แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษในกระทรวงการคลังที่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเข้ามารื้อในชุดที่ 2 คือ การจัดซื้อจัดจ้างริสต์แบนด์ “WRISTBAND” ล็อตที่ 3 จำนวน 1 ล้านชิ้น ขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในสมัยนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ขณะนี้บริษัทเทิร์นอะราวด์ จำกัด ได้ทำใบเสนอราคาเข้ามาที่กระทรวงการคลังแล้วในราคา 38 บาท แต่ทางทีมงานของนายธีระชัยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไปตรวจสอบราคาแล้ว พบว่าราคาต้นทุนที่ขายกันอยู่ที่หน้าเว็บไซด์ของบริษัท แอดวานซ์ ฟินิชชิ่ง จำกัด ขายอยู่ที่ราคา 18-19 บาท และคาดว่าต้นทุนจริงอาจจะไม่เกิน 10 บาทต่อชิ้น เพราะสั่งทำเป็นจำนวนมากถึง 1 ล้านชิ้น แกะบล็อคเพียงครั้งเดียว จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษผ่านบริษัทเทิร์นอะราวด์เอาไว้ก่อน จากนั้นให้ออกประกาศเชิญชวนให้ผู้ประกอบการด้านนี้เข้ามาประมูลงานเป็นการทั่วไป
หลังจากกระทรวงการคลังสั่งยกเลิกกการประมูลงานในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานกับทีมงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่าทางบริษัทคู่สัญญาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับกระทรวงการคลัง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูล พบว่าทางกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทเทิร์นอะราวด์ มีแต่ใบเสนอราคาเข้ามา เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถฟ้องได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ใช้วิธีพิเศษจ้างบริษัทเทิร์นอะราวด์ ทำริสต์แบนด์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกนั้นทำเป็นสายเดี่ยว ครั้งที่ 2 ทำเป็นสายคู่ สั่งทำครั้งละไม่เกิน 1 ล้านชิ้น บริษัทนำมาขายให้กับกระทรวงการคลังชิ้นละ 38-39 บาท จากนั้นทางกระทรวงการคลังได้ส่งไปขายผ่านสาขาของแบงก์รัฐและแบงก์เอกชนในราคาชิ้นละ 99 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 60 บาทต่อชิ้นจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ
โครงการจัดซื้อริสต์แบนด์ในครั้งนี้ เคยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนายการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาแล้วในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการโดยตำแหน่ง แต่ตอนนี้ประธานการจัดงานฯได้เปลี่ยนมาเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งประเด็นนี้ก็ไม่มีผลผูกพันอะไรกับสัญญาจ้างบริษัทเทิร์นอะราวด์ เพราะการจัดซื้อจัดจ้างเป็นสิทธิของกระทรวงการคลัง
สำหรับราคาริสต์แบนด์ที่เจ้าหหน้าที่กระทรวงการคลังตรวจสอบมา ดูรายละเอียดได้ที่ บริษัท แอดวานซ์ ฟินิชชิ่ง
ต่อกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวไทยพับลิก้าสอบถามนายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานคณะกรรมการและประธานบริหาร บริษัทเทิร์นอะราวด์ จำกัด เป็นบริษัทจัดหาริสต์แบนด์ขายกระทรวงการคลัง ว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหายกับกระทรวงการคลัง ในกรณีที่บอกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือไม่
นายปารเมศร์ ตอบว่า “เรื่องนี้คงเป็นการเข้าใจผิดกัน ผมคงไม่ไปฟ้องหรอก เพราะงานนี้ทำเพื่อถวายในหลวง ถ้าไม่ซื้อของผมก็ไม่มีปัญหา ไปหาเจ้าอื่นมาทำก็ได้ แต่ผมขอร้องเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังว่าอย่ามาเอารูปแบบของผมไปทำ เพราะผมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ถ้ากระทรวงการคลังจะทำต่อก็ไปเอาแบบอื่น ผมขอความเห็นใจกระทรวงการคลังมากกว่า ตอนนี้ผมไปสั่งของเตรียมไว้หมดแล้ว ในเมื่อกระทรวงการคลังไม่สั่งริสต์แบนของเรา เราต้องไปหาช่องทางอื่นขายแทน ตอนนี้ผมได้ไปติดต่อกับบริษัทเอกชน เพื่อขออนุญาตนำออกจำหน่าย ซึ่งหลักการยังคงเดิม รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวง”
“หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่ากระทรวงการคลังไม่ซื้อสินค้าของเรา ก็ทำใจไปได้แล้ว ไม่ได้คิดว่าจะฟ้องร้องอะไร ถ้าไปจ้างคนอื่นทำก็ออกแบบใหม่ ก็แค่นี้”
เมื่อถามว่าบริษัทเทิร์นอะราวด์ทำขายมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้งแบบสายเดี่ยว และแบบสายคู่ ทางกระทรวงการคลังนำได้ขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวงเป็นเงินเท่าไหร่ นายปารเมศร์ ตอบว่าประมาณ 80 กว่าล้านบาท ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าถามทำไมตัวเลขไม่ 120 ล้านบาท นายปารเมศร์ ตอบว่า… ขอโทษที ข้อมูลผมมีทั้งหมด แต่ผมจำรายละเอียดได้ไม่แม่นยำ มันนานมาแล้ว
ส่วนประเด็นราคาที่ขายกันอยู่ที่หน้าเว็ปไซด์มีราคาประมาณ 18-19 บาทต่อชิ้น แต่เทิร์นอะราวด์นำมาขายส่งให้กับกระทรวงการคลัง 39 บาท ต่อชิ้น ได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่าอย่างไร นายปราเมศร์กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังสั่งซื้อ ริสต์แบนด์กับเทิร์นอะราวด์ บริษัทจะต้องไปเตรียมตัว เพราะจำนวนมันเยอะมาก ขั้นแรกก็ต้องไปจ้างพนักงานเพิ่ม จ้างคนออกแบบชิ้นงาน พอออกแบบเสร็จก็ต้องโรงงานทำบล็อคหล่อขึ้นมา จากนั้นก็ต้องไปวางแผนการจัดจำหน่าย ทำประชาสัมพันธ์ และการับงานภาครัฐก็ต้องเสียภาษีทุกอย่าง เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
