ThaiPublica > เกาะกระแส > Nature Diaries งานศิลปะ “ประตูสู่การอยู่กับธรรมชาติที่ยั่งยืน”

Nature Diaries งานศิลปะ “ประตูสู่การอยู่กับธรรมชาติที่ยั่งยืน”

23 ธันวาคม 2013


รายงานโดย อริญชย์ เมธีกุล

ภาพวาดสมุดบันทึกธรรมชาติ-1

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2556 นิทรรศการสมุดบันทึกธรรมชาติได้จัดกิจกรรมพูดคุยศิลปินกับเจ้าของสมุดบันทึกธรรมชาติ ณ หอศิลป์ตาดูไทยยานยนตร์ สุขุมวิท 87 ชั้น 2 ในงาน “Nature Diaries แรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่สมุดบันทึก” ซึ่งจัดแสดงระหว่างวันที่ 18 พ.ย. 2556 – 18 ม.ค. 2557 เวลา 10.00-18.00 น. โดยในเวทีพูดคุยมีศิลปินเจ้าของผลงานมาร่วมพูดคุย 3 คน ได้แก่นายกุลพัฒน์ ศรลัมภ์ นางสาวธัญลักษณ์ สุนทรมัฏฐ์ และ นายสมิทธิ์ สุติบุตร์

สมุดบันทึกธรรมชาติเป็นการบันทึกเรื่องราวต่างๆ ผ่านภาพวาดและตัวอักษร กลั่นกรองจากประสบการณ์ การสังเกต การเข้าใจในธรรมชาติทั้งพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ผลงานเหล่านี้มีคุณค่าในแง่การบันทึกธรรมชาติเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งศิลปะและวิชาการ

จุดเริ่มต้นของศิลปินทั้ง 3 คนนั้น เริ่มจากความรักที่มีต่อธรรมชาติและศิลปะ จึงอยากจะบันทึกเรื่องราว ความสุข ความประทับใจต่างๆ ที่ได้ประสบพบเจอมาเพื่อเก็บความทรงจำ แต่การบันทึกนั้นต่างจากการบันทึกทั่วๆ ไป เพราะศิลปินทั้ง 3 คนนั้น เลือกที่จะบันทึกผ่าน “ภาพวาด”

สมุดบันทึกธรรมชาติ-2

นางสาวธัญลักษณ์กล่าวว่า การดูนกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในงานอนุรักษ์เพราะเป็นกุศโลบายที่คนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด การดูนกแล้ววาดรูปเปรียบเสมือน “ประตู” การดูนก ต้นไม้ ดอกไม้ แมลง องค์ประกอบรายรอบของการไปดูนกเหมือนการได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติ พอได้เรียนรู้ก็จะน้อมรับและเคารพธรรมชาติ ส่งผลสู่การทำตามกติกาในที่สุด เช่น เดินอย่างระมัดระวัง ไม่ส่งเสียงดัง เป็นต้น เป็นการปลูกฝังให้รักธรรมชาติ

เมื่อเห็นความสำคัญความสวยงามของธรรมชาติแล้วจะตระหนักว่า จะเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ธรรมชาติต้องดำรงอยู่ มันก็จะต้องช่วยกันรักษา ใครจะมาทำลายหรือมีโครงการใหญ่ๆ ที่จะต้องมาตัดต้นไม้ อย่างน้อยนกก็ไม่มีที่อยู่ นอกจากนกแล้วสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกเยอะที่ต้องพึ่งพาต้นไม้ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

นี่คือจุดเล็กๆ ที่ค่อยๆ ซึมเข้าไป แล้วจิตสำนึกมันค่อยๆ มาเอง ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ดูครั้งเดียวแล้วได้เลย มันต้องค่อยๆ ไป ถึงแม้ไม่ได้ไปเดินป่าก็สามารถดูในเมืองได้ เช่น ข้างบ้านเราเป็นทุ่งนา ที่โรงเรียนมีทุ่งมีสวน ก็เป็นธรรมชาติอีกแบบหนึ่ง แต่กติกาคือเราก็ต้องน้อมใจเคารพธรรมชาติเหล่านี้

“พอเริ่มรู้ว่าธรรมชาติมันมีความสำคัญยังไง สวยงามยังไง มีความสงบภายในยังไง ความสุขที่ได้รับก็จะขัดเกลาให้จิตใจดี พอมีความสุขจากข้างในแล้วอะไรรอบตัวมันก็จะส่งผลดีไปเอง” นางสาวธัญลักษณ์กล่าว

บันทึกสมุดธรรมชาติ-3

นายสมิทธิ์กล่าวว่า การเผยแพร่สมุดบันทึกธรรมชาติครั้งนี้ มีคอนเซปต์หลักคือการปลูกฝังให้คนหวงแหนในธรรมชาติ ปลูกจิตสำนึกรักธรรมชาติ ภาพจะเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวและดึงดูดความสนใจให้คนหันมาสนใจในสิ่งที่เผยแพร่ ถ้าหากมีแต่ตัวหนังสือยังไงคนก็จะไม่สนใจ เรื่องบางเรื่องการนำเสนอในรูปแบบของภาพประกอบที่เป็นภาพวาดมันจะสามารถสื่อได้ดีและดึงดูดความสนใจคนได้ดีกว่าภาพถ่าย เพราะภาพถ่ายเป็นภาพประกอบปกติอยู่แล้วที่คนสามารถเห็นได้ทั่วไป แต่พอเป็นภาพวาดเมื่อไหร่ สิ่งแรกมันจะเตะตาคน ช่วยทำให้ดึงดูดความสนใจคนที่จะเข้าไปอ่านเรื่องราวนั้นได้

ยกตัวอย่างเช่น การถ่ายภาพสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในน้ำซึ่งมองตาเปล่าแทบไม่เห็น แต่การวาดเป็นภาพประกอบ ทำให้คนได้เห็นสิ่งเหล่่านี้ได้ง่ายกว่าจะไปควานหาเอง ถึงแม้จะเป็นภาพถ่ายก็เหมือนกัน คือ ภาพวาดมันลดข้อจำกัดบางอย่างได้

สมุดบันทึกธรรมชาติ-4

“ที่ผมทำส่วนใหญ่คือเผยแพร่ความรู้ เผยแพร่จิตสำนึกที่ดีต่อธรรมชาติอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ความจริงคนทำกันอยู่เยอะ แต่บางทีวิธีการ คือ ถ้าหากว่าเราไปพูดปาวๆ คนนึกภาพไม่ออก แต่ถ้าเรามีภาพประกอบที่สวยงามในระดับหนึ่งให้คนได้เห็นความงามว่าเมืองไทยมีอะไรดีๆ อยู่เยอะ ในอนาคตมันอาจจะไม่หลงเหลือแบบนี้เพราะในอนาคตข้างหน้า 5-10 ปี สิ่งที่เราได้บันทึกไว้มันอาจจะไม่เหลือแล้วก็ได้ เหมือนกับหลายๆ สิ่งในอดีตที่ค่อยๆ หายไป เพราะถ้าหากเราไม่สามารถดึงคนให้เข้ามาช่วยกันร่วมกันดูแลรักษาได้ ยังไงมันก็ไม่รอด” นายสมิทธิ์กล่าว

สมุดบันทึกธรรมชาติ-5

หากเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติตั้งแต่วันนี้ ในที่สุดธรรมชาติก็จะหายไป และส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวมทั้งหมด แต่หากวันนี้เราช่วยกันคนละนิด อนุรักษ์ ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี ที่สุดแล้วธรรมชาติก็จะสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน