ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสการเมือง > “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เรื่องจริงของประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป (5)

“เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เรื่องจริงของประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป (5)

4 ตุลาคม 2013


ประวัติศาสตร์ที่เราได้เรียน ได้อ่านกันมาเกี่ยวกับขบวนการเสรีไทยซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างยกย่องเชิดชูขบวนการเสรีไทยที่มีคุณาปการกับประเทศไทยเป็นอันมาก เพราะปฏิบัติการของขบวนการเสรีไทยทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม ไม่ต้องทำเอกสารยอมจำนน ไม่ถูกปลดอาวุธ ไม่ถูกยึดครอง ไม่เสียค่าปฏิกรรมสงคราม และที่สำคัญไม่เสียเอกราช

แต่เบื้องหลังปฏิบัติการของขบวนการเสรีไทย มีคนไทยคนหนึ่งชื่อ “จำกัด พลางกูร” ได้ปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อชาติ เพื่อ humanity แต่กลับไม่เป็นที่รับรู้ของคนไทยส่วนใหญ่ หรือรู้จักในวงจำกัดมากเมื่อเทียบกับเสรีไทยอีกหลายๆ คน

ดังนั้น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ในวาระที่ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา และ ดร.ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์ ผู้ริเริ่มแนวคิดเศรษฐศาสตร์การเมือง มีอายุครบ 72 ปี ในปี 2556 ศูนย์เศรษฐศาสตร์การเมือง และชมรมศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดการแสดงละครเวทีของบรรดาศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมืองเรื่อง “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเชิดชูเกียรติและแสดงมุทิตาจิตแก่อาจารย์ทั้งสอง

ละครเวที “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เป็นละครที่ ดร. ฉัตรทิพย์ อำนวยการสร้างและเขียนบทละครเองจากบันทึกเกือบ 1,000 หน้า ของนายจำกัด พลางกูร เสรีไทยที่จดบันทึกทุกเหตุการณ์ในระหว่างปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่อย่างละเอียด

ฉากที่ 5 “เมืองจุงกิง”

นายจำกัดใช้เวลา 53 วัน เดินทางจากกรุงเทพฯ​ถึงเมืองจุงกิง

เมืองจุงกิงในปี 2486 เจียงไคเช็คพาคณะรัฐบาลและกองทัพถอยหนีญี่ปุ่นมาตั้งมั่น ณ เขตภายใน หลังจากเสียนานกิง เมืองหลวงให้แก่ญี่ปุ่น สภาพเมืองจุงกิงผู้คนแออัดเพราะบ้านเรือนเสียหายจากการโจมตีทางอากาศ และมีชาวบ้านอพยพหนีกองทัพญี่ปุ่นมาสมทบมิได้ขาด อากาศร้อนอบอ้าว แห้งแล้งมาก ไม่มีต้นไม้ มีแต่หินทั้งนั้น

นายจำกัดอยู่จุงกิงได้เดือนกว่า ได้แต่รอไปวันๆ หลังจากได้ส่งแผนการของคณะเสรีไทยให้กับรัฐบาลอังกฤษตั้งแต่ตอนที่ถูกกักตัวอยู่ที่กุ้ยหลิน และได้ส่งโทรเลขไปสถานทูตไทยที่วอชิงตัน 2 ฉบับ ให้จัดการรับตัวนายจำกัดไปลอนดอนให้ได้ แต่ได้รับคำตอบสั้นๆ ครั้งเดียวว่า “กำลังดำเนินการอยู่”

นายจำกัดคิดว่า ทางการจีนได้ส่งข่าวเป็นโค้ดลับให้ทางกรุงเทพฯ​ทราบเป็นระยะๆ แต่ทางกรุงเทพฯ​ได้รับข่าวเพียงครั้งเดียวว่า อาจาง (จำกัด) และ อาหลี (ไพศาล) มาถึงกุ้ยหลินแล้ว ข่าวนี้ทำให้ัรัฐบาลจอมพล ป. วิ่งเช็คกันให้วุ่น

24 พฤษภาคม 2485 นายจำกัดได้รับทราบว่า ทางวอชิงตันได้รายงานประวัติส่วนตัวนายจำกัดอย่างละเอียดให้จอมพลเจียงไคเช็คทราบว่า นายจำกัดเป็นคนสนิทของนายปรีดี ขณะเดียวกันก็บอกว่านายจำกัดยืมเงิน 2,000 ดอลลาร์ แต่ไม่ได้บอกรับรองนายจำกัด

นายจำกัดรู้สึกแปลกใจที่สถานทูตไทยในวอชิงตันตอบเช่นนั้น เพราะเท่ากับดิสเครดิตนายจำกัด และในยามหน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมาระแวงกันอีก สถานทูตมีเงินตั้ง 25 ล้านบาท เพราะรัฐบาลอเมริกันไม่ได้อายัดเงินไทยเหมือนรัฐบาลอังกฤษ

25 พฤษภาคม 2485 ข่าวร้ายที่สุดมาถึงนายจำกัด

นายเซายู่หลิน อธิบดีกรมข่าว กระทรวงต่างประเทศ ของจีน นำหนังสือตอบกลับของรัฐบาลอังกฤษให้นายจำกัดอ่าน

“รัฐบาลอังกฤษไม่รับรองนายจำกัดและคณะเสรีไทยของนายจำกัด รัฐบาลอังกฤษเห็นว่าฐานะของนายจำกัดยังไม่ชัดเจน จำกัดออกมาแบบนี้ยังไม่มีแผนการที่ดี รัฐบาลอังกฤษจะดำเนินนโยบายไปตามเดิม ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะสนับสนุนขบวนการเสรีไทยให้ปฏิบัติการใดๆ กองทัพไทยจะเป็นตัวถ่วงมากกว่าตัวช่วย….. รัฐบาลอังกฤษไม่พิจารณาการพาผู้นำคณะเสรีไทยหนี ไม่ว่าจะทางทะเลหรือทางอื่นใด และปฏิเสธที่จะรับรองรัฐบาลคณะเสรีไทย รวมทั้งจะไม่ปล่อยเงินของรัฐบาลไทยที่อังกฤษกักยึดไว้”

นายจำกัดผิดหวังมากที่ได้รับคำตอบเช่นนี้ เพราะอังกฤษประกาศทางวิทยุบีบีซีให้ประชาชนชาวไทยลุกขึ้นสู้ญี่ปุ่นร่วมกับสัมพันธมิตร แล้วอังกฤษกลับไม่สนับสนุน และเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วทางจีนจะว่ายังไงในเรื่องที่ขอพบประธานาธิบดีเจียงไคเช็ค

นายเซายู่หลินบอกนายจำกัดให้รอหน่อย ท่านประธานาธิบดียินดีจะพบ แต่ติดภารกิจหลายอย่าง ต้องออกไปบัญชาการรบที่แนวหน้าด้วยตัวเอง และทางจีนเชื่อแน่ว่า “นายจำกัดไม่ใช่สายลับญี่ปุ่น”

นายจำกัดคิดว่า การที่เขาบอกว่าต้องการเดินทางผ่านจุงกิงไปลอนดอน ทำให้จีนโกรธ จึงถ่วงเรื่องนี้เอาไว้ หรือจีนกีดกันชาติอื่น อาจเพราะอยากมีอิทธิพลเหนือไทยแทนอังกฤษก็ได้

บันทึกนายจำกัด เขียนที่จุงกิง หน้า 636
บันทึกนายจำกัด เขียนที่จุงกิง หน้า 636

หลังจากรัฐบาลอังกฤษ ตอบไม่รับรองคณะเสรีไทยภายในประเทศ ฐานะของนายจำกัดก็ดูตกต่ำมาก

นายจำกัดกับไพศาลถูกย้ายลงมาอยู๋ในห้องพักชั้นล่าง เป็นห้องที่แคบมาก ด้านหนึ่งติดกับห้องส้วม อีกด้านหนึ่งติดกับโรงซักรีดและโรงครัว เป็นห้องที่สกปรกมาก ชื้น มืด เหม็นกลิ่นอุจจาระและกลิ่นอาหาร อากาศร้อนอบอ้าว นั่งอยู่ในห้องเฉยๆ ก็เหงื่อออก

การปฏิเสธของอังกฤษทำให้นายจำกัดนายจำกัดเสียใจ เศร้าใจ และหดหู่มาก คิดถึงบ้าน ภริยา พ่อ น้อง นายปรีดี และประเทศชาติอย่างมาก อาการปวดท้องซึ่งเริ่มเป็นตั้งแต่ปลายพฤษภาคมคุกคามเขาเป็นระยะๆ นายจำกัดเริ่มมีอาการมึนหัวและนอนไม่หลับ เงินที่ติดตัวมาก็ร่อยหรอลงมาก ของมีค่าขายจนเกือบหมดเหลือนาฬิกาเรือนเดียว

ตอนต่อไป ฉากที่ 6: พบจอมพลเจียงไคเช็ค