นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าหลังจากที่มีปัญหาน้ำท่วมเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ชั้นนอกของกรุงเทพมหานคร ตนและนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่ไปตรวจดูคลองส่งน้ำประปาบางเขน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของการประปานครหลวง(กปน.)ที่รับผิดชอบพื้นที่บางเขนได้ชี้ให้เห็นว่ามีจุดล่อแหลมตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งตอนนั้นก็คาดว่าเรื่องน้ำประปาที่ประชาชนใช้ในการบริโภค น่าจะเป็นประเด็นปัญหาอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร
“หลังจากนั้นผมก็ได้นำข้อมูลที่ได้พบเห็นเขียนลงในเฟซบุ๊ค ขอให้ระมัดระวังในเรื่องของคุณภาพน้ำประปา ทันใดนั้น นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง ได้ออกมาปฏิเสธผ่านเฟซบุ๊คของตนเองว่าไม่เคยเจอกับนายกรณ์ จาติกวณิชเลย ผมจึงโทรศัพท์ไปชี้แจงกับผู้ว่ากปน.ว่าผมไม่เคยเจอกับท่านผู้ว่ากปน. และไม่เคยพูดพาดพิงถึงท่านด้วย ท่านจะมาเดือดเนื้อร้อนใจไปทำไม ผมไม่ได้มาสร้างปัญหาให้ท่านน่ะ แต่ผมขอให้ท่านผู้ว่าดูเรื่องคุณภาพของน้ำประปาให้ดีๆ ”
นายกรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า “แต่ในวันนี้ผมเป็นห่วงเรื่องคุณภาพของน้ำประปามาก หลังจากที่มีข่าวพบศพลอยน้ำอยู่ในคลองประปา มาติดตะแกรงกรองเศษขยะของสถานีสูบน้ำบางซื่อ สะท้อนให้เห็นว่ามีของเสียปนปะอยูในน้ำประปาในปริมาณมากแค่ไหน ตอนนี้มีน้ำเสียไหลเข้ามาในคลองประปาค่อนข้างมาก ขณะที่กระบวนการในการฟอกน้ำเสียให้เป็นน้ำดีมีไม่เพียงพอ เมื่อกำลังการผลิตมีแค่นี้ ทำให้กปน.ต้องลดกำลังการผลิตน้ำประปาลง เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำประปา”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมานี้ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขวิกฤติคุณภาพน้ำดิบ การประปานครหลวง (ศอน.กปน.) ได้ออกแถลงข่าวว่า จากการเสริมกระสอบทรายยักษ์ (BIG BAG) บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และบริเวณคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลบ่าลงมาลดน้อยลงช่วยให้การเสริมความแข็งแรงตามแนวคันคลองประปา ทำได้ดีขึ้น ทำให้ค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำ (DO) มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับระดับน้ำในคลองประปาเมื่อวานนี้(4 พ.ย.)ลดลงเพียง 6 เซนติเมตร เนื่องจากยังต้องรักษาระดับให้สูงใกล้เคียงกับระดับน้ำนอกคันคลองประปา เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่คันคลอง จึงถือได้ว่าภาพรวมสถานการณ์ของการประปานครหลวงมีแนวโน้มดีขึ้น
ส่วนการผลิตน้ำประปาเพื่อบริการประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ในขณะนี้มีการทดลองปรับการใช้สารเคมี ทำให้สีและกลิ่นของน้ำประปาดีขึ้น ส่งผลให้การผลิตจ่ายน้ำประปาที่โรงงานผลิตน้ำบางเขน เพิ่มขึ้นอีกเป็นวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเวลาปกติ ส่วนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งรับน้ำจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขณะนี้ให้บริการน้ำประปาที่มีปริมาณและคุณภาพได้ใกล้เคียงปกติแล้ว
ขณะที่ข้อมูลของศูนย์ปฎิบัติการบรรเทาปัญหามลพิษในพื้นที่ประสบอุทกภัย 2554 ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจวัดคุณภาพของน้ำในแหล่งน้ำท่วมขัง 15 จุด ณ วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้สรุปสถานการณ์คุณภาพน้ำโดยรวมดังนี้ กล่าวคือ ในพื้นที่ประสบอุทกภัยที่มีน้ำท่วมขังประมาณ 15 จุดที่อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมากมีประมาณ 39 %, อยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมีประมาณ 27 %,อยู่ในเกณฑ์พอใช้มีประมาณ 27 % และอยู่ในเกณฑ์ดีมีประมาณ 7 % โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงจังหวัดนนทบุรี และคลองประปาคุณภาพน้ำยังคงอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมมากเช่นเดิม
ด้านการประปานครหลวง ก่อนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้นางจงกลนี อาศุเวทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพน้ำ การประปานครหลวง ออกแถลงข่าวชีแจ้ง โดยยืนยันว่า น้ำประปาไม่มีเชื้อโรค และสารเคมีเจือปน ส่วนสีและกลิ่นของน้ำประปานั้น เกิดจากสารอินทรีย์ที่ทำให้น้ำประปาเปลี่ยนแปลงไปเฉพาะลักษณะทางกายภาพ(ที่มองเห็นและสัมผัสได้) แต่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพ เนื่องจากไม่มีเชื้อโรค สารอันตราย และสารพิษต่างๆ ปนเปื้อนในน้ำประปา ขอให้ประชาชนมั่นใจคุณภาพของน้ำประปายังเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
“หากประชาชนไม่รังเกียจสีและกลิ่นดังกล่าว ก็ยังสามารถนำมาอุปโภคบริโภคได้ หรือหากนำไปต้มโดยการเปิดฝาภาชนะไว้ ก็ช่วยลดกลิ่นและสีลงไปได้บ้าง” นางจงกลนีกล่าว (ดูแถลงข่าวฉบับเต็ม)
อนึ่ง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ทาง สน.เตาปูนได้รับแจ้งเหตุ พบเศษชิ้นส่วนขาคน 1 ข้างไม่ทราบเพศ ลอยมาติดตะแกรงกรองน้ำของสถานีสูบน้ำบางซื่อ คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จึงได้ส่งเศษชิ้นส่วนศพสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจตรวจสอบ
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
