในชาติอื่นๆ เพราะมีการเคลื่อนไหวต่อต้านระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน บางสื่อก็มีการนำเสนอว่าเป็นการชุมนุมที่สนุกสนานคล้ายงานเฟสติวัล ที่มีผู้ไปร่วมและสร้างความสนุกสนาน ทั้งยังเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ต่างเข้าไปถ่ายภาพบรรยากาศพร้อมแชร์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมทั้งการเช็คอินเพื่อแจ้งสถานที่ จนเป็นกิจกรรมยอดฮิตของชาวโซเชียลกันไปแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์การชุมนุมเข้าวันที่ 5 คือวันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 ความตึงเครียดและเหตุการณ์นองเลือดก็ปรากฏ เมื่อเกิดเหตุมีมือมืดเข้าปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ถนนบรรทัดทอง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 31 คน ซึ่งในบรรดาผู้บาดเจ็บ มีผู้ชุมนุมชายจากนครศรีธรรมราชได้รับเจ็บสาหัสจนหยุดหายใจชั่วขณะก่อนที่แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีจะช่วยยื้อชีวิตได้ แต่อาการล่าสุดก็ยังไม่รู้สึกตัว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทำให้แกนนำอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายอีกครั้ง พร้อมแสดงความเสียใจที่ประชาชนต้องได้รับบาดเจ็บ และยืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลคนบาดเจ็บทุกคน อีกทั้งยังยืนยันที่จะสู้ต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และประกาศเดินขบวนต่อในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2557 เวลา 10.00 น. และขอให้ประชาชนร่วมกันปิดสถานที่ราชการทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดไป

“ไม่รู้สินะ รู้แต่ว่ายุคสมัยนี้ เสียงประชาชนเป็นใหญ่ที่สุด ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าฟันธงหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น “ประชาชนเท่านั้น…ที่จะเป็นผู้ตัดสิน””

“ปิดกรุงเทพฯ เป็นเดือนก็ไม่เสียหายถึง 2 ล้านล้าน เป็นหนี้ 50 ปี หรอก ปิดไปเถอะ”

“ผมอยากให้มีเลือกตั้งเหมือนกัน แต่หากไม่แก้กติกาบ้าง พวกนักการเมืองที่ไม่ดี หน้าเดิม(ทุกพรรค) ก็เข้ามาอีก”

“ต่างคนต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน นักเรียนไม่ได้เรียนแค่ 2-3 ยังดีกว่าเสียชาติให้คนที่ไม่รู้จักพอ”

“สนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ2557 แต่ไม่ต้องการนักการเมืองหน้าเดิมๆ ที่ดูถูกคนชนบทด้วยการเอาเงินให้หัวคะแนนไปซื้อเสียง”

“ขอให้ทุกคนปลอดภัย แค่ความเห็นต่างทางการเมือง และการแสดงออกแบบเงียบสงบของคนกลุ่มหนึ่ง เขาก็รักชาติ รักแผ่นดินเหมือนกับพวกคุณ ทำไมต้องลอบทำร้ายคนบริสุทธิ์ด้วย เห็นต่างไม่ใช่เรื่องใหญ่ ในเมื่อยืนยันว่ารักชาติเหมือนกัน ทุกอย่างน่าจะมีจุดที่ตกลงกันได้แบบสันติวิธีทำไมต้องมาลอบทำร้ายผู้ชุมนุม กลับกันเสื้อแดงชุมนุมเสื้อขาวชุมนุมมีใครไปลอบทำร้ายบ้างไหม คนไทยด้วยกันทำไมเอาแค่ความแตกต่างทางความคิดมาเคียดแค้นเข่นฆ่ากันไม่เข้าใจ”

เรื่องที่สอง ในขณะที่กลุ่ม กปปส. มีการรวมตัวปิดกรุงเทพมหานครกันหลายจุด ก็มีอีกกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันสวมชุดขาวมาเพื่อเรียกร้องสันติภาพ ซึ่งนำทีมโดยอดีตแกนนำเสื้อแดงที่เรียกให้ประชาชนในหลายๆ จังหวัดออกมาแสดงพลังพร้อมจุดเทียนสันติภาพใจ รณรงค์หยุดใช้ความรุนแรง และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งยังมีการกล่าวปราศรัยถึงเรื่องที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้สร้างความแตกแยกให้กับประชาชน โดยที่ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ก็มีการจัดการชุมนุมที่บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็มีประชาชนเข้าร่วมแสดงพลังเพื่อยุติการใช้ความรุนแรงและแสดงเจตนารมณ์ที่จะให้มีการเลือกตั้ง โพสต์ภาพและข้อความการรณรงค์นี้กันตามหน้าเฟซบุ๊ก เพื่อให้หยุดการชุมนุมและยอมรับในการเลือกตั้ง

สำหรับคำแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม มีรายละเอียดตามที่สื่อนำเสนอดังนี้

1. เราไม่ต้องการให้คนไทยแตกแยกกัน
2. เราต้องการเลือกตั้งจะได้ใช้สิทธิ์เท่าเทียมกัน
3. เราไม่ต้องการรัฐประหาร
4. เราต้องการปฏิรูปเช่นกัน แต่ต้องเป็นการปฏิรูปผ่านระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเท่านั้น

http://images.voicecdn.net
http://images.voicecdn.net

“เขาก็อยากเลือกตั้งกันหมดนั่นแหละ แต่ขอปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เท่านั้นเอง”

“ไม่อยากเสียใจอีก ก็เลิกประท้วงสิ เมื่อเกิดการประท้วงแน่นอนคือ ต้องมีคนเจ็บและก็ตาย จะโทษใครไม่ได้”

“ประชาธิปไตย คือเสียงส่วนใหญ่ชองประเทศ”

“การเมืองให้อะไรกับประชาชน ความแตกแยกเกิดจากนักการเมืองแสวงหาอำนาจให้กับตัวเอง แทนที่ประชาชนมาร่วมมือกันตรวจสอบการทำงานของพวกนักการเมือง ดีกว่ามาทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างพูดในสิ่งที่ดีให้กับตัวเอง อาชีพนักการเมืองนั้นรวย กู้เงินแต่ละครั้งเข้ากระเป๋านักการเมืองก่อนถึงโครงการแต่ประชาชนต้องมานั่งใช้หนี้ให้แทนพวกนักการเมือง”

“จุดแล้ว อย่าลืมดับด้วยนะครับ เดี๋ยวมันจะไหม้ ศาลากลาง ห้างร้านต่างๆ!!”

“อยู่ในระบอบประชาธิปไตย ควรเคารพกฏของประชาธิปไตย การเลือกตั้งคือ สิ่งที่มาจากประชาธิปไตย”

เรื่องที่สาม เรื่องราวข่าวลือที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมของ กปปส. ซึ่งเป็นการชุมนุมที่มีดารานักแสดงร่วมแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองกันเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นก็มีนักแสดงสาวสวยตลอดกาล แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ร่วมอยู่ด้วย จนทำให้เกิดเป็นกระแสเมาท์ทั่วโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า แหม่ม จินตหรา ถูกการ์ด กปปส. ทำร้ายร่างกายและถูกข่มขืนนานกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อกลางดึกวันอังคารที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการปล่อยข่าวที่สร้างความเสียหายให้เจ้าตัวเป็นอย่างมาก

แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ที่มาภาพ httpmanager.co.thEntertainmentViewNews.aspxNewsID=9570000005749
แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์ ที่มาภาพ httpmanager.co.thEntertainmentViewNews.aspxNewsID=9570000005749

จนทำให้ทาง แหม่ม จินตหรา เองต้องรีบออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อเพื่อแก้ไขข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงดังกล่าว พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองได้ไปทานข้าวภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม และแวะเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณราชประสงค์ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่นาน มีคนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูปตามปกติ หลังจากนั้นจึงเดินไปขึ้นรถที่สยามสแควร์เพื่อกลับบ้านที่ตลาดสี่มุมเมือง โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นตามที่มีข่าวลือออกมา พร้อมทั้งกล่าวว่า จะสืบหาตัวคนปล่อยข่าวมาดำเนินการฟ้องร้อง เพราะถือว่าข่าวลือเรื่องถูกทำร้ายร่างกายและถูกข่มขืนเป็นข่าวที่ทำลายชื่อเสียงอย่างร้ายแรง อีกทั้งกำลังอยู่ในช่วงการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งก็ได้หลักฐานบางส่วนมาด้วยแล้ว

“คิดดีทำดี ก็เจอแต่สิ่งดีๆ พวกคิดร้าย คิดต่ำ ก็พูดได้แต่สิ่งต่ำๆ เพราะสมองไม่เคยยกระดับ คุณเป็นดาราตัวอย่างที่ออกมาปกป้องระบอบประชาธิปไตย ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ”

“ผู้ชุมนุมโปรดระวัง เพราะมีพวกชอบสร้างสถานการณ์ ปล่อยข่าว และแอบเป็นมือที่สามทำลายทรัพย์สินต่างๆ ล่าสุดที่ค้นพบระเบิด และทำลายทรัพย์สินสถานที่ราชการต่างๆ แล้วโยนข่าวว่าผู้ชุมนุมทำ และปล่อยข่าวดิสเครดิตต่างๆ โปรดระวังด้วยครับ”

“สร้างกระแส ปล่อยข่าวกันเองหวังจะกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง ทุกอย่างอย่าไปเชื่อ แม้กระทั้งถูกยิง ก็พวกเดียวกันเองทั้งนั้น”

“ขอให้ระวังตัวด้วย บางคนจะทำเพราะว่าแค่สะใจ ให้เราได้อับอาย เมืองไทยต่อไปคนดีอยู่ลำบาก”

“เป็นไรกับการเมืองมากป่ะ ข่าวบันเทิงก็เอามาโยงได้”

“การ์ด กปปส.พบเธอมาให้กำลังใจ แทบจะเข้าไปกราบ ใครจะไปทำเธอได้ลง”

เรื่องที่สี่ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดของการรวมกลุ่มการชุมนุมกลุ่ม กปปส. ในการเคลื่อนขบวนมวลชนรณรงค์เชิญชวนคนกรุงออกมาปิดกรุงเทพมหานคร เพื่อกดดันรัฐบาลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2557 ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบรรดาดารานักแสดงที่ต่างตบเท้ากันเข้าร่วมชุมนุม แสดงพลังตามจุดต่างๆ โดยเวทีหลักที่บรรดาดารานักแสดงเข้าร่วมกันมากจะอยู่ที่แยกราชประสงค์และย่านสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ

การปรากฏตัวของศิลปินดารา ที่ในชีวิตประจำวันอาจไม่ได้พบเจอกันง่ายๆ ทำให้ผู้คนในโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างแชร์ภาพความน่ารัก น่าประทับใจเกี่ยวกับศิลปินดารา เพื่อคลายความตึงเครียด โดยเรื่องแรกที่เรียกเสียงกรี๊ดให้ชาวม็อบกันเป็นจำนวนมาก คือการขึ้นคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มของศิงปินขาแดนซ์ชื่อดัง เจ เจตริน วรรธนะสิน ที่พาทีมนักดนตรีและแดนเซอร์มาให้ความบันเทิงกับผู้ร่วมชุมนุมที่ชิดลม ให้ได้แดนซ์ผ่อนคลายกันอย่างเมามันส์ พร้อมประกาศตัวว่าปกติขึ้นคอนเสิร์ตครั้งละ 2 แสน แต่สำหรับการขึ้นเวทีแบบนี้ฟรีตลอดชีวิตเพื่อพ่อแม่พี่น้อง จนทำให้มีผู้พูดถึงการแสดงคอนเสิร์ตด้วยใจของเจ เจตริน ครั้งนี้กันอย่างมากมาย

ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)
ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)

และเรื่องชวนให้อมยิ้มเรื่องต่อมา ที่มีผู้แชร์ภาพต่อกันมากคือ เมื่อกลุ่ม กปปส. นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทางผ่านย่านทองหล่อ โดยตลอดระยะทางก็มีผู้ให้การต้อนรับกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ประชาชนให้ความสนใจคือในกลุ่มประชาชนนั้นมีนักแสดงชื่อดัง สันติสุข พรหมศิริ ร่วมอยู่ด้วย จึงเป็นภาพช็อตเด็ดที่ชาวโซเชียลทำการแชร์พร้อมข้อความล้อเลียนกันมาก อาทิ “สุเทพพบสันติสุขแล้ว” หรือ “ใครว่าสุเทพทำบ้านเมืองวุ่นวาย นี่ไงสันติสุข” หรือ “ในที่สุด สุเทพก็พาเราเดินจนพบสันติสุข” เป็นต้น

“ดีนะ ในที่สุดเราก็ได้ พบสันติสุขซะที”

“เห็นแล้วสงสารคุณสุเทพมาก เหนื่อยแทนขนาดเราไปร่วมเดินเรายังเมื่อย แต่ยังไงเราก็จะช่วยจนกว่าชนะ ยิ่งรัฐบาลมันแกล้งเท่าไร เราก็จะช่วยคุณสุเทพมากเท่าตัว เพราะเพื่อนข้าราชการก็เห็นด้วย ได้ลางานมาร่วมก็มาก”

“การชุมนุม กปปส.เหมือนเดินอยู่บนสรวงสวรรค์ เพราะมีแต่นางฟ้าเดินเต็มไปหมด และเดินอย่างมีความสุข”

“ที่เข้าร่วมเหตุผลเดียวเลย เสื้อแดงหมิ่นนายหลวง แล้วงยังไม่โดนจับ แต่กลับไปลอยนวลอยู่เชียงใหม่ได้”

“เจ เจตริน งานเขาเยอะมาก ค่าตัวก็เยอะ ไม่ได้ไม่มีงานแล้วถึงออกมาสร้างกระแสตามเวทีม็อบอย่างที่ใครๆ ว่านะ”

“ภาพคุณสันติสุข ที่เขาแชร์กันน่ารักนะ มองแล้วเห็นแต่รอยยิ้มเลย เชื่อว่าคุณสุเทพก็คงทันมุขนี้ ยิ้มร่าเลย”

เรื่องที่ห้า อากาศหนาวฤดูแห่งความรัก ที่มีคู่รักแต่งงานและขอแต่งงานกันมากที่สุด โดยในสัปดาห์ที่อากาศหนาวเป็นใจพาให้คนรักกันอย่างสัปดาห์นี้ ก็มีคลิปวิดีโอความรักที่ไม่จำกัดเพศมาให้ได้อมยิ้มกันบนหน้าโลกออนไลน์ ซึ่งมีผู้เข้าชมและแชร์คลิปแห่งความประทับใจนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเพศที่สาม จนศิลปินนักร้องหัวใจโรแมนติกอย่าง อ๊อฟ ปองศักดิ์ ยังต้องโพสต์ข้อความแอบอิจฉาลงในอินสตาแกรมส่วนตัวกันเลยทีเดียว

ที่มาภาพ : http://www.dek-d.comboardview3125059
ที่มาภาพ: http://www.dek-d.comboardview3125059

กับความรักของคู่รักชายรักชาย “พอร์ชและอาร์ม” ที่ฝ่ายเจ้าบ่าวพอร์ชเซอร์ไพรซ์คุกเข่าขอแต่งงานคนรักอย่างอาร์ม หลังจากจบพิธีแต่งงานของเพื่อนซึ่งเป็นคู่หญิงชาย ในบรรยากาศที่มีเพื่อนสาวร่วมลุ้นเชียร์และแอบเขินกันไปตามๆ กัน จนบรรดาช่างภาพต่างกรูกันเข้ามาถ่ายภาพความโรแมนติกที่เกิดขึ้นนี้เป็นที่ระลึกกันอย่างมากมาย และถือเป็นการตอกย้ำความรักที่เกิดขึ้นอย่างไม่จำกัดเพศ ให้ผู้คนได้มองเห็นถึงความสวยงามของความรักแท้ที่เกิดขึ้น จนเรียกได้ว่าน้ำตาลยังอายกันเลยทีเดียว(ชมคลิป)

“คนที่ชื่อพอร์ช คิดว่าหลายคนคงเห็นหน้ากันบ้าง (ถ้าจำได้นะครับ)เขาเคยเล่นโฆษณา AIS ชุด Instagram และผลงานของเขา ก็เคยลงหนังสือ A day มาแล้วครับ รูป IG ของเขาสวยทุกรูปเลย ”

“เมื่อไรกฏหมายไทยจะให้จดทะเบียนสมรสกันได้นะ น่ารักคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ คะ”

“แอบอิจฉาคู่พอร์ชและอาร์มมากๆ เลยคะ ฟินทั้งคู่”

“กรี๊ดตั้งแต่เห็นในทวิตละค่า ดูละก็ยิ้มแก้มแตก ปลื้มปริ่มไปกับทั้งคู่ด้วย สำหรับเรา รักก็คือรักแหละ ไม่เคยหานิยามสักที ไม่สนใจด้วยว่าต้องเป็นหญิงกับชายเท่านั้น จะญญ ชช แค่รักกัน ดิฉันเชียร์หมดแหละค่ะ ชอบเห็นคนรักกัน”

“แอบเสียดาย ผู้ชายเหลือน้อย”

“เขิลแทนเลย ขอให้รักกันนานๆ นะคะ”