คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. ได้เปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐบาลชุดใหม่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดที่แล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะออกมาพร้อมๆ กัน
จากข้อมูลรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐบาลอภิสิทธิ์ดังกล่าวมาเปรียบเทียบบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อคราวเข้ารับตำแหน่งครั้งแรกได้พบการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในหลายๆ ประเด็น
โดยพบว่ารัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด มีทรัพย์สินสุทธิมากที่สุดในวันพ้นจากตำแหน่ง 5 อันดับแรก 1.นายกรณ์ จาติกวณิช มีทรัพย์สินรวม 870,412,468.51 บาท 2.นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ มีทรัพย์สินรวม 678,271,267.59 บาท 3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีทรัพย์สินรวม 676,029,519.98 บาท 4.นายชุมพล ศิลปอาชา มีทรัพย์สินรวม 441,647,903.13 บาท และ 5.นายวีระชัย วีระเมธีกุล มีทรัพย์สิน 338,754,102.59 บาท
สำหรับรัฐมนตรีที่ “จนลง” โดยมีทรัพย์สินสุทธิน้อยที่สุดในวันพ้นจากตำแหน่ง 5 อันดับแรก 1.นายธีระ วงศ์สมุทร มีทรัพย์สิน 5,135,860.90 บาท 2.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษณ์ มีทรัพย์สิน5,410,448.50 บาท 3.นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ มีทรัพย์สิน 10,356,431.86 บาท 4.นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มีทรัพย์สิน 11,422,487.48 บาท และ 5.นายอิสระ สมชัย มีทรัพย์สิน 13,505,435.29 บาท
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในวันพ้นจากตำแหน่ง 5 อันดับแรก ได้แก่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 155,998,657.52 บาท นายกรณ์ จาติกวณิช มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 62,736,987.70 บาท นางพรทิวา นาคาศัยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 19,680,928.18 บาท นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 19,638,887.79 บาท และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 14,036,069.28 บาท
ขณะที่รัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินลดลงมากที่สุดในวันพ้นจากตำแหน่ง 5 อันดับแรกประกอบด้วยนายไชยยศ จิรเมธากร มีทรัพย์สินลดลง 94,271,604.67 บาท นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคมีทรัพย์สินลดลง 34,057,187.34 บาท นายกษิต ภิรมย์มีทรัพย์สินลดลง 20,279,059.75 บาท นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์มีทรัพย์สินลดลง 16,581,105.64 บาท และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์มี ทรัพย์สินลดลง 4,619,627.96 บาท
สำหรับทรัพย์สินของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีพบว่า มีทรัพย์สินโดยรวมในวันที่เข้ารับตำแหน่งเป็นมูลค่า 51,795,878.33 บาท เทียบกับทรัพย์สินในวันที่พ้นจากตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นเป็น 54,355,885.54 บาท เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 2,560,007.21 บาท
อนึ่ง การเปิดเผยบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2554 มาตรา 32 ที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามที่มีอยู่จริงในวันที่เข้ารับตำแหน่งหรือวันที่พ้นจากตำแหน่งต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทุกครั้งที่เข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่ง แล้วแต่กรณี ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด
โดยการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินครั้งนี้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ พ.ร.บ. ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือวันที่ 19 เมษายน 2554 เป็นต้นมา ทำให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินรวมในต่างประเทศ และรวมถึงทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครอง หรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมด้วย จากเดิมที่ไม่มีกำหนดให้ต้องแสดงทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่นทางอ้อม นั่นหมายความว่าหากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีนอมินีเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทน ทรัพย์สินของนอมินีนั้นต้องนำมารวมยื่นต่อ ป.ป.ช. ด้วย
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
