ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – คลิปดังผู้จัดการโรงหนัง และ “ติ๊กเก้อ” ฮิตเวอร์ชั่วข้ามคืน

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ – คลิปดังผู้จัดการโรงหนัง และ “ติ๊กเก้อ” ฮิตเวอร์ชั่วข้ามคืน

20 เมษายน 2013


ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 14-20 เม.ย. 2556

เรื่องแรก จากเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าเสียใจให้ผู้เป็นพ่อแม่ กับกรณีของ “น้องเอย” ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ อายุ 3 ปี นักเรียนชั้นเตรียมอนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลอนงค์เวท จังหวัดสมุทรปราการ ถูกครูพี่เลี้ยงและคนขับรถตู้ลืมทิ้งไว้บนรถโรงเรียนเป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง จนมีอาการสมองบวมเพราะขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้การทำงานของสมองและก้านสมองลดลง ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น จนเกิดภาวะการทำงานของอวัยวะล้มเหลว โดยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลให้แพทย์ยื้อชีวิตอยู่กว่า 2 สัปดาห์ แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตลงในที่สุด

เรื่องนี้ชาวโซชียลให้ความสนใจติดตามข่าวให้กำลังใจน้องเอยและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่น้องเอยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งก็ได้มีแฟนเพจเฟซบุ๊กของน้องเอยที่ใช้ชื่อว่าน้องเอยคอยอัพเดทความคืบหน้าการรักษาตัวของน้องเอยจนวินาทีสุดท้าย คือเมื่อเวลาประมาณ 8.50 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2556 ได้มีรูปภาพน้องเอยในชุดสีแดง ถักเปีย 2 ข้าง นอนสงบแน่นิ่ง โดยมีตุ๊กตาตัวสีชมพูนอนอยู่ข้างๆ พร้อมข้อความว่า “หลับให้สบายนะลูก”

และในเวลาต่อมาก็ได้มีการรายงานข่าวว่า นางรัตนา นครโสภา แม่ของน้องเอยแจ้งว่าน้องเสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลกรุงเทพในช่วงเช้าของวันดังกล่าว หลังจากยื้อชีวิตมาถึง 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ส่งผลให้คนขับรถตู้และครูพี่เลี้ยงถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ ที่มาภาพ https www.facebook.comNongAei56fref=ts
ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ ที่มาภาพ https www.facebook.comNongAei56fref=ts

การจากไปของน้องเอยถือเป็นอุธาหรณ์ให้ผู้ที่มีความรับผิดชอบในการดูแลเด็กเล็กต้องมีความรอบคอบ และมีมาตรการคุมเข้มเพื่อความไม่ประมาท แม้ทางคุณแม่และครอบครัวของน้องเอยจะให้อภัยและไม่ติดใจเอาความอะไรครูพี่เลี้ยงและคนขับรถตู้ แต่ก็ยังต้องมีการดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องก็คงจะดำเนินการต่อไปหลังจากสิ้นสุดพิธีศพของน้องเอย

ทั้งน มีการบำเพ็ญกุศลศพน้องเอย ที่วัดคลองเก้า หรือวัดน้อยสุวรรณาราม หมู่ที่ 2 ถนนพุทธรักษา ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ โดยจะตั้งศพไว้สวดพระอภิธรรมจำนวน 5 คืน และจะทำพิธีฌาปณกิจในวันอังคารที่ 30 เมษายน 2556

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สร้างความสลดหดหู่ใจให้ชาวโซเชียลมีเดียจำนวนมาก โดยมีการแชร์รูป ข้อความ อัพเดทความเคลื่อนไหวเรื่องราว พร้อมข้อความให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

“นึกแล้วน่าใจหายนะค่ะติดตามข่าวของน้องมาตลอดนึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อ เป็นแม่มากๆ เลย เราก็มีลูกสาวอายุใกล้เคียงกับน้องเอยเหมือนกัน เด็กเค้าก็ซนตามประสาของเด็ก คนที่ดูแลน้องในยามขึ้นและลงรถต้องตรวจตราให้มากกว่านี้และเอาใจไม่ใช่ว่ามาทำงานรับเงินเดือนไปวันๆ แล้วทำงานแบบชุ่ยๆ สักแต่ว่าทำไปอย่างนั้น ที่พูดมาก็แค่คำแก้ตัว แต่ว่าคงไม่มีใครคิดว่าเหตุผลที่พูดมาฟังขึ้นนะ ขอให้ทางโรงเรียนดูไว้เป็นบทเรียนอันสูงส่งด้วย นึกถึงใจของพ่อแม่เข้าบ้าง”

“ขอให้ดวงจิตดวงน้อยๆ ของน้องไปสู่สรวงสรรค์เป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ขอให้หลับสบายนะคะ ขอให้คุณพ่อคุณแม่สู้ต่อไปนะคะ”

“กว่าพ่อแม่เค้า จะเลี้ยงให้โตมาได้ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เพื่อรอคอยให้ลูกเติบโตมาเป้นผู้ใหญ่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของพ่อแม่ ผู้ร้ายเอ้ย!! จิตใจทำด้วยอะไร มาพรากลูกของพ่อแม่น้องเอย ไปจากอกของเขา จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ผู้ร้ายก็ผิดอยู่ดี ขอให้ได้รับโทษ อย่างหนัก”

“ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในสังคมไทยเราเลย ชีวิตน้อยๆต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะความประมาท เลินเล่อ ไม่รอบคอบของผู้ใหญ่เพียงแค่ไม่กี่คน เป็นอุทาหรณ์อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกในสังคมไทยเรา”

“น่าสงสาร เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่จริง ๆ ค่ะ ในความคิดของหนู สัญชาตญาณของคน ลงจากรถก็ต้องตรวจเช็คทุกครั้งว่าเด็กได้ลืมอะไรไว้ในรถหรือเปล่า เฮ้อสู้ ๆนะคะคุณแม่”

“ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กน่ารักอย่างนี้ด้วย เห็นแล้วหดหู่ใจหน้าสงสารมากจริงๆ ไปสู่สุขคตินะ นางฟ้าตัวน้อย”

เรื่องที่สอง เป็นคลิปที่ถูกแชร์ต่อกันมาก กับพฤติกรรมของผู้จัดการสาวอารมณ์ร้อนประจำโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 เป็นคลิปที่มีชื่อว่า “โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ เซ็นทรัล พระราม 3” ถูกโพสต์ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2556 ภายในคลิปเป็นเรื่องราวที่ผู้จัดการโรงภาพยนตร์ยืนปะทะคารมกับลูกค้าดังลั่นห้างแบบไม่ควบคุมอารมณ์และไม่สนใจสายตาผู้เดินผ่านไปมาและมองอยู่รอบข้าง

สาเหตุของการปะทะคารมนี้เกิดจากการที่คุณลูกค้าผู้ชายคนหนึ่งที่มาดูหนังกับแฟนสาวเดินไปแจ้งกับพนักงานว่า อากาศบริเวณที่นั่งรอพักก่อนชมภาพยนตร์นั้นร้อนอบอ้าวเพราะเครื่องปรับอากาศทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไปสร้างความไม่พอใจให้กับผู้จัดการโรงภาพยนตร์จนเดินมาต่อว่า และขึ้นเสียงใส่ลูกค้าผู้ชายคนดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายใต้คลิปดังกล่าว ในเว็บไซต์ยูทูปมีข้อความระบุไว้ด้วยว่า “หน้าที่ที่ถูกต้องของคนที่ได้ชื่อว่าผู้จัดการ คือการแสดงความรับผิดชอบไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม โดยเฉพาะในเหตุการณ์นี้ ผู้หญิงคนนี้ควรเป็นตัวแทนของเมเจอร์ขอโทษลูกค้าอย่างมีมารยาทและแสดงความรับผิดชอบว่าอากาศร้อนจริง และบอกกับลูกค้าอย่างมีมารยาทว่ากำลังดำเนินการแก้ไขหรือจะรีบปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่แสดงกิริยาแบบนี้”

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คลิปได้แพร่กระจายออกไป ทางเมเจอร์ซีนีิเพล็กซ์ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งผู้จัดการสาวคนนี้ได้ยอมรับถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากอารมณ์ร้อนของตัวเอง ส่งผลให้ทางเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ต้องออกหนังสือปลดพนักงานคนดังกล่าวออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

ที่มาภาพ : https://www.facebook.comphoto.phpfbid=444181449005336&set=a.323872454369570.74351.323835527706596&type=1&theater
ที่มาภาพ: https://www.facebook.comphoto.phpfbid=444181449005336&set=a.323872454369570.74351.323835527706596&type=1&theater

แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่จบ เมื่อมีสมาชิกจากเว็บไซต์พันทิปได้โพสต์ข้อความที่บรรดาพนักงานของโรงภาพยนต์เมเจอร์สาขาอื่นๆ แสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีหลายข้อความใช้คำพูดต่อว่าลูกค้าอย่างรุนแรงและไม่เหมาะสม อาทิเช่น

“ไม่มีญาติผู้ใหญ่ให้รดน้ำดำหัวไง? ดูหนังกันอยู่ได้ กูเหนื่อย!!”

“ไปใช้เงินกันที่อื่นบ้างก็ได้นะคะ -_-^ พยายามใจเย็นอยู่นะ”

“เรียน คุณลูกค้านะคะ ที่พวกมึงบ่นว่าแอร์ร้อนอ่ะ อีควาย ก้อพวกมึงกี่คนเข้าไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เรื่องแอร์ไปร้องเรียนเซ็นทรัลโน้น กูไม่ใช่คนเปิดแอร์เซ็นทรัล เค้าจ่ายแอร์มาให้ และก็เป็นเฉพาะเรื่องพี่มากเท่านั้น โรงอื่นมันก็ปกตินะ ถ้าอยากเย็นมาก แนะนำยกพัดลมที่บ้านมานะ 555555”

แน่นอน ข้อความเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ที่ได้อ่าน จึงเป็นกระแสให้วิพากษ์วิจารณ์และทบทวนถึงหน้าที่ในการทำงานด้านบริการกันมากขึ้น

“เมื่อคุณมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วคุณเป็นคนเลือกงานการให้บริการ ไม่ได้มีใครบังคับคุณให้มาทำงานตรงนี้ คุณต้องยอมรับความคิดเห็นของลูกค้าได้ไม่ว่าจะมาอย่างไร นี้คืองานบริการ ”

“ขาดการอบรมอย่างรุนแรง ควรจัดระบบใหม่นะคะ ฝ่ายอบรมพนักงาน รวมถึงผู้จัดการทุกท่าน ควรอบรมการให้บริการ กริยามารยาท ไม่ใช้คําพูดแย่ๆแบบนี้กับคนที่เรียกว่าลูกค้า ไม่มีลูกค้าพวกคุณก็อยู่ไม่ได้นะคะ”

“พนักงานแบบนี้ เป็นเรานี่ไม่กล้าให้มาทำงานแล้วนะคะ ทัศนคติเยี่ยงนี้เรากลัวลูกค้าเราหาย”

“ถ้าเค้าบริการดี เราควรแสดงน้ำใจด้วยคำว่าขอบคุณหรือให้ทิปนิดหน่อยเพื่อเป็นกำลังใจ แต่ถ้าบริการไม่ดีก็ไม่ต้องต่อปากต่อคำ แต่แค่จำไว้ว่าจะไม่ไปใช้บริการอีกก็แค่นั้น ทำไมคนไทยหลายคน ชอบคิดว่าคนที่มีอาชีพบริการเป็นแค่ทาสรับใช้ คนเราทุกคนก็มีหัวใจเช่นเดียวกัน ถึงเค้าจะทำงานเพื่อแลกเงินก็เถอะ”

“หลักของการเป็นผู้บริหารงานบริการ….ต่อให้ลูกค้าจะผิดหรือถูก หากไม่มีการเกินเลย อย่างไรก็ต้องยอมรับกับการตำหนิ และความเห็นต่องานบริการ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถหาจุดอ่อนข้อบกพร่องในการทำงานมาแก้ไขในการบริหารงานได้ โดยเฉพาะการเป็นผู้จัดการต้องมีวุฒิภาวะในการรับฟังปัญหามากๆ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานของวุฒิภาวะของบุคคล และการพัฒนาของบุคคลากรในองค์กรนั้นๆ หากจะโทษคงต้องโทษองค์กรด้วยที่มุ่งแสวงหาแต่กำไร ขาดการอบรมและพัฒนาพนักงานในทุกระดับ เพราะจะเห็นได้ว่า แม้พนักงานคนอื่นๆก็ยืนดูปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาอย่างเพลิดเพลิน โดยไม่รู้สึกว่ามันกำลังจะเป็นการสร้างปัญหาให้องค์กรของตนเอง ในความเป็นจริงมนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาดด้วยกันทุกคนไม่เว้นคุณผู้จัดการคนนั้น ไม่ว่าเขาว่าเรา จะมากน้อย ก็อยู่ที่การยับยั้งชั่งใจตัวเอง ดังนั้นการหาบุคลากรมาทำงานในงานด้านการบริการควรต้องให้ความสำคัญในด้านความอดทนมากกว่านี้”

“มาตรฐานการดูแลลูกค้าของผู้จัดการน่าจะสูงกว่านี้นะคับ
ลูกค้า : แอร์ร้อนจังเลย ไม่ดูมันแล้ว เอาเงินคืนได้ป่าว
ผู้จัดการ : (ยกมือไหว้ลูกค้า)สวัสดีค่ะ ดิฉัน……เป็นผู้จัดการที่นี่คะ มีอะไรให้รับใช้ค่ะ
ลูกค้า : แอร์ร้อน ไม่ดูมันแล้ว ขอเงินคืน
ผู้จัดการ : ต้องขอประทานโทษด้วยนะค่ะ แอร์เสียไปหนึ่งตัว แจ้งช่างให้มาซ่อมแล้วค่ะ ลูกค้าจะดูรอบต่อไปไหมคะ จะเปลี่ยนตั๋วให้ค่ะ
ลูกค้า : ไม่ ผมขอเงินคืน
ผู้จัดการ : ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีค่ะ ต้องขอประทานโทษอีกครั้งนะคะที่ทำให้ลูกค้าผิดหวัง รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวคืนเงินให้ค่ะ
ลูกค้า : ขอบคุณครับ
ผู้จัดการ : นี่คะเงินค่าตั๋ว และนี่ค่ะโค๊กกับป๊อปคอน แทนคำขอโทษค่ะ หวังว่าคงมาใช้บริการที่นี่อีกนะค่า ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ(ยกมือไหว้ลูกค้า)”

เรื่องที่สาม กระแสตื่นทองจากราคาทองคำที่ลดลงอย่างน่าตกใจ เนื่องจากสถานการณ์ของโลกที่มีการนำทองออกมาเทขาย ทองแท่งได้มีการซื้อขายหมดตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์ ส่งผลให้เมื่อวันพุธที่ 17 เมษายน 2556 ราคาทองปรับลดลงอย่างมากถึงบาทละ 2,350 บาท ส่งผลให้ราคารับซื้อคืนบาทละ 18,900 บาท ขายออก 19,000 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืน 18,631.64 บาท ขายออก 19,400 บาท ลดลง 2,350 บาท ภายในวันดังกล่าว

แน่นอนว่าราคาทองที่ลดลงอย่างมากในวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนต่างพากันไปซื้อทองเพื่อกักตุนไว้เพื่อขายเก็งกำไร จนทำให้ย่านเยาวราชและร้านทองหลายแห่งแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มารอคิวซื้อทองคำ ทั้งทางหน้าเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำก็เกิดปัญหาไปชั่วขณะ เพราะผู้คนที่แห่เข้าไปดูราคาทองคำที่หน้าเว็บไซต์เป็นจำนวนมากเกือบถึงหนึ่งล้านคน

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน เป็นต้นมา หน้าเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของใครหลายคนต่างพากันโพสต์ข้อความและราคาทองคำกันอย่างคึกคัก บางก็ใช้ข้อความที่ติดตลก อาทิ “ราคาทองลง ต้องรีบซื้อ ปีนี้ได้แต่งงานแล้ว” หรือก็เป็นการให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์อย่างจริงจังเพื่อการเก็งกำไรภายในอนาคตกันอย่างมากมาย

ที่มาภาพ : http://variety.horoworld.com46577
ที่มาภาพ: http://variety.horoworld.com46577

“เพิ่มเติม ข่าวว่าราคาหน้าเหมือง อยู่ที่ประมาณบาทละ 14000 – 17000 บาท และจากภาวะต้นทุนของเหมืองที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการทำนายว่าอีก 5-10 ปี ราคาหน้าร้านจะปรับไปที่ บาทละ 41000 บาท ( เอาข้อมูลมาเล่าให้ฟัง จากการคาดการณ์ครับ”

“รอจังหวะดีดกลับขึ้นมา ค่อยปล่อยแล้วซื้อใหม่ พอดีไม่ได้สนใจติดตามข่าว แฟนเขาเห็นราคาลงเลยใจร้อนไปซื้อ พอเรามาเห็นราคาแปลกๆ เลยเช็คข้อมูล ก็เลยได้ข้อมูลมาตามที่เอามาเล่าให้ฟัง หากไม่อยากเจ็บตัวมาก ก็รอจังหวะดีดขึ้นนิดๆ ก็ปล่อยเถอะครับ แต่ถ้าให้ดี พยายามถือไว้รอปลายปีหรือปีหน้าเถอะครับ เผื่อจะได้กำไรขึ้นมาบ้าง”

“ควรจะซื้อเอาไว้ภายในสัปดาห์นี้นะครับ เพราะทองคำขึ้นมาสูงสุดตอนนั้น 24000-27800 แล้วค้างอยู่นานหลายเดือน สุดท้ายตกลงมาอยู่ที่ 22000 นาน สุดท้ายขายยาก นิ่งไม่เคลื่อนไหว จึงใช้กลยุทธเดิมๆ คือ ลดฮวบลงมาทีเดียวเพื่อที่จะให้เกิดการซื้อขายเพื่อเก็งกำไล สังเกตุดูจากเมื่อวาน 18000 วันนี้ 19000 พรุ่งนี้ คาดว่าจะ 20000 จะดึงให้ผู้ซื้อซื้อตามไปเรื่อยๆ คนที่ไปซื้อก็จะได้แต่กระดาษเปล่าๆมา คนที่ซื้อเอาไว้ตอนที่ 22000 ก็จะไม่กล้าขาย ส่วนคนที่จะเก็งกำไลหน้าใหม่จะซื้อตาม สรุปคือ ถ้าจะซื้อควรจะซื้อภายในสัปดาห์นี้เท่านั้น เมื่อต้นปีผมเถียงกับกลุ่มผู้ค้าทองมาแล้วสรุปว่าเขาปั่นกันเอง เพราะว่ามันหยุดนิ่งมานานพวกเราๆ ชาวบ้านไม่ต้องไปดูว่า ดอนล่าร์ ค่าเงินบาท น้ำมัน หรอกนะครับ มันไม่เกี๋ยวกัน นานแล้ว”

“ถึงทองจะลงก็ไม่เป็นไร เราสามารถซื้อทองคำเก็บไว้เก็งกำไรในวันข้างหน้าได้ ช่วงทองลงแบบนี้ท่านที่เลือกซื้อทองคำควรเลือกร้านที่ไว้ใจและเชื่อถือได้ ”

“อันนี้เป้นความเห็นส่วนตัว เชื่อไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ท่าน ราคาทอง ผันผวนมาก แต่มีแนวโน้มลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจับสำคัญที่สุด อยู่ที่ข่าวไซปรัสจะเทขายทอง คาดว่า จะเป้นจริง แต่คงต้องรออีกไม่น้อยกว่า 3 วัน ข่าวจึงจะชัดเจน แนะนำคนที่อยากซื้อตามประสาคนไม่รวยอย่างเราๆ ท่านๆ ให้อดใจรอสักหน่อย อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าราคาทองจะลงไปต่ำกว่า 15,000 บาท ส่วนคนที่คิดจะเก็งกำไรทอง หากเอาแบบระยะสั้น ก็พอเล่นได้ แต่เสี่ยงมากครับ หาจังหวะซื้อเอาได้ตามสะดวก แต่เลือกเวลาปล่อยให้ถูกเองละกัน ( ดูยาก ) ส่วนการเก็งกำไรระยะยาว ( มากกว่า 6 เดือน ) ก็รอซื้อช่วงอาทิตย์หน้าครับ สุดท้าย รอดูข่าว ประมาณสิ้นเดือนนี้ ภายหลังอิตาลิได้ประธานาธิบดีคนใหม่ จะมีแนวโน้มอย่างไร เพราะมีโอกาสเหมือนกันที่อิตาลีกับสเปน จะปล่อยทองบางส้วนออกสู่ตลาด หากปล่อยจริง ทองก็ดิ่งลงไปอีกครับ สรุป คาดว่า สัปดาห์หน้า ทองน่าจะลงไปอีก แต่ไม่น่าต่ำกว่า 17000 บาท และ เดือนหน้า หากสเปน อิตาลี ปล่อยทองมาอีก ก็คงลงอีก แต่ไงก็ไม่ต่ำกว่า 15000 บาท สิ้นปีนี้ หรือ กลางปีหน้า ทองจึงจะขยับขึ้นมาแถวๆ 20000 บาท”

เรื่องที่สี่ เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ถูกปล่อยออกมาเรียกกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากในรอบสัปดาห์นี้ กับคลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า “ทหารใหม่..ถูกลงโทษ!” เป็นเรื่องราวการถูกลงโทษของทหารใหม่ ซึ่งดูแล้วจะเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุจากทหารรุ่นพี่ ซึ่งตามรายงานข่าวได้บอกว่า สาเหตุมาจากการที่ทหารคนดังกล่าวมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับทหารใหม่ด้วยกัน จนสร้างความไม่เป็นระเบียบในค่ายทหาร

ในคลิป ที่เห็น เป็นการถูกลงโทษที่อ้างว่าตามระเบียบ โดยทหารรุ่นพี่ที่อยู่ในคลิปมีการพูดและสื่อสารภาษาสำเนียงทางใต้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุเรื่องราวใดอย่างแน่ชัดเจน

ที่มาภาพ: http://www.google.co.thimgresum=1&hl=th&biw=1280&bih=640&tbm=isch&tbnid=tGyTFrrMdQjpvM&imgrefurl=httpnews.springnewstv.tv
ที่มาภาพ : http://www.google.co.thimgresum=1&hl=th&biw=1280&bih=640&tbm=isch&tbnid=tGyTFrrMdQjpvM&imgrefurl=httpnews.springnewstv.tv

“คนนอกไม่มีทางรู้หรอกว่าข้างในเ­ป็นกันอย่างไร มีอีกหลายกรณีที่ไม่มีการบันทึกไว้ ขอยืนยันว่ามีแรงกว่านี้แน่นอน (โดนมากับตัว) ที่สำคัญที่สุดคือพลังใจ ขอให้น้อง อดทนไว้เดี๋ยวอะไรก็ผ่านไป”

“ถ้ามองในมุมมองของผมนะทหารบางที อาจจะต้องใช้กำลังในการตัดสินปัญหาเพื่อให้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ในระเบียบ และข้อบังคับ แต่ไม่ใช่ต้องถึงกับรุมเตะเลยนี้ ผมก็ไม่เข้าใจนะ”

“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป คาดว่าจะมีการหนีการเกณฑ์ทหาร เป็นประจำอย่างแน่นอน”

“เป็นเรื่องปกติ ทหารต้องมีความอดทน อดกลั้น แข็งแกร่งทนได้ทุกรูปแบบ ไม่งั้นจะปกป้องประเทศได้ไง ในสนามรบโหดกว่านี้เป็น 100 เท่า คิดหน่อย ก่อนจะวิพากวิจารณ์”

“การส่งลูกเป็นทหารเกณฑ์เพื่อรับใช้ชาติ เขาทำผิดทะเลาะวิวาทไม่น่าจะลงโทษขนาดนี้ รุมกันยิ่งกว่าเขาเป็นมาฆกรนะ น่าจะส่งครูฝึกเหล่านี้ไปสู้กับโจรใต้นะเพราะมันอึดดี ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบด้วยผมรับไม่ได้มีลูกชายอีกคนจะไม่ให้เกณฑ์ทหารจะส่งไปฝึกที่สามจังหวัดใต้สู้กับครูฝึกสามคนนี้”

“บทลงโทษทหารที่ทำผิด??? ใช้อารมณ์บวกความรุนแรงร้ายแรงขนาดนี้เลยหรอ ในที่ของคุณตัดสินว่าต้องโดนตีนโดนตบแบบนี้เหรอ น่าเห็นใจพ่อแม่เค้านะถ้าเห็นลูกไปฝึกทำผิดมากมายขนาดไหนถึงต้องโดนลงโทษขนาดนี้ในสถานที่แบบนี้ เค้าจะสำนึกหรือแค้นใจลุกมาแย่งปืนยิงคุณ นั่นแหละค่อยล้อมคอกกันใหม่”

เรื่องที่ห้า แอพลิเคชันฮิตล่าสุด กระจายทั่วอย่างรวดเร็วทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมอย่างเรียกได้ว่าเพียงข้ามคืนวันพุธที่ 17 เมษายน จนตลอดวันที่ 18 เมษายน เรื่อยมา ชาวออนไลน์ต่างพาดันถ่ายรูปและโพสต์ข้อความจากแอพฯ ท้ายรถสิบล้อ ที่มีชื่อว่า “ติ๊กเก้อ” กันเต็มไปหมด

เจ้าแอพลิเคชัน “ติ๊กเก้อ” หรือย่อมาจากชื่อ “สติ๊กเกอร์” นี้ถูกสร้างโดย By Absolute Play Co., Ltd. ซึ่งแอพลิเคชั่นนี้อยู่ในหมวดรูปภาพและวีดิโอ (Photo & Video) ซึ่งแน่นอน จุดเด่นของเจ้าแอพฯ ตัวนี้ ก็อยู่ที่ข้อความ เสี่ยวๆ โดนๆ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าข้อความท้ายรถสิบล้อ ที่เมื่อนำประกอบกับรูปภาพแล้วมันช่างดูฮาจนอดใจที่จะโหลดไว้ไม่ได้กันจริงๆ จึงขอนำภาพพร้อมข้อความฮาๆ มารวบรวมไว้ให้ได้ชมกันด้วย

แอพพลิเคชั่น 'ติ๊กเก้อ'
แอพพลิเคชั่น ‘ติ๊กเก้อ’
ตัวอย่างภาพจากแอพพลิเคชั่น 'ติ๊กเก้อ'
ตัวอย่างภาพจากแอพพลิเคชั่น ‘ติ๊กเก้อ’

“ดังแค่ชั่ว ข้ามวันข้ามคืน เมือวานเต็มหน้าเฟสบุ๊คเลยยย//เราก็โหลดมาเล่น น่ารักดี ฮาๆๆๆ”

“เขามีแล้ว โหลดมามะคืน เสี่ยวมาก 55555555”

“Samaung หลายรุ่นโหลดไม่ได้..อุปกรณ์ไม่รองรับ..พิมพ์ชื่อถูกทุกอย่าง”

“ถ้าของ ซัมซุง เอนดรอย จะต้องเวอร์ชั่น 3.0 ขึ้นไปเท่านั้นครับ ไม่งั้นเล่นไม่ได้ ”

“เปิดหน้าเฟซบุ๊ค เจอแต่ราคาทองกับ ติ๊กเก้อ ใครไม่มีเดี๋ยวคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง”

“รีบเล่น เดี๋ยวเอ้าแล้ว คนไทยขี้เบื่อนะจ้าาาา”