ThaiPublica > คอลัมน์ > ถอดบทเรียนอยู่กับน้ำ – วิธีรับมือกับน้ำท่วมทุ่ง ของ “วันเดอร์เวิร์ล”

ถอดบทเรียนอยู่กับน้ำ – วิธีรับมือกับน้ำท่วมทุ่ง ของ “วันเดอร์เวิร์ล”

10 พฤศจิกายน 2011


สุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง
กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันเดอร์เวิร์ล โปรดัคส์ จำกัด
ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เอเชีย (ประเทศไทย) (SVN)

ผมในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องต่อสู้กับน้ำทุ่งที่หลากมาจากอยุธยา เป็นด่านต้น ๆ ของปริมณฑล ทำให้การเตรียมตัวค่อนข้างขลุกขลัก แต่ก็มีการเตรียมในระดับหนึ่งในระหว่างที่ผมอยู่ต่างประเทศ ผมเดินทางกลับมาคืนวันที่ 16 ตุลาคม 2554 เข้าโรงงานเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นวันที่น้ำเริ่มเอ่อสูงขึ้นประชิดโรงงานพอดี

โรงงานวันเดอร์เวิร์ล อยู่ที่ปทุมธานีมา 18 ปี บนเนื้อที่ 10 ไร่ มีบ่อน้ำขนาดย่อมอยู่ด้านหน้า (ซึ่งเป็นประโยชน์มากต่อการป้องกันน้ำท่วม) เปรียบเสมือนกล่องที่ถูกสร้างมานานแล้ว แต่ไม่เคยแช่น้ำเลย จนกระทั้ง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถูกทดสอบเอากล่องไปแช่น้ำ แน่นอนครับน้ำซึมเข้าทุกทิศทาง ตามรอยแนวรั้ว และมุดรั้วเข้ามาตลอดเวลา การพยายามนำกระสอบทรายไปอุดรูรั้วจะไม่ได้ผลอย่างสิ้นเชิง ซ้ำร้ายจะทำให้แผลใต้ดินซึ่งนุ่มอยู่แล้วขยายใหญ่ขึ้นด้วย ถึงแม้จะอุดได้บางจุด น้ำจะดันซอกแซกไปหาจุดใหม่ได้เสมอ เราไม่มีทางเอาชนะพลังน้ำได้หรอกครับ

ผมใช้วิธีถอยจากแนวรั้วมาระยะประมาณ 1 – 1.5 เมตร ตั้งแนวกำแพงกระสอบทรายใหม่ ปล่อยให้น้ำรั่วซึมแนวรั้วเข้ามาแต่โดยดี น้ำจะเอ่ออยู่ในแนวกระสอบทรายกับรั้ว จนกระทั่งระดับน้ำภายในรั้วเท่ากับระดับภายนอก น้ำจะหยุดที่ระดับนี้นิ่งไม่แผลงฤทธิ์ต่อไป ทั้งยังเป็นการรักษาแนวกำแพงเก่าไม่ให้รับแรงดันภายนอกอย่างเต็มที่ เพราะกำแพงจะจมอยู่ในน้ำระหว่างภายในและภายนอก

ถอยจากแนวรั้วมาระยะประมาณ 1 – 1.5 เมตร ตั้งแนวกำแพงกระสอบทรายใหม่ ปล่อยให้น้ำรั่วซึมแนวรั้วเข้ามาแต่โดยดี
ถอยจากแนวรั้วมาระยะประมาณ 1 – 1.5 เมตร ตั้งแนวกำแพงกระสอบทรายใหม่ ปล่อยให้น้ำรั่วซึมแนวรั้วเข้ามาแต่โดยดี

สำหรับท่อระบายน้ำในโรงงาน จะถูกน้ำจากภายนอกดันน้ำเอ่อล้น เราเอากระสอบทราบกั้นเป็นบ่อสูงขึ้นเพื่อให้น้ำเอ่อล้นจนระดับเท่ากับระดับน้ำภายนอกน้ำจะหยุดไหลต่อ ถ้าเราอุดระบบท่อทั้งหมดน้ำที่อยู่ใต้พื้นโรงงานจะสะสม แรงดังที่มากขึ้นจนอาจระเบิด แตก ทำให้น้ำทะลักจนเราไม่สามารถป้องกันได้ ฉะนั้นหลักการทั้งหมดที่ใช้คือ การให้น้ำระบายแรงดัน และจัดหาพื้นที่ให้เธออยู่อย่างเหมาะสม เธอก็จะไม่อาละวาดต่อไป

ฟังดูไม่ยากเย็นอะไรนะครับ

ประเด็นอยู่ที่เวลา กระสอบทรายและปั๊มน้ำ ต้องทันเวลาและเพียงพอ เพราะน้ำจะขึ้นเร็วมาก และถนนที่ถูกตัดขาดในเวลานั้นทำให้การลำเลียงสิ่งที่ต้องการทำได้ยากยิ่ง สำหรับผมเองใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีวิกฤติอยู่ 3 คืน ที่มองน้ำเอ่อล้นภายในโรงงานจะเข้าตัวอาคาร ถ้าไม่ได้กระสอบทรายและปั๊มน้ำเพิ่มในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น

ต้องขอบคุณคุณจงเกียรติ อนันตอัมพร (รองประธาน SVN) ที่ช่วยซื้อเครื่องปั๊มน้ำในแถบที่ยังหาซื้อได้อยู่ พร้อมส่งช่างมาช่วยถอด control และมอเตอร์ของเครื่องจักรใหญ่ ๆ ให้อีกด้วย และขอขอบคุณสำหรับพื้นที่สำหรับย้าย stock บางส่วนไปที่โกดังของคุณวีรเดช และคุณจงเกียรติ

ขอขอบคุณ คุณวิเชียร ที่พอดีมาเยี่ยมและติดเกาะอยู่เรา 3 วัน 4 คืน และยังเป็นกำลังสำคัญในการวางกระสอบทราย

ขอขอบคุณ คุณแอน SVN ที่ติดต่อประสานงานกับโลกภายนอก ในการหาทรายในยามวิกฤติ ได้สำเร็จเหนือความคาดหมาย

ขอขอบคุณกำลังใจทุกคนที่แสดงความห่วงใย และหยิบยื่นความช่วยเหลือ (ถ้าต้องการ)

และขอขอบคุณ พนักงานทุก ๆ คน ของวันเดอร์เวิร์ล ซึ่งถึงแม้น้ำจะท่วมบ้านตนเอง ก็ยังมาช่วยกู้โรงงานให้ปลอดภัย

ขณะนี้เราได้เปิดดำเนินการมากว่า 5 วันแล้ว มีพนักงานมาทำงานได้โดยวิธีต่าง ๆ กัน เช่น พายเรือมาเป็นส่วนใหญ่กว่า 70 % แล้ว มีบางส่วนประมาณ 40 คน พักอยู่ในบริเวณโรงงาน พร้อมเปิดโรงครัวประกอบอาหารให้ทุกคนมาทานได้วันละ 3 มื้อ พร้อมมีถุงยังชีพให้กับพนักงานเพื่อหุงหากันเองกับครอบครัวอีกด้วย

ครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญในการเผชิญการทำงานร่วมกัน ในยามวิกฤติ และเรามักพบว่าหลังวิกฤตเราจะแข็งแกร่งขึ้นเสมอ แต่สำหรับรัฐบาลเช่นกันครับ ถ้าเขาทำให้คนไทยผ่านวิกฤติได้ เขาจะแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าทุกคนอยู่ในวิกฤติ รัฐบาลจะอ่อนแอจนไม่สามารถเป็นที่ไว้วางใจได้ และหวังว่าเขาจะต้องวิกฤติมากกว่าเรา