ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – เหตุการณ์การปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจ ที่ศูนย์เยาวชนไทย ญี่ปุ่น-ดินแดง

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – เหตุการณ์การปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและตำรวจ ที่ศูนย์เยาวชนไทย ญี่ปุ่น-ดินแดง

28 ธันวาคม 2013


โกลาหลไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง วันเปิดรับสมัครเลือกตั้ง

ไว้อาลัยวีรชนผู้กล้า “วสุ สุฉันทบุตร”

วิจารณ์แซ่ด!! คลิป ตำรวจรุมทุบรถประชาชน

กกต. วอนรัฐบาลเลื่อนวันเลือกตั้ง หวั่นสถานการณ์บานปลาย

ชาวเน็ตจับผิด ไทยรัฐ ลงภาพชายลึกลับซุ่มยิง

อ่านรายละเอียด …………

ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 22 – 28 ธันวาคม 2556

เรื่องแรก โกลาหลตั้งแต่วันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556 มีการรายงานว่าตัวแทน 8 พรรคการเมืองได้เข้ายื่นรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ณ ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง อาคารกีฬาเวสน์ 2 ทั้งๆ ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักปิดล้อมประตูทางเข้าทั้ง 6 ทางไว้ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2556 จนเป็นประเด็นให้เกิดการชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้วิเคราะห์ถึงความโปร่งใสของความยุติธรรมในกระบวนการเลือกตั้ง

เนื่องจากการเข้าสมัครและเวลาที่ผู้สมัครเข้าไปลงชื่อนั้นเป็นเวลาเช้ามืด ซึ่งไม่ใช่เวลาทำการปกติ อันได้แก่ เวลา 03.00 น. – พรรคประชาธิปไตยใหม่, เวลา 03.30 น. – พรรคชาติพัฒนา, เวลา 04.00 น. – พรรคเพื่อไทย, เวลา 04.55 น. – พรรคดำรงไทย, เวลา 05.05 น. – พรรคกสิกรไทย, เวลา 05.21 น. – พรรคถิ่นกาขาว, เวลา 05.25 น.- พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า และ เวลา 05.32 น. – พรรคชาติไทยพัฒนา

ที่มาภาพ : http://www.bangkokbiznews.comhomedetailpoliticspolitics201312235515108
ที่มาภาพ: http://www.bangkokbiznews.comhomedetailpoliticspolitics201312235515108

และอีก 26 พรรคการเมือง ส่งตัวแทนเดินทางเข้ายื่นเอกสารการสมัคร ณ สถานีตำรวจนครบาลดินแดง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งหนังสือแจ้งไว้ว่า หากพรรคการเมืองใดประสงค์จะยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ แต่ไม่สามารถเดินทางเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวได้ ให้หัวหน้าพรรคการเมืองหรือผู้รับมอบทำการหัวหน้าพรรคการเมืองดำเนินการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเวลา 08.30 น. ว่าท่านได้เดินทางมาถึงสถานที่รับสมัครแล้วก่อนเวลา 08.30 น.

อันได้แก่ 1. พรรคพลังประเทศไทย 2. พรรคเสรีนิยม 3. พรรคชาติสามัคคี 4. พรรครักไท 5. พรรคไทยมหารัฐพัฒนา 6. พรรคเสียงประชาชน 7. พรรครักษ์สันติ 8. พรรคภราดรภาพ 9. พรรคพลังสหกรณ์ 10. พรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย 11. พรรคแทนคุณแผ่นดิน 12. พรรคพลังประชาธิปไตย 13. พรรคเมืองไทยของเรา 14. พรรคประชาสันติ 15. พรรคพลังไทยเครือข่าย 16. พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 17. พรรคยางพารา 18. พรรคคนขอปลดหนี้ 19. พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า 20. พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย 21. พรรคประชาสามัคคี 22. พรรคเพื่อสันติ 23. พรรคไทยรักธรรม 24. พรรครักประเทศไทย 25. พรรคพลังไทยรักชาติ และ 26. พรรคภูมิใจไทย

โดยที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) นำโดย นายชุมพล จุลใส, นายณัฐพล ทีปสุวรรณ, นายสกลธี ภัททิยกุล และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้เคลื่อนขบวนนำรถเครื่องเสียงมาปราศรัยเพื่อทำการกดดันเจ้าหน้าที่บริเวณหน้า สน.ดินแดง พร้อมทั้งนายชุมพลได้กล่าวไว้ด้วยว่า “เหตุที่เคลื่อนขบวนมา ไม่ได้ต้องการปิดล้อมสถานที่ แต่เพื่อต้องการฟังนโยบาย อีกทั้งยังอยากแสดงให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่ กกต. กำหนดรับสมัคร ดังนั้นการมาเปิดรับสมัคร ณ ที่นี่ จึงไม่มีความเหมาะสม”

ทำให้เรื่องนี้มีการวิจารณ์กันมากว่า รัฐบาลชุดนี้มักทำการลักหลับประชาชนในยามวิกาลเสมอ และนี้ก็คืออีกหนึ่งการกระทำ คือการ “ลักหลับทางการเลือกตั้ง” นั่นเอง

“ไม่ไว้วางใจ กกต.ความเป็นกลางไม่มี มีแต่เอนเอียง”

“กกต. ย่อมาจาก คณะกรรมการโกงการเลือกตั้ง จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมอะไรมันถึงไปบังเอิญไปเสียหมด”

“ขอปฏิรูปก่อน 1.การเมือง 2. การศึกษา 3.ระบบราชการมันคอรัปชันมาก โดยเฉพาะผู้บริหารทุกระดับเลยกินเงิน กินเวลา บังคับลูกน้อง ต่อไปผู้บริหารทุกระดับควรมาจากการเลือกตั้งขององค์กร นั้นๆ ขอ 3 อย่างก่อน เสร็จแล้วค่อยเลือกตั้ง”

“การเมืองแบบเดิมๆ จ้างพรรคเล็กพรรคน้อยลงสู้ พรรคเล็กๆ น้อยๆ ก็รู้อยู่ว่าไม่มีวันได้เป็น สส. แต่เอาเงินค่าจ้างดีกว่า”

“เมื่อทุกฝ่ายไม่เห็นพ้อง ดื้อรั้นไปบ้านเมืองยิ่งย่อยยับ คนไทยด้วยกันทั้งนั้น”

“ถ้าโปร่งใส จริงใจ ซื่อสัตย์ ทำงานเพื่อประเทศชาติเป็นสำคัญ ก็อย่ากลัวการปฏิรูป อย่าเดินหน้าท่ามกลางความขัดแย้ง มานั่งคุยกันจะปฏิรูปอะไร ปิดช่องโหว่ที่นักการเมืองเอาทรัพย์สมบัติชาติไปขาย กลายเป็นมหาชน ปิดให้หมด แล้วค่อยเลือกตั้งใหม่ ก็จะดี”

เรื่องที่สอง ชาวโลกออนไลน์ต่างพากันยกย่องและไว้อาลัยการจากไปของนายวสุ สุฉันทบุตร ฮีโร่ปกป้องผู้ชุมนุม และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณสนามกีฬาไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2556 โดยตามรายงานข่าวแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 148 คน และนายตำรวจเสียชีวิตอีก 1 ราย ได้แก่ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ อายุ 45

ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แชร์ข้อความที่ระบุว่าเป็นข้อความของเพื่อน วปอ. รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยเป็นข้อความเกี่ยวกับนายวสุ มีเนื้อหาดังต่อไปนี้

“เรียนคุณอดุลย์ด้วยนะคะ
หลานชายคุณหมอหาญ ชื่อ นายวสุ สุฉันทบุตร เป็นลูกนายตำรวจเหมือนกัน ที่เคยช่วยประเทศชาติอยู่ปัตตานี ถูกยิงตายเมื่อคืนค่ะ โดนเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง เลือดออกมาก ใช้เลือดไปประมาณ 100 กว่าถุงก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุฏตอนตีสี่ เมื่อคืนค่ะ
หลานเป็นเด็กดี ร่างกายสูงใหญ่ เลยเป็นฮาร์ดคอร์ ปกป้องผู้ชุมนุม พ่อของหลานพี่ชายคุณหมอหาญเสียชีวิตขณะปฏิบัติราชการที่ปัตตานี
หลานเป็นเจ้าของกิจการของตัวเอง เรียนจบปริญญาโทการตลาดจาก ออสเตรเลียค่ะ
เเอ๊ะ เพิ่งทราบข่าวเมื่อเข้า confirm กับพีสะใภ้เเล้ว รพ. เขานัดให้ไปชันสูตรที่เเผนกนิติเวช เเละรับศพ
วันนี้ สี่โมงเย็นค่ะ
คุณอดุลย์คะ ลูกชายนายตำรวจที่ช่วยชาติมาตลอดชีวิต เป็นลูกชายคนเดียว อยู่เป็นเพื่อนเเม่ เมื่อพ่อจากไปเเล้ว จะว่าไงดีคะ พวกเราไปชุมนุมกันจะโดนตำรวจยิงตายเเบบนี้ไหม”

นายวสุ สุฉันทบุตร ที่มาภาพ : http://www.iamtheboy.com
นายวสุ สุฉันทบุตร ที่มาภาพ: http://www.iamtheboy.com

สำหรับทางด้านมวลชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ได้มีการร่วมไว้อาลัย พร้อมบรรเลงเพลงสดุดีเพื่อวีรชนเพื่อเป็นการสดุดีในความกล้าหาญของ นายวสุ สุฉันทบุตร อีกด้วย
ประวัติ นายวสุ สุฉันทบุตร จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Australian Catholic University และ Deakin University ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต

“ขอแสดงความอาลัยและขอสดุดีการจากไปของคุณวสุ สุฉันทบุตร วีรบุรุษของมวลมหาประชาชน ขอบพระคุณที่คุณผู้มากด้วยการศึกษายอมมอบชีวิตเป็นหินก้อนแรกที่โถมลงไปเพื่อขจัดให้น้ำเน่าในบ่อการเมืองหมดไปจากแผ่นดินไทย เราคนไทยที่อยู่อีกมากนักพร้อมจะสานต่อปนิธานของคุณผู้สมควรรับการยกย่องเป็น”วีรชน”ของปวงประชาให้สำเร็จต่อไปให้จงได้แม้เป็นหินก้อนถัดๆไปเพื่อร่วมกันถมบ่อน้ำเน่านี้ให้กลับกลายเป็นแผ่นดินทองแก่ลูกหลานสืบไปครับ”

“ขอใว้อาลัยจากใจครับขอให้วีรบุรษผู้เสียสละเฝ้าดูอยู่บนสรวงสวรรคาลัยพวกเรามวลมหาประชาชนที่ยังมีชีวิตอยู่จะปกป้องด้วยชีวิตเอง แผ่นนี้คือที่เกิดและเป็นทีตายของเราขอสดุดีวีรชน”

“ขอให้วีรชนคนกล้าสู่สุคติ ขอบคุณที่ทำคุณแก่แผ่นดิน คนที่ทำกรรมจะต้องได้รับผลกรรมในเร็ววัน”

“อยากเห็นบ้านเมืองสงบค่ะ ทุกคนสูญเสีย ฆ่ากันเอง โดยที่ไม่มีประเทศใดมาทำสงครามกับเรา ตั้งสติให้ดีค่ะ พี่น้อง ถ้าทุกอย่างเราช่วยกันทำ มันจะดีและเจริญไปเองค่ะ การเมืองมีแต่ความสกปรกและผลประโยชน์ นักการเมืองยังอยู่แต่ประชาชนผู้รักชาติต้องตาย พอหรือยัง”

“ทุกคนต้องตาย จะเลือกตายแบบสร้างความดี หรือกระทำความชั่ว สวรรค์หรือนรกเป็นทางสุดท้ายที่จะไป ประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินไทยเสียใจในความสูญเสียของน้องผู้หาญกล้า แต่อย่าใจเสีย จงผลักดันความเสียใจกลับเป็นพลังต่อสู้กับความชั่วร้ายให้ออกไปจากแผ่นดินไทย ขอพระสยามเทวาธิราชจงรับดวงวิญญาณของวีรบุรุษวสุ สุฉันทบุตรไปสู่สุคติแลป้องป้องพี่น้องชาวประชาผู้รักชาติบ้านเมือง จงบรรลุเป้าหมาย”

“ขอแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของน้องวสุ สุฉันทบุตร น้องเสียสละทำเพื่อชาติ และ ลูกหลานของเราในอนาคต ขอให้น้องสู่สุคติ หลับให้สบายเถอะค่ะ พวกเราเหล่ามวลมหาประชาชนจะยึดมั่นทำในสิ่งที่ตั้งใจให้สำเร็จ”

เรื่องที่สาม คลิปเหตุการณ์ที่สร้างความขุ่นข้องหมองใจของประชาชนที่มีต่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ หรือตำรวจไทยเป็นอย่างมาก เมื่อมีคลิปการปะทะกันของม็อบเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2556 กับคลิปที่ใช้ชื่อว่า“261256 ดูชัด ๆ ตำรวจรุมทุบรถประชาชนทั้งที่มีผู้หญิงอยู่ในรถ”

ที่มาภาพ : http://news.tlcthai.comnews249408.html
ที่มาภาพ: http://news.tlcthai.comnews249408.html

ภายในคลิปเป็นการรายงานข่าวของช่อง BlueSky Channel (บลูสกาย) ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม โดยภายในคลิปเป็นภาพรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ภายในวงล้อมของตำรวจที่กำลังทุบรถ จนกระจกเป็นรอยร้าวตรงที่คนขับ อีกทั้งยังพยายามให้ผู้หญิงที่อยู่ในรถลงมาจากรถ จนทำให้เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงกันมากเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงการวิเคราะห์ว่านี้คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ต้องดูแลประชาชนจริงหรือไม่ จนบางคนถึงขั้นใช้ว่า “เกลียดตำรวจ” กันเลยทีเดียว

“ยิ่งเห็น อะไร มากมาย ในเมืองนี้ ยิ่งเครียดมากมายครับ”

“ถ้าทำกับผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ตำรวจหรอก แม้แต่ความเป็นผู้ชาย ยังไม่ใช่เลย”

“สาบานน่ะ ว่านี่คือ ตำรวจ นี่นิสัยโจรชัดๆ”

“ที่ตำรวจเขาทุบรถนี่ เพื่อไม่ต้องการให้คุณนำรถไปใช้งานในทางที่ไม่เหมาะสม เอาไปสร้างปัญหา ถ้าคุณจะเอาเรืองไปแจ้งความซิครับ แล้วคุณจะเขาใจว่า ตำรวจที่ปราบปรามฝูงชนที่บ้าครั้งเขา ไม่ยกมือไหว้คุณแน่นอนครับไม่ว่าประเทศใหนในโลก ถ้าเป็นประเทศอื่นคุณไม่ได้มีโอกาสถ่ายวีดีโอหรอก ตำรวจไทยนี่ถือว่าอ่อนแล้ว”

“คลิปชัดเจนแบบนี้ยังกล้าขอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกเหรอ แหมๆๆ ทีคลิปที่เอาภาพเก่าๆ มาตัดต่อแต่งเติม ออกสื่อแล้วนั่งแถลงการณ์ใส่ร้ายผู้ชุมนุมล่ะไม่ตรวจสอบก่อนเลยนะ”

“แชร์ให้เห็นกันทั่วๆ อาสาสมัครช่วยคนบาดเจ็บกำลังถูกกระทำ ตามหลักสากลหน่วยกาชาดจะไม่ได้รับการปฎิบัติแบบนี้”

“4 อาสาสมัครพยาบาล เล่านาทีระทึก “ตำรวจ” บุกทุบรถ
“คือบอกตำรวจไปแล้ว ว่ามีคนอยู่ในรถ และก็พยายามจะเจรจาดีๆ เผื่อว่าตำรวจจะไม่ทำอะไร แต่ตำรวจพยายามไล่เราลงจากรถ ทั้งๆที่ผมบอกว่าเป็นทีมพยาบาลที่มาช่วยพี่น้องประชาชน”

“ตำรวจทำไมทำเกินกว่าเหตุหล่ะคับ ไปทำร้ายประชาชนก่อน และยังไปทุบรถทำร้ายของประชาชนอีก เห็นแล้วมันบีบหัวใจจริง ๆ”

เรื่องที่สี่ หลังเกิดหตุการณ์การปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้าสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการแถลงข่าวแสดงเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้ง ที่กำหนดไว้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ออกไปก่อน เพราะเกรงว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น จนไม่อาจเกิดการเลือกตั้งขึ้นได้

ที่มาภาพ : http://board.postjung.com732533.html
ที่มาภาพ: http://board.postjung.com732533.html

อีกทั้งยังกล่าวต่อสื่ออีกว่า ทาง กกต. ไม่มีความสามารถที่จะจัดการเลือกตั้งให้มีความสุจริตได้อีกต่อไป จนกว่าจะมีข้อตกลงร่วมกัน โดยทาง กกต. พร้อมที่จะเป็นคนกลางในการหาข้อยุติความขัดแย้ง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงมากไปกว่าเดิม ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจเพราะมีอำนาจเต็มที่ แต่หากรัฐบาลเมินเฉย กกต. ก็มีมาตรการส่วนตัวที่พร้อมจะแก้ปัญหาดังกล่าว

“กกต ครับ การจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่คุณครับตั้งโต๊ะแถลงข่าว ไม่ช่วยอะไร อันนี้มันไม่ได้หมายถึงคุณเลือกข้าง แต่ต้องเลือกระหว่างกฏหมายกับกฏหมู่ การจัดการเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของ กกต ไม่ใช่รัฐบาล”

“ในเมื่อ กกต มีอำนาจที่จะสามารถเลื่อนการเลือกตั้งออกไปได้ แล้วจะโยนไปให้รัฐบาลเค้าทำไม? เพราะหมากตานี้มันเป็นคิวของคุณต้องเดินแล้ว”

“ตอนนี้ ประชาชนอย่าอิฉันกำลังสับสนคะ ว่า กกต. ชุดนี้เริ่มไม่เป็นกลางเริ่มเอนเอียง และทำให้รู้สึกว่าเหมือนเค้าจะวางแผนร่วมกันมาแล้ว รู้สึกยังไงชอบกล แล้วประชาชนจะพึ่งใครละทีนี้ ”

“จริงๆแล้ว กกต สามารถย้ายที่รับสมัครได้นะแต่ไม่ทำ กกต มีเจตนาอะไรเหรอครับถึงไม่?? ย้ายสถานที่รับสมัคร ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นได้ อยากถามเจตนารมที่แท้จริงของ กกต.”

“เป็นไปตามแผนที่มีการวางกันไว้ สุดท้าย กกต.จะลาออก แล้วก็สรรหา/แต่งตั้ง กกต.ใหม่ไม่ได้ การเลือกตั้งก็ไม่เกิด ที่จะเกิดคือสูญญากาศ เข้าทางนายกม.7 ขึ้นมาทันใด จบแล้วประเทศนี้”

“อย่าพึงเข้าใจผิด กกต. ไม่ได้เลื่อนการเลือกตั้ง แต่ กกต. แถลงกดดันให้รัฐบาลเลือนการเลือกตั้ง”

เรื่องที่ห้า ชาวเน็ตจับผิดสื่อหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ไทยรัฐ เนื่องจากได้มีการตีพิมภาพข่าว กรณีเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2556 โดยได้ใช้ภาพที่มีชายลึกลับถือปืนซุ่มยิงอยู่ เพื่อให้มีการเข้าใจว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธ พร้อมเนื้อข่าวบรรยายว่า “ช่วงชุลมุน เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังป้องกัน พร้อมยิงแก๊สน้ำตา-กระสุนยาง สกัดผู้ชุมนุม คปท. ที่พยายามฝ่าเข้ามาขัดขวางการจับสลากหมายเลขเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อ ของบรรดาพรรคการเมืองที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เหตุการณ์อยู่ในช่วงชุลมุน ขณะเดียวกันมีภาพชายลึกลับไม่ทราบฝ่ายถืออาวุธในท่าพร้อมยิงแพร่ว่อนเน็ต”

ที่มาภาพ : http://pantip.comtopic31443419
ที่มาภาพ: http://pantip.comtopic31443419

ภาพดังกล่าว ชาวเน็ตมีการนำมาเปรียบเทียบกันว่าเป็นภาพเก่าจากเหตุการณ์การชุมนุมบุกยึดท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อปี 2551 อย่างไรก็ตามต่อมาทางเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ได้มีการลงข้อความขอโทษ โดยมีเนื้อความดังนี้

“ตามที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ได้เผยแพร่ภาพ-ข่าว กรณีเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยมีการนำภาพชายลึกลับถือปืน ประกอบข่าวดังกล่าวนั้น ภายหลังจากที่ได้มีการตรวจสอบแล้ว พบว่า ภาพชายลึกลับคนดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทางทีมข่าวไทยรัฐจึงขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น มา ณ ที่นี้ด้วย”

โดยทางด้านชาวเน็ตเองก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง

“ทำไมไม่ถ่ายทอดสด ให้ชาวบ้านเห็นและตัดสินด้วยตาตนเอง ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ม็อบก็รับกรรมอีกล่ะซิ”

“ตอนลงภาพข่าวที่ไม่ดี ลงในหนังสือพิมพ์ให้ชาวบ้าน ชาวต่างจังหวัด รับรู้กันไปหมด แต่ทำไมตอนลงขอโทษ มาลงในอินเตอร์เน็ต แล้วถ้าชาวบ้านที่ใช้อินเตอร์เน็ตไม่เป็นล่ะ เขาก็ยังมองว่าผู้ชุมนุม มีอาวุธปืน อีกใช่มั๊ย ขอโทษแต่ไม่กระจ่าง ไม่แฟร์เลย บอกตรงๆ”

“ทำไม คนไทยบางส่วนยังไม่เข้าใจ คิดว่าไม่ให้มีการเลือกตั้ง ต้องทำความเข้าใจใหม่ ประเทศไทยมีการเลือกตั้งแน่นอน แต่ขอให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนกรุณาอย่าเข้าใจผิด เพียงแต่ว่าเราเป็นคนไทยอยากทำสิ่งไหนก่อน ทีมันเหมาะสมกันสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะดูเหมือนว่ามีแต่จะรุนแรงขึ้นทุกวัน”

“ไทยรัฐก็ทำธุรกิจ ต้องเอาใจรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ผิดจากยุคต้น ๆ ที่ยืนอยู่ข้างประชาชน คราวนี้ นักข่าวไทยรัฐก็โดนด้วย หวังว่าไม่ซ้ำเติมคนของตัวเองนะครับ และเมื่อผิดพลาด ขออภัย ยังดีกว่าทำเฉย ๆ เพราะ”

“ทุกคนทุกฝ่ายทำอะไรง่ายๆ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไทยรัฐก็ตัดแปะเพื่อเอาใจนาย-นักการเมือง”

“ภาพชายลึกลับดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วนักข่าวที่ทำข่าวไปเอาภาพมาได้ยังไง ไม่อธิบาย (แก้ตัว) ให้เคลียร์ละครับ”