ThaiPublica > เกาะกระแส > เก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” จุดแตกหัก “พล.อ.อ.สุกำพล – พล.อ.เสถียร” เกมชิงอำนาจ – ผลประโยชน์ในกองทัพ

เก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” จุดแตกหัก “พล.อ.อ.สุกำพล – พล.อ.เสถียร” เกมชิงอำนาจ – ผลประโยชน์ในกองทัพ

27 สิงหาคม 2012


พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำกระเช้าอวยพรในวันคลายวันเกิดครบรอบ 61 ปี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดปัญหาความขัดแย้งกันต่อการเสนอ “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่
พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำกระเช้าอวยพรในวันคลายวันเกิดครบรอบ 61 ปี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดปัญหาความขัดแย้งกันต่อการเสนอ “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่

ตำแหน่ง “ปลัดกลาโหม” คนใหม่กลายเป็น “จุดแตกหัก” ที่ทำให้ “บิ๊กโอ๋” พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กับ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกลาโหม ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง

เหตุจากความเห็นไม่ตรงกันต่อการเสนอชื่อแคนดิเดต “ปลัดกลาโหม” คนใหม่ ที่ทาง “พล.อ.เสถียร” เปลี่ยนใจช่วงโค้งสุท้าย ไม่เสนอ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน (ตท.11) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เพื่อนร่วมรุ่น (ตท.11) แต่จัดทำบัญชีรายชื่อเสนอ “บิ๊กกี๋” พล.อ.ชาตรี ทัตติ (ตท.14) รองปลัดกลาโหม ที่มีอาวุโสและเป็นคนในกระทรวงแทน

ขณะที่ “พล.อ.อ.สุกำพล” ชงให้ “พล.อ.ทนงศักดิ์” ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในตำแหน่งข้าราชการประจำ โดยทาง “รมว.กลาโหม” ยืนยันว่า “พล.อ.ทนงศักดิ์” เหมาะสมเพราะเป็นรุ่นพี่ มีโปรไฟล์ที่ดี ผ่านการทำงานในตำแหน่งสำคัญการคุมกำลัง

ถ้าหากให้ “พล.อ.ชาตรี” ขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” ในปีนี้คงไม่เหมาะสม และยังไม่ถึงเวลา เพราะหากมีงานพิธีการต่างๆ “ปลัดกลาโหม” ต้องยืนอยู่แถวหน้านำ “ผบ.เหล่าทัพ” ที่เป็นรุ่นพี่ “ตท.12 – ตท.13” ดังนั้น ไม่น่าเหมาะเท่าใดนัก…

จุดเริ่มการแตกหัก ภายหลัง “พล.อ.เสถียร – ผบ.เหล่าทัพ” ตบเท้าอวยพร “พล.อ.อ.สุกำพล” ใน โอกาสคล้ายวันเกิดครบ 61 ปี เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งหลังเสร็จพิธี “รมว.กลาโหม” ได้เชิญ “พล.อ.เสถียร” และ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. “บิ๊กหรุ่น” พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. เข้าหารือนอกรอบในห้องรับรอง “รมว.กลาโหม” โดยที่ “บิ๊กเฟื่อง” พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ไม่ได้เข้าร่วมหารือเพราะเดินทางไปอำลาตำแหน่งที่ต่างแดน

“ในวันนั้น พล.อ.เสถียรได้เสนอรองปลัดชาตรีให้เป็นปลัดกลาโหม แต่ทาง พล.อ.อ.สุกำพลเสนอผู้ช่วย ผบ.ทบ. ให้ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม ซึ่งในที่หารือนั้นบรรดา ผบ.เหล่าทัพต่างเห็นด้วยกับ พล.อ.อ.สุกำพล” แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงกลาโหมยืนยัน

ทำให้ “พล.อ.เสถียร” ต้องทำหนังสือขอเข้าพบ “สตรีหมายเลข 1” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อชี้แจงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพลประจำปี 2555 ในส่วนกระทรวงกลาโหม โดยมีเนื้อหาระบุ การเสนอชื่อผู้มาดำรงตำแหน่ง “ปลัดกลาโหม” ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนด

รวมถึงบอกถึงพฤติกรรม “พล.อ.อ.สุกำพล” ในการก้าวก่ายแทรกแซง ใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ม.266, ม. 268, ม.279, ม. 280 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2551 ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล พ.ศ. 2551 รวมถึงระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ. 2551

พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แคนดิเดตที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่
พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แคนดิเดตที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่

เรียกได้ว่า “พล.อ.เสถียร” งัดข้อกฎหมายมาสู้แบบเต็มๆ

“ผมยึดถือความถูกต้อง ไม่ให้ใครมากล่าวโจมตีได้ว่ามีการแทรกแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องรักษาระบบ รักษากฎหมายบนพื้นฐานความถูกต้องในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ ผมยอมให้เพื่อนด่า เพราะ พล.อ.ทนงศักดิ์ก็เป็นรุ่นเดียวกัน แต่ผมต้องยึดความถูกต้อง มิเช่นนั้นต่อไปหลักการจะเสียหาย จะมาล้วงลูกในหน่วยงาน จะเอาใครก็ได้ตามอำเภอใจมันคงไม่ใช่ ถ้ามีการโหวตกันในคณะกรรมการพิจารณานายทหารชั้นนายพลจะเอาตามรายชื่อที่เสนอไปหรือไม่ ถ้าผมแพ้โหวตก็ไม่ว่ากัน ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว” พล.อ.เสถียรยืนยัน

การกระทำของ “พล.อ.เสถียร” ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจต่อ “พล.อ.อ.สุกำพล” อย่างมาก และให้ฝ่ายกฎหมายดูในเรื่องนี้ว่า กรณี “พล.อ.เสถียร” ผิดวินัยในข้อหาขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาและกระด้างกระเดื่องต่อหน้าที่หรือไม่

ขณะที่ “พล.อ.เสถียร” เตรียมงัด พ.ร.บ.การจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม 2551 (พ.ร.บ.กลาโหม) มาสู้กับ “เจ้ากระทรวง” งานนี้ความขัดแย้งดังกล่าวยังลุกลามไปถึงคนที่พำนักต่างแดน “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ต่างฝ่ายต่างยกตัวว่า “สายตรง”

นอกจากนี้ “พล.อ.เสถียร” ยังมีหลังบ้านอย่าง “ดร.ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์” ภริยา ที่มีตำแหน่งเป็นถึงนายกเทศมนตรีตำบลคำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย (พท.) ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จนทำให้สามารถยึดเก้าอี้ ส.ส. มาได้เกือบยกจังหวัดถึง 6 ที่นั่งเลย

อีกทั้งในช่วงที่มีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มักมีการพูดถึงการปรับ “พล.อ.อ.สุกำพล” ออกจากตำแหน่งนั้น จะมีชื่อ “พล.อ.เสถียร” เป็นหนึ่งในแคนดิเดตในตำแหน่ง “เสนาบดี”

โดยเฉพาะยิ่งมีข่าวว่าจะมีการปรับ ครม.หลังเดือน ต.ค. นั้น เป็นช่วงหลังเกษียณอายุราชการของ “พล.อ.เสถียร” ก็ยิ่งทำให้ “พล.อ.อ.สุกำพล” ยิ่งมองข้ามไม่ได้

มีแต่การคาดเดาว่า “นายใหญ่” จะห้ามทัพ “คนกันเอง” และเคลียร์อย่างไร แต่ที่แน่ๆ งานนี้ มีแววว่า “นายกฯ” จะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง เพราะเป็นเรื่องภายในกระทรวงที่สามารถไปทำความเข้าใจตกลงกันได้ ที่สำคัญ หากยื่นมือเข้าไปยุ่งอาจทำให้ผิดกฎหมายจากการแทรกแซงข้าราชการประจำ

นอกจากนี้ “ขงเบ้ง” แห่งกองทัพไทย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ก็พยายามผลักดัน “พล.อ.ชาตรี” อดีตนายทหารคนสนิทที่เดินติดตามมาตลอดตั้งแต่สมัยยังเด็ก ให้ได้ตำแหน่ง “ปลัดกลาโหม” ในครั้งนี้

พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม แคนดิเดตที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่
พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม (ซ้าย )และ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม (ขวา)แคนดิเดตที่ถูกเสนอชื่อให้เป็น “ปลัดกระทรวงกลาโหม” คนใหม่

ขณะเดียวกัน การทำหนังสือถึงนายกฯ ทำให้บรรดา “บิ๊กกองทัพ” ต่างแปลกใจ เหตุใด “พล.อ.เสถียร” ถึงมีหนังสือถึง “นายกฯ” ทั้งๆ ที่การจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารยังไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นทางการเลย

อีกทั้งบัญชีรายชื่อต่างๆ ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ต้องมีการหารือกันอีก เพื่อให้รายชื่อมีความเหมาะสมและลงตัว โดยเฉพาะตำแหน่ง “ปลัดกลาโหม” ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป….

จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามในกระทรวง

และที่สำคัญ “พล.อ.ชาตรี” มีอายุราชการอีก 3 ปี ทำให้ยังมีเวลารอเพื่อขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” ในปีหน้าก็ได้ แต่กลับมีแต่ข่าวว่า “พล.อ.ชาตรี” ต้องการขึ้นเป็น “ผู้นำสูงสุด” ของข้าราชการประจำในปีนี้เลย โดยที่ “พล.อ.ชาตรี” ก็เก็บตัวเงียบ ไม่แสดงปฏิกิริยาปฏิเสธหรือตอบรับใดๆ

ถ้าหาก “พล.อ.เสถียร” เปลี่ยนเสนอชื่อ “บิ๊กหนู” พล.อ.อ.บุญยฤทธิ์ เกิดสุข (ตท.11) รอง ผบ.สส. เพื่อนร่วมรุ่น (ตท.11) ขึ้นเป็น “ปลัดกลาโหม” แรงต้านและคำถามคงไม่มีเยอะแบบนี้ เพราะมีความอาวุโส เป็นรุ่นพี่ของ “ผบ.เหล่าทัพ” ก็คงไม่น่ามีปัญหา

เพียงแต่ “พล.อ.อ.บุญยฤทธิ์” มีอายุราชการถึงปี 57 ก็อาจทำให้ “ผู้ที่รอ” นั่งเก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” อาจรอไม่ไหว ดีไม่ดีนานถึง 2 ปีสถานการณ์อาจเปลี่ยนได้ อาจต้องกินแห้ว

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พูดคุยกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส., พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ ก่อนเข้าหารือนอกรอบในเรื่องบัญชีรายชื่อการโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พูดคุยกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส., พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ., พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.พิธพร กลิ่นเฟื่อง ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ ก่อนเข้าหารือนอกรอบในเรื่องบัญชีรายชื่อการโยกย้ายนายทหารประจำปี 2555

จึงทำให้ศึกชิงเก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” มีแคนดิเดตเพียง 2 คนเท่านั้น คือ “พล.อ.ทนงศักดิ์” ที่สามารถนั่งทำงานบริหารข้าราชการภายในกระทรวงกลาโหม 1 ปี ขณะที่ “พล.อ.ชาตรี” หากนั่งในตำแหน่งจะมีเวลาบริหารงานยาวถึง 3 ปี

จากที่ทุกฝ่ายคาดว่าจะมีการ “เคลียร์” ระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล” กับ “พล.อ.เสถียร” ที่จะหาเวลาคุยกันในสัปดาห์นี้ รวมถึงคณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหมที่มี 7 คน ที่มี รมว.กลาโหม, ปลัดกลาโหม, ผบ.สส., ผบ.ทบ., ผบ.ทร., ผบ.ทอ. และ รมช.กลาโหม (หากมี) มีคิวประชุมเพื่อหาข้อยุติในเรื่องดังกล่าว พร้อมนำบัญชีรายชื่อการโยกย้ายนายทหารทั้งหมดมาคุยกันให้เสร็จ ตามมาตรา 25 พ.ร.บ.กลาโหม 2551

รวมทั้งจะถึงขั้นที่คณะกรรมการของบอร์ดกระทรวงกลาโหมต้องเสนอชื่อเพื่อโหวตตัดสินเป็นครั้งแรกตั้งแต่มี พ.ร.บ.กลาโหม 2551 หรือไม่นั้น คงขึ้นอยู่กับการพูดคุยฉันมิตรแบบพี่น้องของชายชาติทหารด้วยกัน

แต่สุดท้าย…ล่าสุด ปฏิบัติการของ “พล.อ.เสถียร” พร้อมพวกก็เจอตอจนได้…เมื่อทาง “น.ส.ยิ่งลักษณ์” ไม่รับลูกในเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ให้ไปเคลียร์กันเองเพราะเป็นเรื่องภายในกระทรวง…

และที่หนักกว่านั้น “พล.อ.อ.สุกำพล” เอาจริง…มีคำสั่งเด้งฟ้าผ่า!!! ให้ทาง 3 นายพลเข้ากรุ…คือ “พล.อ.เสถียร” , “พล.อ.ชาตรี”, “บิ๊กหน่อง” พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ เจ้ากรมเสมียนตรา ไปช่วยราชการ…เมื่อวันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2555

คำสั่งกระทรวงกลาโหม(เฉพาะ) ที่ 383/55 เรื่องให้นายทหารช่วยปฏิบัติราชการเพื่อให้การบริหารราชการในกระทรวงกลาโหมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 9 และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551

ในความผิดทางวินัย ข้อหานำความลับทางราชการไปเผยแพร่ สร้างความสับสนจนทำให้ภาพลักษณ์กระทรวงเสียหาย !!!

พร้อมตั้ง “บิ๊กอู๊ด” พล.อ.วิทวัส รชตะนนท์ รองปลัดกลาโหม ปฏิบัติหน้าที่แทน “ปลัดกลาโหม” และมีอำนาจทุกอย่างเต็ม รวมถึงมีสิทธิ์จัดโผทหาร…

งานนี้ต้องดูจะมีการล้างบัญชีรายชื่อทหาร “พล.อ.เสถียร” ที่ทำไว้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ฝ่ายค้านได้นำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีแล้ว ว่าเด้ง “พล.อ.เสถียร” มีใบสั่งทางการเมือง เพื่อเปิดทางเก้าอี้ “ปลัดกลาโหม” คนใหม่…

อ่านเพิ่มเติมล่าสุด